สยามฟิชชิ่ง
หน้าแรก|กระดาน|รีวิว|ประมูล|ตลาด|เปิดท้าย
login | สมัครสมาชิก | วิธีสมัครสมาชิก | ลืมชื่อ/รหัส | login ไม่ได้? | 27 เม.ย. 67
หาผู้รู้ช่วยตอบเรื่องปลาเกล็ดแทนผมทีครับน้องๆฝากถาม: SiamFishing : Thailand Fishing Community
หน้าที่:< 1 | 2 | 3 >
 กระดาน > สปิ๋ว/ชิงหลิว
ความเห็น: 61 - [26 ธ.ค. 49, 18:02] ดู: 10,416 - [26 เม.ย. 67, 23:45]  ติดตาม: 1
หาผู้รู้ช่วยตอบเรื่องปลาเกล็ดแทนผมทีครับน้องๆฝากถาม
กระทู้: 56
ความเห็น: 2,323
ล่าสุด: 27-01-2566
ตั้งแต่: 30-07-2549
ความเห็นที่ 26: 22 ธ.ค. 49, 08:28
ดีครับพี่น้องพอดีงานยุ่งนิดนึงก่อนอื่นผมขออนุญาตบอกกล่าว
พี่ๆน้าๆว่าสิ่งที่ผมออกมาผลักดันหรือเสนอแนะและให้ข้อมูลต่างๆนั้นเป็นความตั้งใจที่ผมต้องการให้วงการปลาเกล็ดดีขึ้น
และนักตกปลาหน้าใหม่จะได้มีข้อมูลในการตกปลาเกล็ด
++ผมไม่ได้ต้องการเป็น  เทพ หรือ  ผู้อวดรู้  หรืออยากดัง+++
เพราะในโลกของความเป็นจริงผมมีชื่อเสียงพอสมควรไม่เคยคิดจะมาทำตัวเด่นดังในนี้++ผมเห็นว่ามีผู้อยากรู้แต่ไม่มีผู้ตอบ
การที่ผมรู้แล้วมาตอบมันผิดด้วยหรือผมขอเถอะครับในบ้านสยามเขาอยู่กันอย่างมีความสุขสมาชิกใหม่เข้ามาไม่ใช่น้อย
ขอเถอะครับโปรดอย่าทำตัวเป็น++ไอ้เข้ขวางคลองเลยครับ


นับถือทุกท่านจากใจ...........เอก  ทีมขนุน 089-773-9148


ขอบคุณน้านาราที่ช่วยมาให้ข้อมูลเพิ่มเติม
กระทู้: 38
ความเห็น: 1,067
ล่าสุด: 22-04-2567
ตั้งแต่: 27-10-2548
นารา(132 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
ความเห็นที่ 27: 22 ธ.ค. 49, 08:29
คามพูดนี้ก็มีปาโหยด

สายชิ่ง เลือกได้ตามเทคนิคที่ตก
ตกแบบเหยื่อนอน สายชิ่งยาว 5-6 cm. ยาวมาก ทุ่นไม่รู้สึก สั้นมากปลาระแวงแต่ทุ่นเร็วมาก ปลามันสะดุด ไม่ดี
ตกแบบเหยื่อตั้ง เลือกได้สองแบบ แบบแรก สายชิ่งเท่ากัน แบบสอง สั้นข้างยาวข้าง อยู่ที่การเลือกใช้ทุ่น และเหยื่อ เพราะเยื่อก้อนหนึ่งจะวางหน้าดิน อีกอันจะลอยเหนือหน้าดินตามความยาวสายชิ่ง และแบบนี้ยังแยกย่อยออกไปอีกตามชนิดเหยื่อ ชนิดปลาตามหมาย เป็นความยาวสายชิ่งหลายๆขนาดตามสภาะหมายที่ตก มียาว10/18 cm 10/20 8/18 20/30 หรือ สายชิ่งเส้นเดียวที่เรียกว่าหลีดศอก ยาวซัก 20-30 cm. เลือกใช้ตามทุ่น และเหยื่อ และวิธีที่ตก จะเอาแบบเหยื่อลอยหรือแตะหน้าดิน ซึ่งทุ่นต้องเลือกใช้ตามหมายที่ตกไม่ได้ตายตัวครับ
กระทู้: 38
ความเห็น: 1,067
ล่าสุด: 22-04-2567
ตั้งแต่: 27-10-2548
นารา(132 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
ความเห็นที่ 28: 22 ธ.ค. 49, 08:31
อานนี้ ก็อิกท่านเทพนึง

ขอใช้ความรู้ที่มีอันน้อยนิดอธิบายนิดนึงนะคับ
"ทุ่น" ในเกมส์ตกปลาเนี่ยคืออุปกรณืชิ้นนึงของชุดสายหน้ามีไว้เพื่อใช่พยุงเหยื่อให้อยู่ในระดับที่ต้องการนี่คือความหมายหลัก แต่ทุ่นที่ใช้ตกชิงหลิวหรือสะปิ๋วมันมีมากกว่านั้น
          ทุ่มชิงหลิวคือทุ่นที่สามารถสื่อสารสัญญาณการกระทำของปลาได้ละเอียดที่สุดและว่องไวที่สุด
            วัสดุที่ใช้ก็มีพวกพลาสติก โฟม ไม้ ก้านขนสัตว์  สำหรับทุ่นที่ดีต้อง  ลอยน้ำได้ดี  ไม่ดูดซึม หรือ ซับน้ำ ที่ทำให้ประสิทธิภาพของทุ่นเสีย
            สำหรับทุ่นที่ว่าดีที่สุดก็เปนทุ่นที่ทำจากหางนกยูง แต่อยากไปใช้มันเลยคับเพราะราคาเบาะๆก็แค่ 3-400 บาทเองคับ (ราคาที่ถูกสุด) ถ้าเอาอย่างดีๆก็แค่พันสองพันเองคับนิดหน่อย มันอยู่ที่ความชำนาญ อาจใช้ขนเม่นหรือพลาสติกก็ดี หรือ ไม้ก็แล้วแต่ชอบ แต่ตัวผมว่าขนเม่นเหมาะดีคับ
  *รูปทุ่นแบบขนเม่นมีน้าๆเอามาให้ดูแล้วนะคับลองเปิดหน้า 1*
              สำหรับทุ่นชิงหลิวที่ใช้กันอยู่ในตอนนี้มี 2 กลุ่มใหญ่ๆคับ คือ ทุ่นน้ำลึก และ ทุ่นน้ำตื้น สังเกตุง่ายๆเลยคับ คือทุ่นน้ำตื้นเนี่ยจะเป็นแบบที่ใช้ไส้ไก่เสียบ (ไส้ไก่รถถีบหรือรถจักรยานเนี่ยแหละคับ) ส่วนทุ่นน้ำลึก จะมีห่วงให้ร้อยสายผ่านตรงตูดทุ่น
นี่ก็คือ 2 กลุ่มใหญ่ๆ แต่ถ้าแบ่งเป็นแบบย่อยๆแล้วต้องแบ่งตามลักษณะการใช้งานคับ  คือเช่น ทุ่นสำหรับตกแบบไม้ตาย  ทุ่นสำหรับตกแบบบาลานซ์    ทุ่นสำหรับตกแบบลีดศอก และทุ่นสำหรับตกแบบเหยื่อลอย บางทีอาจจะมองว่าทุ่นอย่างเดียวน่าจะตกได้ทุกแบบมันก็ใช่นะคับ แต่ว่าทุ่นแต่ละชนิดมันมีขอบข่ายการใช้งานที่แตกต่างกันอยู่แล้ว ซึ่งจะรู้ถึงความแตกต่าง  เพราะการใช้ทุ่นที่เหมาะกับการตกและสนิทของปลาจะทำให้ได้ผลดีกว่าอยู่แล้ว
          เดี๋ยวมาต่อคับเมื่อยมือๆ 
ทุ่นชิงหลิวดอกเรียวเล็กนั้นจะสื่อสารได้อย่างเที่ยงตรงแน่นอนได้ก็ต่อเมื่อผู้ตกตั้งทุ่นและอ่านอาการของทุ่นเป็น สำหรับมือชิงหลิวหรือสะปิ๋วที่มีประสบการณ์สูงนั้นบางคนสามารถจะอ่านทุ่นออกถึงขนาดรู้ว่าปลาที่กินเหยื่อนั้นเป็นปลาอะไร กำลังทำอะไรกับเหยื่อ นั่นเพราะการรู้จักที่จะเลือกทุ่นและวิธีตั้งทุ่นที่ถูกต้องตามวิธีและชนิดปลาที่ต้องการตก
        ทุ่นชิงหลิวมีหลายแบบแต่ที่ลักษณะเหมือนๆกัน คือส่วนตรง ตูดทุ่น    ตัวทุ่น  และหางทุ่น
        *ตูดทุ่น
      คือส่วนที่จะเชื่อมเข้ากับสายเมน มี 2 แบบ คือ แบบห่วงไว้ร้อยสายผ่านโดยการใช้ไลน์สต๊อปเปอร์เป้นตัวล๊อกทุ่นให้อยู่ในระดับความลึกที่ต้องการ เป็นทุ่นสำหรับตกน้ำลึก เพราะตรงตูดทุ่นจะรูดลงเองเวลาเราอัดปลา เป็นการง่ายต่อการส่งเหยื่อด้วยเพราะถ้าใช้ทุ่นแบบใช้ไส้ไก่เวลาตกในบริเวณที่มีน้ำลึกจะทำให้ติดปลายไกด์อัดปลาลำบาก อีกแบบนึงคือทุ่มที่มีพลาสติกแหลมเอาไว้เสียบเข้ากับไส้ไก่ใช้ในการตกระดับน้ำลึกไม่เกิน 1.20 เมตรโดยประมาณ ถ้าลึกกว่านี้ต้องใช้ทุ่นแบบห่วง
            *ตัวทุ่น
        คือส่วนที่สำคัญที่สุด  ทำจากวัสดุที่มีคุณสมบัติลอยน้ำได้ดีเช่น พลาสติก โฟม ไม้ ขนขกยูง ขนเม่น ขนรักแร้น้าป้อม เอ้ยอันนี้ใช้ไม่ได้ ให้ไปใช้ขนรักแร้น้าหมึกหรือน้ามาดแทน    สองคนนี้ก็ใช้ไม่ได้    รูปร่างของทุ่นจะมีอยู่ 3 แบบ คือ หยดน้ำสั้น  หยดน้ำยาว  แล้วก็แบบยาวรีด้านเท่า นอกนั้นก้แล้วแต่จะมีคนคิดค้นออกมาว่ามีแบบไหน บางแห่งจะผลิตทุ่นที่ใช้สำหรับตกปลาบางประเภทโดยเฉพาะ
              *หางทุ่น
          คือส่วนที่โผล่ขึ้นมาเหนือน้ำ เป็นจุดสังเกตปฏิกิริยาการเข้ากินเหยื่อและการกระทำของปลาถือว่าเป็นส่วนสำคัญที่สุดของทุ่น สำหรับทุ่นจะหางสั้นหรือหางยาวนั้นขึ้นอยู่กับตัวทุ่น และหางทุ่นจะเล็กหรือใหญ่ก็ขึ้นิยู่กับตัวทุ่นเช่นเดียวกัน เพราะหากว่าทุ่นขาดความเหมาะสมแล้วความสมดุลของทุ่นก็จะหมดไป ทำให้การส่งสัญญาณของทุ่นไม่สมบูรณ์ ส่วนหางทุ่นนั้นมักจะมีการแต้มสีให้แสดๆไว้โดยมีสีดำตัดแบ่งเป้นปล่องๆมีทั้งปล่องถี่และปล้องห่าง

