เรื่องที่ผมจะเล่าต่อไปนี้ เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นกับคนรู้จักของผมขณะออกไปตกปลาตามหมายธรรมชาติ คือเพื่อนผมคนนี้ชอบออกไปตกปลาตามหมายธรรมชาติ โดยจะจอดรถไว้ข้างทาง แล้วก็จะถืออุปกรณ์เดินต่อเข้าหมาย(เนื่องจากไม่สามารถขับรถเข้าหมายได้) วันหนึ่งขณะเพื่อนผม และพรรคพวกอีก 2 คนไปตกปลาที่ต่างจังหวัด เขาก็จอกรถไว้ที่ปากทางตามปกติ แล้วก็เข้าไปตกปลาภายในอ่างเก็บน้ำ โดยเดินเข้าไปลึกประมาณ 500 เมตร ช่วงที่เริ่มตกเวลาประมาณ 19.00 น. ทุกอย่างปกติดีจนกระทั่งเวลาประมาณ 23.00 น. เขาได้ยินเสียงคนตะโกนเรียกเจ้าของรถ และเห็นมีแสงไฟฉายจากบริเวณที่จอดรถไว้ จึงวางคันเบ็ด และกลับไปที่รถ พบเจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 คน(สายตรวจ) ลงมาจากมอเตอร์ไซค์และเข้ามาคุยทำนองว่าจะขอดูใบทะเบียนรถ เนื่องจากสงสัยว่าจะเป็นรถที่ขโมยมา เพื่อนผมเป็นคนที่ค่อนข้างรอบคอบจึงติดเอาไว้ในเก๊ะรถทุกครั้งที่ออกไปต่างจังหวัด ก็เอาให้ตำราจดู แต่ตำรวจ 2 คนนั้นก็ยังไม่ไป ยังขอตรวจภายในรถด้วยความบริสุทธิ์ใจ เพื่อนผมก็ยอมให้ตำรวจเข้าไปตรวจภายในรถแต่โดยดี จากนั้นตำรวจทั้ง 2 คนก็ไป พอตำรวจไปเพื่อนผมก็กำลังจะกลับไปตกต่อขณะที่เขากำลังจะเอื้อมมือไปปิดไฟในเก๋ง เขาพบสิ่งผิดปกติในรถ มีห่อกระดาษตกอยู่ที่เบาะหลัง เมื่อแกะห่อกระดาษดูปรากฎว่าพบหลอดกาแฟ2หลอดภายในหลอดมีเม็ดยาข้างในหลอดละ 5 เม็ด เพื่อนผมชักสงสัยจึงถามเพื่อนที่มาด้วยกันว่ามีใครเล่นยาหรือเปล่า ทั้ง2คนปฏิเสธ(ผมเองก็รู้จัทั้ง 3 คนนี้ดี และมั่นใจว่าไม่มีใครติดยา)เพื่อนผมจึงขว้างห่อยานั้นทิ้งลงน้ำ และเดินกลับไปเก็บคันเบ็ด ด้วยรู้ว่าตัวเองโดนเข้าแล้ว เชื่อไหมครับ อีกไม่ถึง 30 นาทีตำรวจก็กลับมาอีก คราวนี้เอารถกระบะมากันเลย มาขอค้นรถอีกครั้ง เพื่อนผมบอกไม่ยอมให้ค้นเพราะตรงนี้มันมืด จึงขับรถไปยังปั๊มน้ำมัน โดยมีรถตำรวจขับตามไป คราวนี้เพื่อนผมเดินตามตำรวจเลยครับ และบอกว่าให้เข้ามาค้นเพียง 2 คนเพื่อนผมก็ตามตำรวจคนละคน อีกคนที่เหลืออยู่นอกรถคอยดูตำรวจข้างนอกไว้ ปรากฎว่าไม่พบอะไร เพื่อนๆนักตกปลาที่ชอบไปตกตามหมายธรรมชาติอ่านเรื่องนี้แล้วต้องระวังตัวไว้ด้วยนะครับ เพราะถ้าเพื่อนผมคนนั้นไม่เจอยาก่อนที่ตำรวจจะมาล่ะก้อ ป่านนี้ไม่เสียเงินเป็นแสน ก็ต้องไปนอนในซังเตแล้วมั้งครับ มีใครที่รู้จักก็บอกต่อๆกันด้วยนะครับ