หน้าแรก|กระดาน|รีวิว|ประมูล|ตลาด|เปิดท้าย

The Spinnerbait Chronicle Part II: The truth, Rod, Reel

ด้วยความที่ว่าสปินเนอร์เบทนั้นมี Profile หรือขนาดเหยื่อที่ใหญ่ด้วยตัวกระโปรงที่ฟูฟ่องของเหยื่อนั่นเอง ดังนั้นผู้ที่เอาเข้ามาจึงเน้นขนาดเล็กไว้ก่อนเพราะเน้นปลาช่อนเป็นหลัก และเหยื่อที่เบานั้นจะใช้ในกรณีที่พื้นที่นั้นไม่กว้างนักและมีอุปสรรคประเภทหญ้านอนบนผิวน้ำเยอะๆเนื่องจากด้วยน้ำหนักตัวที่น้อยทำให้เมื่อเหยื่อตกลงไปบนพวกสิ่งกีดขวางแล้วไม่จมลงไปติดหญ้า ณ จังหวะตก (3/8 ก็สามารถทำได้ใก้ลเคียงกับ 1/4 มากๆเหมือนกันในเรื่องนี้) และแน่นอนสปินเนอร์เบทขนาด 1/8 นั้นตียากจริง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่ออยู่ในสภาพลมแรง อย่างไรก็ดีในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมากว่า 1 ปีของการทดสอบ ปรากฎว่าปลาช่อนขนาดคืบกว่าๆก็สามารถตกได้ด้วยสปินเนอร์เบท ขนาด 3/8 รวมทั้งชะโดลิโพและกระสูบเอ็มร้อยก็สามารถตกได้ด้วยสปินเนอร์เบทขนาด 1/2 ออนซ์เป็นจำนวนมากพอควร ดังนั้นขนาดน้ำหนักจึงไม่มีผลต่อความเล็กใหญ่ของปลาซักเท่าใด เพราะสิ่งสำคัญเวลาปลามองเหยื่อคือขนาดของกระโปรงครับ ถ้ารู้สึกว่าตัวเหยื่อใหญ่ไปเราสามารถเล็มกระโปรงบ้างให้เหยื่อเล็กลงได้ครับ แต่ถ้าหนอน 5-6 นิ้วช่อนจิ๋วยังกัดได้ดังนั้นกระโปรงยาวสองนิ้วครึ่งไม่ใช่ปัญหาครับ

รูปประกอบ 3/8 เล็มกระโปรง

แล้วขนาดน้ำหนักของเหยื่อมีไว้ทำไมล่ะ? คำตอบของขนาดน้ำหนักเหยื่อนั้นคือ การเพิ่มความลึกของเหยื่อขณะถูกลากนั่นเอง ยิ่งน้ำหนักมากอัตราการดำลึกก็จะสูงขึ้นไปด้วย

ณ ปัจจุบันขนาดน้ำหนักเหยื่อที่เป็นที่นิยมที่สุดของสปินเนอร์เบทอเมริกาคือ 3/8 (10.5 กรัม) และ 1/2 ออนซ์ (14 กรัม) เนื่องจากทั้งสองขนาดน้ำหนักนี้เหมาะที่สุดในการใช้เป็น Search Bait หรือเหยื่อสำหรับการควานหาตัวปลาในพื้นที่กว้างๆ เช่นเดียวกับเหยื่อประเภทกบและผิวน้ำที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนี้ซึ่งจัดเป็น Search Bait เช่นกัน เนื่องจากตีต่อเนื่องได้เร็ว ครอบคลุมพื้นที่ได้เยอะ ขณะที่ 3/4 และ 1 ออนซ์นั้นเน้นเอาไว้ตีกวาดหาตัวปลาที่ระดับน้ำลึกมากๆระดับ 8 – 12 ฟุตขึ้นไป อย่างไรก็ดีอย่าลืมสิ่งที่ได้เรียนรู้จากบทที่ 1 นะครับ ใบนั้นสำคัญมากๆ แม้เหยื่อจะมีน้ำหนักมากขึ้นถ้าจับคู่กับใบบางประเภทก็สามารถที่จะดำตื้นกว่าตัวที่น้ำหนักเบากว่าบางประเภทได้