                หางทุ่นชิงหลิวนั้นไม่ได้มีแต่แบบเรียวเล็กเพียงอย่างเดียวยังมีแบบปลายปล่อง ปลายใหญ่โคนเล็ก  เพื่อแบ่งแยกการใช้งานตามลักษณะของหางอีกด้วย  เช่น ใช้ตกในระยะไกล  ตกในระยะใกล้หรือตกในแหล่งน้ำไหลนิ่ง - น้ำไหล ตกในเวลากลางคืนที่มีแสงน้อยหรือว่าตกกลางวันที่มีแสงแดดจ้า  โดยทุ่นชิงหลิวจะแบ่งแยกออกจากกันโดยละเอียด รวมทั้งวิธีการตกแต่ละแบบก็ต้องใช้ทุ่นที่ต่างกันอีกด้วยทั้งตัวทุ่นและหางทุ่น

            *การตกทุ่นชิงหลิวนั้นจะเฉพาะเจาะจงลงไปได้เลยนั้นก็ต่อเมื่อผู้ใช้รู้จักวิธีการตั้งทุ่นที่ถูกต้องตามวิธีที่ต้องการตก แต่หลักการต่างๆ จะไม่มีผลกับทุ่นดอกนั้นก็ต่อเมื่อผู้ใช้เกิดความเคยชินและถนัด มีความชำนาญพอก็จะหมดปัญหาในการเลือกใช้ทุ่น
      -สำหรับการตกชิงหลิวหรือสะปิ๋วนั้นไม่จำเป็นว่าทุ่นจมปลาจะกินหรือตวัดหรือติดเสมอไปอยู่ที่ความชำนาณ มือโปรบางคนสามารถอ่านสัญญาณของทุ่นได้อย่างแม่นยำยิ่งกว่าตาเห็น    จนสามารถแยกแยะได้เลยว่าปลากำลังทำอะไรกับเหยื่อและเป้นปลาอะไร การอ่านทุ่นให้ขาดนั้นเป็นสิ่งที่มือสะปิ๋วควรมี เพราะไม่ใช่ว่าเมื่อปลากินเหยื่อแล้วจะต้องคาบ วิ่ง  ทุ่นจึงจมหายไปซะหมดทุกตัว ปลาแต่ละชนิดจะมีวิธีการกินเหยื่อที่แตกต่างกันกันจึงควรเรียนรู้วิธีการอ่านทุ่นให้เป็น เพื่อกะจังหวะให้เหมาะในการตวัดเบ็ดให้ถูกช่วงถูกเวลาที่เหมาะสม
กระทู้: 38
ความเห็น: 1,067
ล่าสุด: 22-04-2567
ตั้งแต่: 27-10-2548
นารา(132 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
ความเห็นที่ 29: 22 ธ.ค. 49, 08:32
อานนี้ก็อิกหนึ่งท่านเทพ

หยอดหลุม

อุปกรณ์ที่นิยมใช้ก็คือ ชุดตกสะปิ๋ว โดยการปรับระดับทุ่นให้อยู่ในลักษณะ นอนราบกับพื้นน้ำ หรือ จมลงไปครึ่งนึงของตัวทุ่น เมื่อลากแล้วหยุดๆไปเรื่อยๆตามขอบบ่อ ก็จะเจอหลุมปลาครับ ทุ่นจะจมลงไปอีกครึ่งทำให้ทุ่นที่นอนราบกับพื้นน้ำตั้งขึ้น หรือทุ่นที่ตั้งไว้แค่ครึ่งจะจมลงโผล่แค่หาง เมื่อปลาเข้าหลุมเพื่อทำความสอาด ทุ่นจะออกอาการ ส่าย แล้วก็จะจมลง หรือลอยขึ้นมา ช่วงที่ทุ่นจม หรือลอย ก็ตวัดได้เลยครับ 10%จะติดที่ปาก 90%จะติดตามครีบ ใต้ท้อง และบริเวนอื่นๆ เมื่อก่อนนั้นใช้เบ็ดตัวเดียวแต่......เดี๋ยวนี้พัฒนาการไปอ่อนนุช เอ้ยยยยยไม่ใช่ ใช้ตัวเบ็ดแบบ 3 ทางกันแล้วครับ
อ้อ...เกือบลืม ถ้าจะตกด้วยวิธีนี้ ผมแนะนำให้มี สวิง ติดไปด้วยนะครับ เหตุเพราะบางครั้งตัวเบ็ดเกี่ยวแบบ หมิ่นๆ ไม่สามารถยกขึ้นฝั่งได้ อีกอย่างที่ควรทำก็คือ เปิดเบรคไว้พอหนืดๆก็ดีนะครับ บางหลุมนั้นปลานิล ตัวเกือบโล หรือโลกว่าก็มี หลุมน้ำลึกปลาใหญ่นะครับ
การที่เราจะตกปลาแบบสะปิ๋วให้ได้ตัวนั้น ก่อนอื่นเราต้องมีอูปกรณ์ที่ใช้ตกคือ คันที่เราชอบนั่นเองนะครับ
โดยคันเบ็ดที่นำมาใช้นั้นก็มีพวกพี่มาให้ความรู้กันมากแล้วนะครับลองหาดูกันได้ในบทความนะครับ
ส่วนผมจะเป็นส่วนของการเริ่มตกเลยแล้วกันนะครับ เริ่มจากการผูกเบ็ด เราจะใช้แบบ ตัวเบ็ด 1 ตัว หรือ 2 ตัวก็ได้
แล้วแต่บ่อที่ที่จะตกนะครับ เช่น บ่อที่มีปลามากมายเราอาจจะใช้ 2 ตัวเพื่อที่จะวัดติดทีเดียว 2 ตัวก็มี แต่ถ้าตัวเดียวนี่
คือลูกผู้ชายเลยนะครับ การผูกนั้นไม่ได้เน้นอะไรมากมายเพียงแค่เรารู้สึกว่าเบ็ดที่เราผูกนั้นเบาเวลาวัดจะได้น้ำหนักดีครับ
เหยื่อที่ใช้ ผมจะใช้ ขนมปังแผ่นอย่างเดียวนะครับ ได้ผลดีมากกับทุกปลานะครับ
ส่วนเหยื่ออ่อยนั้นจะใช้ รำละเอียด ผสมกับขนมแยมโรวที่มีขายตามร้านขายเบเกอรี่ทั่วไปน่าจะมีขายกันนะครับไปขอซื้อเศษๆ
ที่เขาไม่ใช้แล้วนั่นแหละครับแถมกินได้ด้วย ส่วนในการตกนั้นเราต้องใจเย็นมากๆครับห้ามเสียงดังจนเกินไป การลากโต๊ะ
ไปมาก็อาจทำให้ปลาไม่ฉวยเหยื่อได้เช่นเดีนวกัน และการตกปลาไม่ควรหวังอะไรมากนักควรสนุกกับการพักผ่อนจะดีกว่าแล้วทุกอย่างจะดีเองเชื่อผมเถอะ
กระทู้: 38
ความเห็น: 1,067
ล่าสุด: 22-04-2567
ตั้งแต่: 27-10-2548
นารา(132 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
ความเห็นที่ 30: 22 ธ.ค. 49, 08:34
ท่านเทพนี้มาแบบลูกทุ่งอ่านแว้วเข้าจายง่าย


สะปิ๋ว"คำๆนักตกปลาใหม่ๆหลายคนอาจจะงงและสงสัยว่ามันคืออะไร แต่ถ้าเป็นนักตกปลาเกร็ด หรือนักตกปลาเก่าๆหลายคน คงรู้ความหมายของมันดี รากศัพย์ของสะปิ๋วจริงๆนั้นไม่มีอยู่ใน สารของการตกปลาหรอกครับแต่"สะปิ๋ว" นั้น เป็นการตั้งขึ้น มาเอง ก้อจากนักตกปลานี่แหละ โดยการรวมเอาการตกปลา 2 รูปแบบมาผสมกัน คือการตะแบบ "ชิงหลิว" และ การตกแบบ"สปินนิ่ง" แล้วแท้ที่จริงแล้วการตกปลาแบบ "สะปิ๋ว" คืออะไร ???
นักตกปลา อย่างเราๆท่านหลายคนคงทราบกันอยู่แล้วว่าการตกปลาเกร็ดให้ได้ อรรถรสแล้วนั้น ต้องตกด้วย "คันชิงหลิว" และยังถือว่าเป็น สุดยอดวิชา อีกด้วย แต่ ด้วยเหตุที่ว่า คันชิงหลิว มีขอบเขตของประสิทธิภาพ ที่จำกัดอยู่เพียง รัศมีครอบคุมอยู่เพียง ความยาวของสาย+ความยาว ของคัน บางครั้งการที่เจอกับปลาขนาดใหญ่ อย่างปลาซ่ง หรือบางครั้งคราว นักตกปลาบางท่านอ่าจดวงดี(เกินไป) เมื่อ หย่อน คันชิงหลิวแล้วเจ้ากระโห้ นักเลงโตแห่งเจ้าพระยาแต่มาหากินอยู่ตาม ฟิชชิ่งปาร์ค เข้ามาฉวยเหยื่อเม็ดเล็กจากปลายสายของ ท่านนักตกปลา แล้ว ลากถูลู่ถูกังจนไม่สายขาด ก้อ คันหักไปตามๆกัน นักตกปลา ในสมัยนั้น จึงได้คิดค้น กรรมวิธีในการตกเสียใหม่โดยการเอา คันชิงหลิว มาติดไกด์เข้าไปแล้ว แปะ รีลซีท เข้าให้อีกตัวหนึ่ง หารอก ขนาดเล็กกระทัดรัดมาใส่เข้า ก้อแล้วตั้ง ชื่อเสียดูน่าเกรงขามว่า "เสือติดปีก" ซึ่งตัวผมเองก้อยังดูไม่ออกว่ามันเหมือนเสือมีปีกตรงไหน แต่บทสรุปของเสือติดปี นี้ สามารถ สยบปลาเกร็ด ไม่ว่าจะเป็น ซ่ง ยี่สก หรือกระโห้(ขนาดหย่านม) ตาม ฟิชชิ่ง ปาร์ค มานักต่อนักแล้ว
แต่นักตกปลานั้นขึ้นชื่อได้ว่าเป็นคนที่ชอบคิดค้นไม่หยุดนิ่ง จึงได้ พัฒนาการตกแบบใหม่ ขึ้นมาแทนเจ้า เสือติดปีก ที่เรียกกันว่า "สะปิ๋ว" ด้วยเหตุผล หักล้างกับ เสือติดปีกที่ว่า
1. "สะปิ๋ว" ใช้คันที่สั้นกว่า ให้ Action ที่ สามารถควบคุม ปลาได้ดีกว่า "เสือติดปีก"
2. รัศมีพื้นที่การหากิน (การตีเหยื่อ) ได้ไกลมากขึ้น
3. อุปกรณ์พกพาได้สะดวกกว่า "เสือติดปีก" เยอะ แถมมีน้ำหนักเบา
4. สะดวกไม่เกะกะ สามารถ นั่งตกในพื้นที่แคบๆได้
คันเบ็ด"ที่เหมาะที่สุด คือคัน สปินนิ่ง ที่มี แอ็คชั่น ปานกลางค่อนข้างอ่อน หรืออ่อนก้อได้ คันเบ็ดถือว่าเป็นสั่งสำคัญอันดับแรก ที่เราต้องเลือก เพราะเมื่อเราตวัดคันวัดปลา คันเบ็ดจะต้องถ่ายกำลังลงไปที่ตัวเบ็ดได้เร็วที่สุด ขนาดของคันเบ็ด วัดจากปลายแล้วต้องเรียวเล็ก โคนคันเบ็ดที่เหมาะไม่ควรใหญ่เกินนิ้วก้อยของผู้ตก ความยาวของคันเบ็ดนั้นขึ้นอยู่ กับระยะที่เราต้องการจะตก แต่ควรไม่เกิน 8 ฟุต เพราะจะได้ง่ายและสะดวก ต่อผู้ตก คันจะต้องมีการให้ตัวที่ดี สปิงตัวดี และต้องมีน้ำหนักเบา คันที่ เหมาะกับการตกแบบสะปิ๋ว ในบ้านเรามีหลายรุ่น อาทิ เช่น
คันไดว่า เพาเวอร์เมช รุ่นที่มีใยเคฟลาร์ใช้ได้ ทุกขนาด
คันไดว่า ซามูไร ขนาดตั้งแต่ 7-9 ฟุต
คันเบิร์คเล่ย์ เฟเซอร์ ใช้ได้ทุกขนาดความยาว
คันเบิร์คเล่ย์ เทคนิค ใช้ได้ทุกขนาดความยาว
คันลูมิส ซูเปอร์ 7ฟุต



เพื่อนๆที่เคยได้ตกสะปิ๋วคงจะเคยตกหน้าดินมาก่อนแล้วทุกคนนะครับ เมื่อก่อนผมก็เคยตกหน้าดินเหมือนกันแต่ตอนนี้หันมาเอาดีทางสปิ๋ว เพราะว่า อย่างแรกเลย ต้นทุนน้อยกว่า มันส์กว่าเมื่อได้เย่อกับไอ้บิ๊กๆ อีกอย่างหนึ่งถ้าเป็นหมายธรรมชาติ เราไม่กินแห้วแน่นอน
ครั้งนี้ผมมีเทคนิคในการตกที่ผมเคยลองอ่านบทความของแต่ละ
เวป ไม่ค่อยจะบอกวีธีนี้สักเท่าไหร หรือผมหาไม่เจอเองก็ไม่รู้
เลยอยากจะช่วยแนะนำมือใหม่ ที่อยากหันมาตกสะปิ๋วบ้าง
เคยมีบ้างไหมครับที่เรานั่งตกปลาทั้งวัน ตอนเช้า นี่กินจนแทบ
จะวัดไม่ทัน แต่พอตอนบ่ายกลับหายเงียบเอาดื้อๆ อาจจะมีบ้างที่เข้ามาตอดแต่แค่ตอดแต่ก็หายไป ไม่กินดุดันเหมือนตอนเช้า
ยิ่งตอนเย็นๆ ยิ่งเงียบหายไปเลย ผมมีเทคนิคง่ายๆนะครับ
มันคือ ทุ่น ที่เราใช้ตกนั่นเอง และองค์ประกอบหลายอย่าง ทั่ง ทุ่น ทั่งตะกั่ว ทั้งสาย ที่เราใช้ล้วนแล้วแต่มีผลทั้งนั้น แต่ตอนแรกจะอยากให้ลองเปลี่ยนทุ่นดูก่อน ตอนแรกถ้าเราใช้ทุ่นใหญ่ ปลามันจะลากจมปิ๊ด เลยใช่ไหม แต่ตอนหลังมันแค่ตอดๆแล้วก็หายไป ถ้าเราใช้ทุ่นให้เล็กกว่าเดิมมันจะทำให้ปลานั้นลากจมได้เร็วกว่า คำถาม ทำไมไม่ใช้ทุ่นเล็กตั้งแต่แรกหละ การตกธรรมชาตินั้น ถ้าเราใช้ทุ่นเล็ก บางที หรือบางที่ ปลามันกินชะตั้งแต่เหยื่อยังไม่ตกถึงดิน ปลาก็ลากไปแล้ว ไม่ค่อยเหมือนบ่อที่มีแต่ปลาเขี้ยวๆ เราจะมัวมาตั้งทุนคงไม่ไหวแน่ดังนั้นเราจึงควรเตรียมทุ่นไปเยอะๆ การเปลี่ยนทุนนั้นเราก็ต้องเปลี่ยนตะกั่วด้วยเหมือนกัน ปลามันไม่ได้หายไปไหนหรอกครับ อยู่แถวๆนั้นแหละเพียงแต่มันระแวง เพิ่มขึ้น แค่นั้นเอง นี่เป็นเทคนิคเล็กๆน้อยๆ ที่ผมอยากจะช่วยแนะนำสำหรับมือใหม่นะครับ ถ้าเป็นมือเก๋าๆหละก็เขาคงรู้กันอยู่ สุดท้ายนี้ขอให้เพื่อนๆตกปลากันอย่างสนุกนะครับ ช่วยกันดูแลความสะอาดด้วย ถ้ามีเวลา ก็จะมาแนะนำเทคนิคให้เพื่อนๆอีกนะครับ