อาจจะมีคำถามว่าถ้างั้นจะทำมาทำไมหลายน้ำหนักล่ะขนาดเดียวเล่นให้ทั่วเลยแค่เปลี่ยนใบไม่ดีกว่าเหรอ คำตอบคือน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นทำให้กรอได้เร็วขึ้นครับ เช่น Double Willow ของ 3/8 ถ้ากรอเร็วมากๆมามันเป็นเหยื่อที่ก็อาจอยู่ตื้นหน่อย แต่ถ้าเป็น 1/2 Double Willow ต่อให้กรอเร็วเท่ากันก็จะไม่ตื้นมากเท่า 3/8 ครับ แต่ใบหลิวเดี่ยวของ 3/8 ก็จะอยู่ลึกกว่า Double Willow 1/2 ในกรณีนี้เป็นต้นอาจงงนิดนึงแต่ต้องลองเองครับจุดนี้ ลึกลงไปอีกแค่ฟุตเดียวผลที่ได้อาจต่างกันไปเลยก็ได้ในแต่ละวัน

คัน และ รอก
การเลือกคันให้เหมาะกับน้ำหนักเหยื่อคือสิ่งสำคัญที่หลายๆครั้งนั้นถูกมองข้าม โดยทั่วไปคันเบ็ดระดับ 10-17 ปอนด์นั้นจะมีขนาดของเหยื่ออยู่ที่ 1/4 - 3/4 ออนซ์ นั่นคือ 7 – 21 กรัมนั่นเอง ซึ่งดูจากสเปคแล้วคันนี้จะเหมาะสำหรับตีสปินเนอร์เบทระดับ 3/4 ได้สบาย แต่จริงๆนั้นไม่ใช่ ครับ

สาเหตุเพราะน้ำหนักของสปินเนอร์เบทที่ระบุไว้บนแพคเกจเหยื่อนั้นคือน้ำหนักของตัวเหยื่อเท่านั้น ไม่ได้รวมถึง สเกิร์ต และใบเข้าไป ซึ่งพอรวมสิ่งเพิ่มเติมเหล่านี้เข้าไปอาจทำให้น้ำหนักเหยื่อ เปลี่ยนไปเป็นคนละระดับเลยก็ได้ เช่นเหยื่อขนาด 3/8 ออนซ์ ถ้าเป็นแบบใบหลิวเดี่ยวน้ำหนักมักจะวิ่งขึ้นไปอยู่ที่ประมาณ 15-16 กรัม และถ้าเป็นใบคู่โดยเฉพาะแทนเด็มนั้นน้ำหนักสามารถวิ่งไปปริ่มๆ 20 กรัมเลยก็ได้ ซึ่งสำหรับคัน 10-17 แล้วแม้ช่วงน้ำหนักจะตีเหยื่อได้ถึง 21 กรัมเลยก็ตาม แต่น้ำหนักขนาดนั้นมักจะโหลดปลายคันมากทำให้ดีดเหยื่อไม่ได้ระยะเท่าที่ควร (แต่ไม่ใช่ตีแย่เลยนะครับ) แต่ถ้าเอาไปแมทซ์กับ คัน 10-20 ที่มีระดับเหยื่อ 3/8 – 1 ออนซ์แล้ว ระยะที่ได้เพิ่มขึ้นมาน่าประทับใจ แม้จะเสียความแม่นยำในการตี Pin Point (ตีเข้าเฉพาะจุด) ไปบ้าง เนื่องจากคันที่ปลายอ่อนโดยปรกติจะส่งเหยื่อลงจุดได้แม่นกว่า โดยสรุปแล้วคัน 10-17 ครอบคลุมสปินเนอร์เบท  3/8 ออนซ์ได้ทุกประเภท (ที่ใบหน้าไม่ใหญ่ไป) รวมถึง 1/2 ออนซ์ที่เป็นใบเดี่ยว ถ้าหนักกว่านี้รวมถึง 3/8 ออนซ์แทนเด็มคัน 10 - 20 ปอนด์จะเหมาะสมกว่า ดังนั้นคันบางแบรนด์จึงแยกคันสปินเนอร์เบทออกสำหรับ สปินเนอร์เบทเล็กและสปินเนอร์เบทใหญ่