ผมขอเสริมคุณ 2 ขออีกนิดนะครับในการตกสะปิ้วนั้น เพื่อนๆไม่ควรอ่อยเหยื่อในครั้งแรกมากๆนะครับควรจะอ่อยพอประมาณ และเหยื่อที่อ่อยนั้นอย่าให้เป็นก้อนครับเพราะปลามันจะอิ่มเหยื่ออ่อยก่อนและจะกินเหยื่อที่เราตกช้า ทางที่ควรอ่อยน้อยๆอ่อยเป็นจังหวะครับคือพอปลาเริ่มกินห่างก้ออ่อยให้ปลามาร่วมตัวอีกที่อันนี้เป็นเทคนิคหนึ่งที่ผมใช้ครับ ในการตกสะปิ้วนั้นมีเทคนิคมากมายครับ ต้องศึกษามากๆครับถึงจะประสบผมสำเร็จครับ


การวัดเบ็ดแรงๆ หลายๆคนสงสัยว่าทำไมต้องวัดแรงมากขนาดนั้น
คำตอบที่ชัดเจน มันอยู่ที่ปลาที่เราตกครับ
ในการตกปลานิลตามฟิชชิ่งปาร์ค นั้นทุกวันนี้ ทุกคนหวังตกเพื่อให้ได้ปลาเยอะๆ กัน ซึ่งปลานิลนั้นมันเริ่มกินเบ็ดระแวงมากขึ้น มันจะเล็มเหยื่อ หรือใช้ตัวฟาดเหยื่อ หางปัดเหยื่อ โดยไม่ยอมกินง่ายๆ การวัดแรงๆ เพื่อที่จะให้ตัวเบ็ดเกี่ยวส่วนใดส่วนหนึ่งของปลา และปักเข้าให้ลึกที่สุดเท่าที่จะทำได้ หากเราวัดเบ็ดเบาโอกาสที่ตัวเบ็ดจะไม่ฝังเข้าตัวปลามีมาก และทำให้ปลาหลุดได้ง่าย โดยเฉพาะปลานิล ขนาด 0.5-1 กก. เกล็ดจะแข็ง ฉะนั้น เมื่อท่านตกปลาโดยวิธีนี้ โอกาสที่ คันเบ็ดหักหรือ สายเอ็นขาดมีสูงมาก นักตกปลาจึงนิยมใช้คันแอคชั่นค่อนข้างแข็ง (MH) และใช้สายเอ็นโหลด คันที่มีขายในท้องตลาด หลายๆ รุ่น หลายๆ ยี่ห้อ อยู่ไม่ได้ในตลาดบ้านเรา (ทางเหนือ) เพราะเหตุผลนี้ แต่กลับขายดีในภาคอื่นๆ

ขอแสดงความเห็นด้วยคนนะครับ พอดีชอบตกสะปิ๋วด้วยเหมือนกัน มีความเห็นเพิ่มเติมจากที่เคยตก คือผมมีคันตกสะปิ๋วสองคัน 4.9 ฟุต กับ 7 ฟุตครับ คันยาวแค่ตวัดให้คันตั้งฉากก็อยู่แล้วครับ ส่วนคันสั้นนอกจากจะต้องสุดแรงแล้วยังต้องคอยเซ็ตสายให้ตึงครับ ยิ่งถ้าน้ำลึกๆ บางทีไม่ได้ตัวก็บ่อย แล้วอีกอย่างที่มีผลก็คือ ตะกั่วครับ ยิ่งตะกั่วหนักยิ่งหน่วงครับ คือยิ่งหนักก็ต้องให้แรงให้เร็วครับ ถ้าไม่ใส่ตะกั่วเลย ก็ระวังคนข้างหลังด้วยนะครับ ผมเคยตวัดแล้วทุ่นปักต้นมะม่วงข้างหลังเป็นลูกดอกเลย เห็นแล้วเสียวครับ และอีกหนึ่งข้อที่สังเกตก็คือ ถ้าคันค่อนข้างจะแข็งห้าม(ห้ามเลย อิอิ) ตั้งคันสูง ให้ลดปลายคันลงจากเดิมประมาณไม่เกิน 70 องศาจากพื้นนะครับ เพราะถ้าตั้งคันเกินกว่านั้นสายจะขูดกับขอบนอกของทิปท๊อป (เป็นเหล็กน่ะครับ) สายจะหยิกและเป็นรอยง่ายมาก ส่วนคันอ่อนๆ สายจะไหลผ่านรูไกด์พอดี จินตนาการเองนะครับ ไม่รู้อธิบายยังไง :) สุดท้าย เหยื่อ มีสองอย่างครับที่ใช้ คือ ผสมร่วนที่สุด กับนวดกับน้ำแบบนิ่มที่สุด แบบผสมร่วนไม่ต้องบีบแน่นนะครับ เหยื่อแข็งปลากินยาก ให้มันละลายแล้วขยันเปลี่ยนเหยื่อจะดีกว่า อ้อ ว่าจะสุดท้ายแล้วยังเหลืออีกนิด การเลือกหมาย ให้เลือกเอาชัวร์นะครับว่าตรงนี้แน่นอน แล้วไม่ต้องย้ายครับ ตีลงที่เดิมไปเรื่อย ๆ เป็นการอ่อยไปในตัว แต่ถ้าปลาไม่เข้า ก็กลับไปทบทวนวิธีการดูหมายของตัวเองใหม่ครับ เท่านี้ครับ 


คือผมมีคำถามหน่อยหนึ่ง ให้ทางผู้รู้ ช่วยไขข้อข้องใจครับ
คือ ถ้าเราได้ปลามาแล้วแล้วเกิดมือ หรือตัวเบ็ด เกิดยังมีคาวปลาติดอยู่ เราปั้นเหยื่อโดยที่มีคาวปลาที่เราตกได้ติดอยู่จะมีผลไหมครับ
และผมมีเคล็ดอีกเล็กน้อยครับ นี่เป็นความเชื่อส่วนบุคคลครับ
อาจลองทำดูก็ได้ คือถ้าเราตกปลาที่ที่มีปลาชุกชุม และมีปลาหลาย ไซร้ อย่างหนึ่งที่ผมเคยทำถ้าอยากได้ปลาที่มีขนาดค่อนข้างตัวใหญ่กว่าคนข้างๆ ที่เรานั่งตกด้วยคือ เหยื่อที่เราใช้ตกนั่นเองคือถ้าเจอลักษณะนี้ผมจะนำส่วนผสมที่มีกลิ่นแรงกว่าเหยื่อทั่วไป เช่นเหยื่อหมักสำเร็จรูป หรืออาหารปลาดุกผง หรือแยมโรลหมัก อย่างไดอย่างหนึ่งครับ จะทำให้เหยื่อเรามีกลิ่นแรงขึ้น ตอนแรกอาจจะยังไม่มีปลามาตอดครับแต่อีกสักครู่ มันจะมาแน่ครับและรับรองว่าปลาที่กินของเราขนาดจะใหญ่กว่าคนข้างๆแน่นอนครับ โดยเฉพาะปลานิลที่ใครๆก็คิดว่าตกกันได้ แต่ตัวใหญ่ๆ หรือตัวเบ้อมันมีเทคนิคครับอย่าลืมอ่อยด้วยนะครับ

กระทู้: 38
ความเห็น: 1,067
ล่าสุด: 22-04-2567
ตั้งแต่: 27-10-2548
นารา(132 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
ความเห็นที่ 31: 22 ธ.ค. 49, 08:38
อานนี้นั่งจาบเข่าคุยกัน

ตะเพียน
แกลบอ่อน(รำ)ใหม่ๆ 1 ก.ก.+ ข้าวคั่ว(สูตรจาวเหนือ) ที่หอมอร่อย (ข้าวคั่วใต้ปลาไม่ค่อยกิน) 100 กรัม+น้ำจากแหล่งน้ำที่จะตกพอเหมาะ (ความเหนียวตามลักษณะแหล่งน้ำ เช่น ไม่ไหล-ไหล-ไหลแรง) ดมดูจะหอมมาก
ทิ้งไว้ 1 วันพอ (ถ้าไม่นำไปตก/เหลือ ต้องแช่เย็น)
ตกหน้าดิน/ปั้นห้มเบ็ดตัวเดียว/ทุ่นชิงหลิว/สาย ไม่เกิน 4 ปอนด์(ปลาตะเพียนสายตาดีมาก ถ้าเห็นตัวปลาแสดงว่าน้ำใส อุปกรณ์ต้องเล็กๆไว้)
วานนี้ 15.00 น.ไปบ่อใกล้บ้าน ( 20 บาท/คัน/วัน ตกได้ คิดโลละ 30) มีตกอยู่แล้ว 4 คัน ตกแบบหุ้มตะกร้อพวง หน้าดินหมด ผมใช้เหยื่อ+วิธีการข้างต้น    16.00 น ครบ 1 ชั่วโมง ต้องออกมารับลูก ได้ปลาตะเพียน มา 5 ตัว 1.5 ก.ก. หลุดอีก 2
เชื่อไหมครับ 4 คันที่ตกอยู่ก่อน ไม่ได้กันเลย สักตัว มองมาที่เราอย่างอิจฉา แหม เท่จัง เหยื่อดีมีชัย ครับพี่น้อง
(ต้องให้ข้อมูลประกอบเพิ่มน้ำหนัก)
คุยเฟื่องเรื่อง หยอดหลุม..
หยอดหลุม.....
อุปกรณ์ที่นิยมใช้ก็คือ ชุดตกสะปิ๋ว โดยการปรับระดับทุ่นให้อยู่ในลักษณะ นอนราบกับพื้นน้ำ หรือ จมลงไปครึ่งนึงของตัวทุ่น เมื่อลากแล้วหยุดๆไปเรื่อยๆตามขอบบ่อ ก็จะเจอหลุมปลาครับ ทุ่นจะจมลงไปอีกครึ่งทำให้ทุ่นที่นอนราบกับพื้นน้ำตั้งขึ้น หรือทุ่นที่ตั้งไว้แค่ครึ่งจะจมลงโผล่แค่หาง เมื่อปลาเข้าหลุมเพื่อทำความสอาด ทุ่นจะออกอาการ ส่าย แล้วก็จะจมลง หรือลอยขึ้นมา ช่วงที่ทุ่นจม หรือลอย ก็ตวัดได้เลยครับ 10%จะติดที่ปาก 90%จะติดตามครีบ ใต้ท้อง และบริเวนอื่นๆ เมื่อก่อนนั้นใช้เบ็ดตัวเดียวแต่......เดี๋ยวนี้พัฒนาการไปอ่อนนุช เอ้ยยยยยไม่ใช่ เดี๋ยวนี้ใช้ตัวเบ็ดแบบ 3 ทางกันแล้วครับ
อ้อ...เกือบลืม ถ้าจะตกด้วยวิธีนี้ ผมแนะนำให้มี สวิง ติดไปด้วยนะครับ เหตุเพราะบางครั้งตัวเบ็ดเกี่ยวแบบ หมิ่นๆ ไม่สามารถยกขึ้นฝั่งได้ อีกอย่างที่ควรทำก็คือ เปิดเบรคไว้พอหนืดๆก็ดีนะครับ บางหลุมนั้นปลานิล ตัวเกือบโล หรือโลกว่าก็มี หลุมน้ำลึกปลาใหญ่นะครับ
ปลานิลชอบทำหลุมหรือแอ่งเล็กๆ ที่พื้นบ่อ กว้างประมาณฟุตนึง ลึกเกือบสิบเซน
การตกจะใช้การตั้งทุ่น(นอน)เสมอพื้นบ่อ แล้วค่อยขยับไปเรื่อย พอตรงหลุมปลานิล ทุ่นจะตั้งขึ้น ก้ถือคันรอไว้ ปลานิลจะคอยทำความสะอาดหลุม ถ้ามีไรตกไป จะคาบทิ้ง พอเบ็ด(เปล่าๆ) ตกไป ปลานิลจะคาบออก ทุ่นจะลอยขึ้น ก้วัดเบ็ดได้
ใช้ตาเบ็ดเปล่าๆ  สีแววๆก็ได้ครับ  ไม่ต้องใส่เหยื่อ
ขอใช้ความรู้ที่มีอันน้อยนิดอธิบายนิดนึงนะคับ
"ทุ่น" ในเกมส์ตกปลาเนี่ยคืออุปกรณืชิ้นนึงของชุดสายหน้ามีไว้เพื่อใช่พยุงเหยื่อให้อยู่ในระดับที่ต้องการนี่คือความหมายหลัก แต่ทุ่นที่ใช้ตกชิงหลิวหรือสะปิ๋วมันมีมากกว่านั้น
          ทุ่มชิงหลิวคือทุ่นที่สามารถสื่อสารสัญญาณการกระทำของปลาได้ละเอียดที่สุดและว่องไวที่สุด
            วัสดุที่ใช้ก็มีพวกพลาสติก โฟม ไม้ ก้านขนสัตว์  สำหรับทุ่นที่ดีต้อง  ลอยน้ำได้ดี  ไม่ดูดซึม หรือ ซับน้ำ ที่ทำให้ประสิทธิภาพของทุ่นเสีย
            สำหรับทุ่นที่ว่าดีที่สุดก็เปนทุ่นที่ทำจากหางนกยูง แต่อยากไปใช้มันเลยคับเพราะราคาเบาะๆก็แค่ 3-400 บาทเองคับ (ราคาที่ถูกสุด) ถ้าเอาอย่างดีๆก็แค่พันสองพันเองคับนิดหน่อย มันอยู่ที่ความชำนาญ อาจใช้ขนเม่นหรือพลาสติกก็ดี หรือ ไม้ก็แล้วแต่ชอบ แต่ตัวผมว่าขนเม่นเหมาะดีคับ

              สำหรับทุ่นชิงหลิวที่ใช้กันอยู่ในตอนนี้มี 2 กลุ่มใหญ่ๆคับ คือ ทุ่นน้ำลึก และ ทุ่นน้ำตื้น สังเกตุง่ายๆเลยคับ คือทุ่นน้ำตื้นเนี่ยจะเป็นแบบที่ใช้ไส้ไก่เสียบ (ไส้ไก่รถถีบหรือรถจักรยานเนี่ยแหละคับ) ส่วนทุ่นน้ำลึก จะมีห่วงให้ร้อยสายผ่านตรงตูดทุ่น
นี่ก็คือ 2 กลุ่มใหญ่ๆ แต่ถ้าแบ่งเป็นแบบย่อยๆแล้วต้องแบ่งตามลักษณะการใช้งานคับ  คือเช่น ทุ่นสำหรับตกแบบไม้ตาย  ทุ่นสำหรับตกแบบบาลานซ์  ทุ่นสำหรับตกแบบลีดศอก และทุ่นสำหรับตกแบบเหยื่อลอย บางทีอาจจะมองว่าทุ่นอย่างเดียวน่าจะตกได้ทุกแบบมันก็ใช่นะคับ แต่ว่าทุ่นแต่ละชนิดมันมีขอบข่ายการใช้งานที่แตกต่างกันอยู่แล้ว ซึ่งจะรู้ถึงความแตกต่าง  เพราะการใช้ทุ่นที่เหมาะกับการตกและสนิทของปลาจะทำให้ได้ผลดีกว่าอยู่แล้ว