ภาพประกอบคันสำหรับเทคนิคประเภทต่างๆ

ต่อเนื่องกันด้วยเรื่องของรอก เนื่องจากเทคนิคหลักๆของสปินเนอร์เบทในการใช้เป็น search bait คือ Slow rolling หรือการกรอช้าเพื่อให้เหยื่อลงลึก กับ Burning คือการกรอเร็วเพื่อให้เหยื่ออยู่ตื้น แต่แน่นอนไม่ใช่ปั่นกระฉูดแบบที่บางคนปั่นกบนะครับ (บางทีผมเห็นปั่นแบบนั้นแล้วกลัวกบโกรธโดดขึ้นมากัดเจ้าของคันฐานให้มันวิ่งเหนื่อย) เทคนิคทั้งสองอย่างนี้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ว่าเป็นเวลาไหน เช้าเย็นอากาศสบายๆ หรือปลาหนีร้อนลงไปอยู่ลึกขึ้น อย่างที่บอกฟุตเดียวก็มีผลครับ ดังนั้นรอกที่เราควรเลือกขึ้นอยู่กับว่าเราจะใช้เทคนิคไหน อาจต้องศึกษากันนิดหน่อยเรื่องอัตราการเก็บสายของรอก ตัวผมเองมี Alphas (5.8:1 เก็บสาย 60 เซนต์ต่อรอบ) และ Steez (6.3:1 เก็บสาย 66 เซนต์ต่อรอบ) แม้จะดูว่าต่างกันไม่มากแต่เมื่อเอาไปกรอจริงๆความต่างจะเห็นชัดโดยเฉพาะเมื่อต้องการให้ลงลึก ส่วนตัวผมมักจะเลือกรอบต่ำไว้ก่อนเพราะปรับเป็นกรอเร็วได้ง่ายกว่าค่อยๆกรอ รอกอื่นๆที่นิยมกันก็คือ  Antares DC (5.8:1 เก็บสาย 65 เซนต์ต่อรอบ), DC 7 ( 7.0:1 เก็บสาย 79 เซนต์ต่อรอบ) Scorpion MG (6.2:1 เก็บสาย 64 เซนต์ต่อรอบ)

รูปประกอบ Daiwa Spinnerbait rod & Alphas
Credit Tackletour.com

คราวหน้าจะเป็นเรื่องทำไมปลาถึงกัดตัวเหยื่อ สายหน้า และวิธีการจูนครับ ขอตัวไปนั่งพิมพ์ป๊อกแป๊กต่อครับ

ตามมาอ่านเอาความรู้ครับ

ขอบคุณครับ

ขอบคุญครับกับสิงดีๆที่มอบให้
+1000 เลย

เยี่ยม ๆ 

เรียบร้อยดี

good 

ศึกษาไว้ก่อนกำลังประกาศขายนา เก็บตังค์ซื้อครับ  ดีมากๆเลยครับ

ขอบคุณครับ

ขอบคุณครับ...

แก้ตัวเลขน้ำหนักที่เสียให้แล้วครับ copy จากที่พิมพ์ไว้ใน word มาเลยเพี้ยนๆ 

ขอบคุณครับ

ขอบคุณน้า Valky มากครับที่แนะนำเทคนิคต่างๆ เกี่ยวกับสปินเนอร์เบท ทำให้ได้ความรู้ละเอียดเพิ่มขึ้นอีกเยอะ อิ อิ อิ ผมคนนึงล่ะที่ชอบใช้สปินเนอร์เบทตกปลาช่อน  +1 ครับ