ทุ่นชิงหลิวดอกเรียวเล็กนั้นจะสื่อสารได้อย่างเที่ยงตรงแน่นอนได้ก็ต่อเมื่อผู้ตกตั้งทุ่นและอ่านอาการของทุ่นเป็น สำหรับมือชิงหลิวหรือสะปิ๋วที่มีประสบการณ์สูงนั้นบางคนสามารถจะอ่านทุ่นออกถึงขนาดรู้ว่าปลาที่กินเหยื่อนั้นเป็นปลาอะไร กำลังทำอะไรกับเหยื่อ นั่นเพราะการรู้จักที่จะเลือกทุ่นและวิธีตั้งทุ่นที่ถูกต้องตามวิธีและชนิดปลาที่ต้องการตก
        ทุ่นชิงหลิวมีหลายแบบแต่ที่ลักษณะเหมือนๆกัน คือส่วนตรง ตูดทุ่น    ตัวทุ่น  และหางทุ่น
        *ตูดทุ่น
      คือส่วนที่จะเชื่อมเข้ากับสายเมน มี 2 แบบ คือ แบบห่วงไว้ร้อยสายผ่านโดยการใช้ไลน์สต๊อปเปอร์เป้นตัวล๊อกทุ่นให้อยู่ในระดับความลึกที่ต้องการ เป็นทุ่นสำหรับตกน้ำลึก เพราะตรงตูดทุ่นจะรูดลงเองเวลาเราอัดปลา เป็นการง่ายต่อการส่งเหยื่อด้วยเพราะถ้าใช้ทุ่นแบบใช้ไส้ไก่เวลาตกในบริเวณที่มีน้ำลึกจะทำให้ติดปลายไกด์อัดปลาลำบาก อีกแบบนึงคือทุ่มที่มีพลาสติกแหลมเอาไว้เสียบเข้ากับไส้ไก่ใช้ในการตกระดับน้ำลึกไม่เกิน 1.20 เมตรโดยประมาณ ถ้าลึกกว่านี้ต้องใช้ทุ่นแบบห่วง
*ตัวทุ่น
        คือส่วนที่สำคัญที่สุด  ทำจากวัสดุที่มีคุณสมบัติลอยน้ำได้ดีเช่น พลาสติก โฟม ไม้ ขนขกยูง ขนเม่นรูปร่างของทุ่นจะมีอยู่ 3 แบบ คือ หยดน้ำสั้น  หยดน้ำยาว  แล้วก็แบบยาวรีด้านเท่า นอกนั้นก้แล้วแต่จะมีคนคิดค้นออกมาว่ามีแบบไหน บางแห่งจะผลิตทุ่นที่ใช้สำหรับตกปลาบางประเภทโดยเฉพาะ
*หางทุ่น
          คือส่วนที่โผล่ขึ้นมาเหนือน้ำ เป็นจุดสังเกตปฏิกิริยาการเข้ากินเหยื่อและการกระทำของปลาถือว่าเป็นส่วนสำคัญที่สุดของทุ่น สำหรับทุ่นจะหางสั้นหรือหางยาวนั้นขึ้นอยู่กับตัวทุ่น และหางทุ่นจะเล็กหรือใหญ่ก็ขึ้นิยู่กับตัวทุ่นเช่นเดียวกัน เพราะหากว่าทุ่นขาดความเหมาะสมแล้วความสมดุลของทุ่นก็จะหมดไป ทำให้การส่งสัญญาณของทุ่นไม่สมบูรณ์ ส่วนหางทุ่นนั้นมักจะมีการแต้มสีให้แสดๆไว้โดยมีสีดำตัดแบ่งเป้นปล่องๆมีทั้งปล่องถี่และปล้องห่าง

                หางทุ่นชิงหลิวนั้นไม่ได้มีแต่แบบเรียวเล็กเพียงอย่างเดียวยังมีแบบปลายปล่อง ปลายใหญ่โคนเล็ก เพื่อแบ่งแยกการใช้งานตามลักษณะของหางอีกด้วย  เช่น ใช้ตกในระยะไกล  ตกในระยะใกล้หรือตกในแหล่งน้ำไหลนิ่ง - น้ำไหล ตกในเวลากลางคืนที่มีแสงน้อยหรือว่าตกกลางวันที่มีแสงแดดจ้า  โดยทุ่นชิงหลิวจะแบ่งแยกออกจากกันโดยละเอียด รวมทั้งวิธีการตกแต่ละแบบก็ต้องใช้ทุ่นที่ต่างกันอีกด้วยทั้งตัวทุ่นและหางทุ่น

            *การตกทุ่นชิงหลิวนั้นจะเฉพาะเจาะจงลงไปได้เลยนั้นก็ต่อเมื่อผู้ใช้รู้จักวิธีการตั้งทุ่นที่ถูกต้องตามวิธีที่ต้องการตก แต่หลักการต่างๆ จะไม่มีผลกับทุ่นดอกนั้นก็ต่อเมื่อผู้ใช้เกิดความเคยชินและถนัด มีความชำนาญพอก็จะหมดปัญหาในการเลือกใช้ทุ่น
-สำหรับการตกชิงหลิวหรือสะปิ๋วนั้นไม่จำเป็นว่าทุ่นจมปลาจะกินหรือตวัดหรือติดเสมอไปอยู่ที่ความชำนาณ มือโปรบางคนสามารถอ่านสัญญาณของทุ่นได้อย่างแม่นยำยิ่งกว่าตาเห็น  จนสามารถแยกแยะได้เลยว่าปลากำลังทำอะไรกับเหยื่อและเป้นปลาอะไร การอ่านทุ่นให้ขาดนั้นเป็นสิ่งที่มือสะปิ๋วควรมี เพราะไม่ใช่ว่าเมื่อปลากินเหยื่อแล้วจะต้องคาบ วิ่ง  ทุ่นจึงจมหายไปซะหมดทุกตัว ปลาแต่ละชนิดจะมีวิธีการกินเหยื่อที่แตกต่างกันกันจึงควรเรียนรู้วิธีการอ่านทุ่นให้เป็น เพื่อกะจังหวะให้เหมาะในการตวัดเบ็ดให้ถูกช่วงถูกเวลาที่เหมาะ
สะปิ๋ว
กระทู้: 38
ความเห็น: 1,067
ล่าสุด: 22-04-2567
ตั้งแต่: 27-10-2548
นารา(132 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
ความเห็นที่ 32: 22 ธ.ค. 49, 08:44
เริ่มงงล่ะจิอิอิอิ ผมศิษย์หลากอาจารย์อ่ะ
                                    ได้นี่นิด บวก นี่หน่อย
                                    แต่โทรถามบ่อยๆ ก็จารย์เอกทีมหนุน รับรองบอกถึงกึ๋น
กระทู้: 38
ความเห็น: 1,067
ล่าสุด: 22-04-2567
ตั้งแต่: 27-10-2548
นารา(132 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
ความเห็นที่ 33: 22 ธ.ค. 49, 08:45
อานนี้ก็น่ารักกกกกก

ต้องรู้ชนิดของปลาและขนาดของปลาในบ่อก่อน สืบข้อมูลให้รู้ว่าเป็นปลาชนิดใดบ้างก่อนเข้าไปตก ถ้าไม่รู้ก็ให้เลือกใช้ทุ่นธรรมดาก่อน

เช่น บ่อปลานิล ทับทิมขนาดใหญ่ๆ สามตัวโล หรือ สองตัวโลขึ้นไป  ขนาดความลึกของบ่อตั้งแต่ขอบบ่อจนเลยไปไม่เกินสามวามีความลึกระดับ 1.5-2 เมตร ..ถ้าเป็นบ่อลักษณะนี้  ต้องใช้วิธีตกด้วยทุ่นชิงหลิวใกล้ฝั่ง ทุ่นชิงหลิวที่ให้ประสิทธิภาพดีที่สุด คือทุ่นแบบ เล็กๆ สั้น  กินน้ำน้อยๆ ขึ้นลงใวๆ หางทุ่นมีข้ออย่างมากสุดไม่เกินสี่ข้อ แต่ละข้อสี ยาวไม่เกิน 1 ซ.ม.ขึ้นอยู่กับความถนัดในการอ่านทุ่นของแต่ละคน  เหตุผลเพราะว่า ในการเข้ามาตอดเหยื่อเล็มเหยื่อของปลานิลขนาดใหญ่ๆ มักเข้ามาเล็มเบาๆก่อนฮุบอย่างแรงทีหลังเป็นส่วนใหญ่ ทุ่นมักขยับตัวขึ้นลงระยะไม่เกิน 0.5-1 ซ.ม.และจมกดลงผลุบหายแรงๆเพราะเหยื่อถูกคาบ ถ้าหากข้อสีแต่ละข้อสั้นเกินไป หรือยาวเกินไปการอ่านทุ่นจะเป็นการกะให้ทุ่นจมอย่างเดียว แต่ถ้าข้อสีขนาดที่ว่าใว้ สามารถกะจังหวะวัดเบ็ดที่ข้อสีข้อที่เราตั้งโผล่มาข้อเดียวได้เลย หางทุ่นถอนขึ้นในลักษณะปลาคาบเหยื่อดุนเหยื่อขึ้นมาข้อเดียวก็วัดได้ ทุ่นจมผลุบหายก็ให้รีบวัด แต่มันก็อยู่ที่การอ่านทุ่นของแต่ละคนพอสมควร ว่าจะดูว่าจังหวะใหนควรวัด จินตนาการอ่านจากหางทุ่นว่าปลากำลังทำอะไรกับเหยื่อ ไม่มีอะไรแน่นอน ....ตัวทุ่นเท่าที่เคยใช้มาที่ชอบๆน่าจะเป็นไม้เนื้อเบา เช่น ไม้งิ้ว ถ้าเป็นหางเม่นจะต้องเลือกดูให้ดี ดูที่หางทุ่นต้องเล็กบางเฉียบก่อนเคลือบสี ถ้าทำเองได้ยิ่งดี เลือกใช้เอาตามถนัด การตกจะใช้วิธีเหยื่อแตะหน้าดิน  ตั้งทุ่นให้โผล่แค่ปลายทุ่นมองเห็นเป็นจุดแดงๆ หรือ อย่างมาก ข้อเดียว

การเลือกใช้ลูกหมุนให้เหมาะสมกับทุ่นชนิดนี้ คือ หลังจากประกอบทุ่นเข้าในสายเมนแล้ว ..(ถ้าในกรณีคันชิงหลิว ที่ใช้ทุ่นแบบนี้ ควรใช้สายเล็กไม่เกินหกปอนด์ ประกอบ ตัวเซทความลึกเอาใว้เป็นตัวล็อคตั้งความลึกของระดับน้ำ เข้าไปก่อน (ก็คือสตอปเปอร์ นั่นแหละ แต่ไม่ได้เอาใว้ล็อคทุ่น จะอยู่เหนือตัวล็อคทุ่น และอยู่ด้านล้างตัวล็อคทุ่นอีกทีเอาใว้จดจำระดับน้ำเวลาที่ต้องเปลี่ยนความลึกของระดับน้ำบ่อยๆ งงใหม ) ประกอบส่วนนี้เสร็จแล้ว ก็ลองใช้ลูกหมุนผูกเข้าไปเลือกมาก่อนหนึ่งตัว จุดประสงค์คือให้ลูกหมุนเป็นตัวถ่วงน้ำหนักแทนตะกั่ว ทำให้ทุ่น ให้จมน้ำได้แบบช้าๆ คือตั้งตัวล็อคทุ่นตื้นๆก่อนซักศอกนึงก็ได้แล้วโยนลงน้ำ ถ้าทุ่นค่อยๆจมช้าๆลงไปจนแตะพื้น แสดงว่าลูกหมุนขนาดนี้เหมาะสมกับทุ่น ถ้าทุ่นไม่จมก็เปลี่ยนขนาดลูกหมุนให้ใหญ่ขึ้น แต่ถ้าจมผลุบอย่างเร็วแสดงว่าลูกหมุนใหญ่เกินไป ต้องจมช้าๆ เวลาปลาเข้ามาตอดมาเล็ม ทุ่นจะได้ขยับตามเหยื่อที่ขยับเพราะปลามาตอด จะทำให้สนุกกับการได้อ่านทุ่นได้มากๆ ไม่ใช่แค่ทุ่นจมทุ่นถอนแค่นั้น  เสร็จแล้วจึงค่อยมัดขอเบ็ดประกอบเข้าไปที่ลูกหมุน สายหลีดยาวซัก ห้าถึงหกเซนต์กำลังสวย วิธีแบบนี้ ทุ่นจะขยับให้ได้ตื่นเต้นตลอด โดยเฉพาะกับปลาขนาดเล็ก ทุ่นที่ใช้นี้จึงเรียกว่า ทุ่นใบไม้ใหว เพราะความที่เบาและเล็กๆสั้นๆ จะใวมากๆ เรียกว่าขยับตามเหยื่อที่ถูกปลากระทำ ขนาดของลูกหมุนจึงมีส่วนสำคัญมากๆต่อประสิทธิภาพของทุ่นและวิธีตกปลาเกล็ด

แต่ถ้าเจอปลาขนาดเล็กเป็นกลุ่มใหญ่เป็นฝูง จะกลายเป็นว่าทุ่นใวเกินไปตวัดเบ็ดไม่ค่อยติดปากปลา แบบนี้ต้องถ่วงด้วยตะกั่ว กะให้ปลาคาบเหยื่ออย่างเดียว ไม่ต้องไปอ่านทุ่นให้รำคาญหัวใจ ลักษณะนี้เหมาะกับหมายธรรมชาติ เช่นตามอ่างเก็บน้ำมากที่สุด บางคนและหลายๆคนรวมทั้งเพื่อนๆผม มักใช้ทุ่นใหญ่ ยาว วางเหยื่อใกล ใส่เม็ดตะกั่วถ่วงเข้าไป ก็วัดกันสนุกมือไปเลยเพราะลักษณะปลาธรรมชาติ ไม่เคยเบ็ด มาเป็นฝูงๆ แย่งกันกินเหยื่อไม่เว้นแม้แต่ปลาขนาดใหญ่ ที่ทุ่นจมผลุบๆ แตกต่างกับปลาบ่อที่เคยโดนเบ็ดอย่างสิ้นเชิง

ส่วนการใช้เบ็ดวัด ไม่สมควรเอามาพูดถึง..... ขอพูดถึงแค่คนที่ชอบตกปลาเกล็ดเป็นชีวิตจิตใจตามกติกานักกีฬา ตกแล้วส่วนมากนำกลับไปกินพอเพียงหรือปล่อยคืนธรรมชาติ แค่อยากตกเล่นๆเท่านั้น เป็นนักตกปลา ไม่ใช่นักพนันตกปลาหรือนักหาปลา อันนั้นเป็นความอยากได้ของนักตกปลาบริโภค ก็ไม่ว่ากัน ..แต่วิธีนี้ตกเพื่อความสนุกในการอ่านทุ่น เพื่อจำกัดตัวเองให้เอาชนะข้อจำกัดของวิธีการ ถ้าเราอยู่ในรูปแบบวิธีตกปลาเกล็ดที่ถูกต้องตามต้นแบบที่ปฎิบัติกันมานาน  มันจึงเป็นความภาคภูมิใจ อาจจะนั่งเงียบทั้งวันบ้าง อาจจะไม่ได้ปลาบ้าง ปลาไม่เข้าบ้าง วัดเบ็ดแล้วไม่ได้ตัวบ้าง ...ไม่เห็นจะเป็นอะไรเลย ..แคร์ทำไมกับสายตาคนอื่น เรารู้ของเรา มีความสุขเงียบๆส่วนตัว สุดยอดแล้ว

ปลาเกล็ดก็คือความเงียบ.. ความเงียบสงบ ก็คือปลาเกล็ด ..ความสงบใจ ใจที่มีสุขก็ตามมา มีความสุขกว่าความสำเร็จที่จะได้ปลาหรือไม่ได้ปลาเป็นใหนๆ จริงหรือเปล่า?

IP Address: 203.155.153.66

ความเห็นที่ 35 :  มด    posted: 25-12-2546, 07:49:02  งดออกเสียง       
--------------------------------------------------------------------------------
ผมว่าเร้าใจทั้ง2แบบครับ ตกปลาหน้าดินจะได้ฟ้งเสียงรอกของเราที่เปล่งเสียงได้กังวาลแสบแก้วหู แต่ถ้าเป็นสะปิ๋วเราต้องใช้ชุดเล็กคันเบ็ดก็ยาวไม่เกิน8ฟุตดูคันอ่อนๆรอกก็ต้องรอกเล็กๆอย่างเช่นloomis quality tackleก็ใช้ได้เหมือนกันแถมถูกดีด้วยสายก็ถ้าจะให้ตกสนุกก็ต้องไม่เกิน
4LBตัวเบ็ดกามาเบอร์7ในการตกปลานิลกำลังดี ทุ่นชิงหลิวก็ต้องดูขนาดที่เหมาะสมกับปลานิลในบ่อ ในการตกปลานั้นเราจะต้องใช้สมาธิเป็นอย่างสูง
สมาธิจะทำให้จิตใจสุขุมความสุขุมจะทำให้ใจสงบแล้วความสงบนั้นแหละคือความสุขที่แท้จริง
IP Address: 203.209.121.168

ความเห็นที่ 36 :  ทิชชู    posted: 25-12-2546, 21:58:55  งดออกเสียง       
--------------------------------------------------------------------------------
ถึง คุณ ครูกล้า ครับ

ช่วยอธิบายคำว่า"เบ็ดวัด"ในประโยคนี้ให้กระจ่้่างหน่อยครับ

"ส่วนการใช้เบ็ดวัด ไม่สมควรเอามาพูดถึง..... ขอพูดถึงแค่คนที่ชอบตกปลาเกล็ดเป็นชีวิตจิตใจตามกติกานักกีฬา ตกแล้วส่วนมากนำกลับไปกินพอเพียงหรือปล่อยคืนธรรมชาติ แค่อยากตกเล่นๆเท่านั้น เป็นนักตกปลา ไม่ใช่นักพนันตกปลาหรือนักหาปลา อันนั้นเป็นความอยากได้ของนักตกปลาบริโภค ก็ไม่ว่ากัน ..แต่วิธีนี้ตกเพื่อความสนุกในการอ่านทุ่น เพื่อจำกัดตัวเองให้เอาชนะข้อจำกัดของวิธีการ ถ้าเราอยู่ในรูปแบบวิธีตกปลาเกล็ดที่ถูกต้องตามต้นแบบที่ปฎิบัติกันมานาน  มันจึงเป็นความภาคภูมิใจ อาจจะนั่งเงียบทั้งวันบ้าง อาจจะไม่ได้ปลาบ้าง ปลาไม่เข้าบ้าง วัดเบ็ดแล้วไม่ได้ตัวบ้าง ...ไม่เห็นจะเป็นอะไรเลย ..แคร์ทำไมกับสายตาคนอื่น เรารู้ของเรา มีความสุขเงียบๆส่วนตัว สุดยอดแล้ว"

ถ้ามันหมายถึงการเกี่ยวทิชชู แล้วมันจะไม่เป็นตามกติกานักกีฬายังงัยครับ
เบ็ดก็ใช้ตัวเดียว ต่างกันตรงแทนที่จะมาอ่านทุน ก็มาอ่านการเคลื่อนไหวของทิชชู ไม่ทราบว่าบรรทัดฐานของกติกาตั้งกันที่ตรงใหนครับ

ช่วยอธิบายให้กระจ่างครับ แต่ถ้าผมเข้าใจผิด ผมต้องขอโทษคุณคูรกล้าด้วยครับ
IP Address: 203.144.187.62

ความเห็นที่ 37 :  ครูกล้า    posted: 05-01-2547, 11:54:10  งดออกเสียง       
--------------------------------------------------------------------------------
คำว่า เบ็ดวัด นั้นหมายความว่า...
คือการใช้ขอเบ็ดเบอร์ไม่ต่ำกว่า 14 สองตัว ผูกสายหลีดสั้นๆ ผสมเหยื่อให้ร่วน (ไม่เหนียว) หุ้มที่ลูกหมุนเบอร์ใหญ่ๆ ขว้างไปที่กลางๆบ่อ รอจังหวะสายเอ็นกะดิกแล้ววัดอย่างแรง กะให้ตัวเบ็ดเกี่ยวตัวปลา
ตามกติกาการตกปลาเกล็ดในบ่อแข่งต้องให้เบ็ดติดในปาก การใช้เบ็ดวัดเกี่ยวตัวปลาก็ต้องผิดกติกา ในกรณีของข้อความข้างบนนี้จึงเป็นการแสดงเจตนาให้ขอเบ็ดติดส่วนไหนก็ได้ (ไม่ดีคับ)

เสริมอีกนิดว่า... แถวเชียงใหม่ลำพูน ในบ่อแข่งไม่สนใจว่าเบ็ดติดแถวใหนของตัวปลา บ่อปลาเกล็ดที่เปิดเป็นอาชีพจริง ๆ แบบฟิชชิ่งปาร์คเลยไม่มี มีแต่บ่อเฉพาะกิจ แต่ถ้าทางกุงเทพ เบ็ดขอเดียวเกี่ยวปากปลาครับ อธิบายให้เข้าใจคือ สร้างรูปแบบการตกปลาเกล็ดให้เป็นกีฬาแข่งขัน เหมือนการแข่งตกสวายบ่อมาตรฐานที่ทำเป็นอาชีพ  ผมอยากให้เข้าใจแบบนั้น ส่วนการใช้วิธีตกแบบทิชชู่ ก็เป็นเรื่องหนึ่ง ไม่เกี่ยวกับการสร้างกติกาการแข่งขันตกปลา หรือสร้างจิตสำนึกต่อการตกปลาเกล็ดโดยวิธีการใช้ทุ่นชิงหลิว( คนลำพูนไม่ค่อยไปแข่งขันตกปลาเกล็ดแถว ๆ เชียงใหม่ เพราะมีหลายคนที่นั่นใช้วิธีเบ็ดวัดอย่างที่ว่าข้างบน ให้คุณทิชชู่ไปแย๊บ ๆ ถามหรือพูดคุยเรื่องนี้ กับกลุ่มปลาบ่อลำพูนที่ร้านแจ็คได้ครับ จะได้เข้าใจว่าวิธีตกแบบเบ็ดวัด ทำให้คนตกปลาเกล็ดหายไปจากบ่อแข่งขันหลายคนทีเดียว อันนี้ก็เป็นแค่เหตุผลส่วนหนึ่งครับ ทัศนคติบางทีต่างกันมากก็ไม่เข้าใจกัน  คลาดเคลื่อนพอควรทีเดียวครับ

....... คุณทิชชู่  เข้าไปดูที่เวบ  "คนมืองตกปลา" สิครับ
IP Address: 203.155.153.66

ความเห็นที่ 38 :  dui sukhatat    posted: 14-07-2549, 11:28:24         
email: tatree.s@hotmail.com
--------------------------------------------------------------------------------
ครูกล้าแนะนำดีมากครับ ได้ความรู้ดี ขอบคุณครับ
IP Address: 61.19.220.5

ความเห็นที่ 39 :  Sirl    posted: 14-07-2549, 14:12:50  งดออกเสียง       
--------------------------------------------------------------------------------
ถืงครูกล้า ผมอยากบอกว่า ถูกต้อง!!!!!!! ครับ
IP Address: 203.146.253.105

ความเห็นที่ 40 :  Dr.HooK    posted: 14-07-2549, 15:04:32         
email: hook.piz@chaiyo.com
--------------------------------------------------------------------------------
ครูกล้าช่วงนี้ไปตกปลาแถวใหนครับ ไม่ได้เจอนานเลย
IP Address: 203.114.120.43

ความเห็นที่ 41 :  ฟิชชิ่งพีท    posted: 14-07-2549, 15:57:38  งดออกเสียง       
--------------------------------------------------------------------------------
การตกปลาเกล็ดแบบหน้าดิน ทั้งใส่ตะกั่วจิ๋ว  และ เบ็ดหุ้มด้วยรำเม็ดเล็กๆไม่ต้องตะกั่ว...ผมจะนั่งถือคันแล้วเกี่ยวสายเอ็นไว้ครับ ตอนปลาเริ่มตอด จะรู้สึกครับเริ่มรอลุ้นหาจังหวะวัดมันส์มากแต่ต้องสายสัก 6-8 ปอนด์ก็เต็มที่ครับ...และการนั่งเกี่ยวสายเอ็นไว้นี่เอาไปใช้กับปลากดก็ดีครับเพราะปลากดจะไวมากต้องวัดแล้วอัดเลย ไม่งั้นเข้าตอหมดครับ...ส่วนใส่ทุ่นชิงหลิวก็มันส์ดีครับ...ทั้งสองวิธีเป็นการฝึกสมาธิที่ดีมากๆครับ
IP Address: 58.8.169.220

ความเห็นที่ 42 :  ทับลาน    posted: 14-07-2549, 22:28:41  งดออกเสียง       
--------------------------------------------------------------------------------
มันสนุก ฝึกความอดทน ต้องตกปลาเกล็ด
IP Address: 203.209.92.62

ความเห็นที่ 43 :  นพดล ธรรมาสรณ์    posted: 15-07-2549, 08:19:27  งดออกเสียง       
--------------------------------------------------------------------------------
ต้องอดทนเป็นเลิศมีสมาธิทนแดด คือรักสายลมและแสงแดดนั่นแหละส่วนผมสะปิ๋วอย่างเดียวที่ต้องการ รอกเล็กๆ คันยาวๆ สายเล็กๆ ทุ่นเล็กๆ แค่นี้ก็มีความสุขแล้วสำหรับวันพักผ่อน

IP Address: 58.9.27.211

ความเห็นที่ 44 :  ชะโดต้อง    posted: 15-07-2549, 13:37:26         
email: Keattikornsx@hotmail.com
--------------------------------------------------------------------------------
เทหน้าตัก........รักหมดใจให้...สะปิ๋วเลย  เหตุผลน่ะรึ  มีคำตอบอยู่ที่  กระดาน..หมวด  ปลา  กระทู้  เมื่อชะโด...หิว...ข้าว  เลยครับ 
ลองเข้าไปดูแล้วผมคิดว่าคุณอาจเป็นอีกคนหนึ่งที่อยากทดลองสะปิ๋ว
กระทู้: 38
ความเห็น: 1,067
ล่าสุด: 22-04-2567
ตั้งแต่: 27-10-2548
นารา(132 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
ความเห็นที่ 34: 22 ธ.ค. 49, 08:47
เด๋วอาวงี้ดีก่า ช่วงบ่ายๆเด๋วทามลิงค์ไปให้ทั้งหมดเลย ติดปาชุม พอดี ช่วงปลายปีมานุดเงินเดือนเทคแคร์ปี้เขาหน่อยยยย
กระทู้: 0
ความเห็น: 20
ล่าสุด: 27-01-2566
ตั้งแต่: 12-10-2549
ความเห็นที่ 35: 22 ธ.ค. 49, 09:22
น้านาราสุดยอดเลยคับ+น้าเอกทีมขนุนเมื่อไรจะมีชมรมตกชิงหลิว+สะปิ๋วอะคับให้นาราเป็นประธานชมรมเลยคับ
กระทู้: 56
ความเห็น: 2,323
ล่าสุด: 27-01-2566
ตั้งแต่: 30-07-2549
ความเห็นที่ 36: 22 ธ.ค. 49, 12:20
คาดว่าไม่นานครับผู้ใหญ่ท่านนึงกำลังเตรียมงานอยู่ครับมีผลคืบ
หน้าประการไดจะแจ้งให้ทราบครับ
กระทู้: 38
ความเห็น: 1,067
ล่าสุด: 22-04-2567
ตั้งแต่: 27-10-2548
นารา(132 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
ความเห็นที่ 37: 22 ธ.ค. 49, 12:31
น้า เอกนูโว ข้าวจายผิดแล้ว
        ผมอ่ะมนุษย์ทิดสะดี เพิ่งเริ่มหัดตกได้สองเดือน
          แต่เรื่องCoppy ของท่านเทพ  โนตบุ๊ค 59 GB จาเต็มแว้ววววววววววว
              มิบังอาจด้วยปาการท้างปวง
กระทู้: 38
ความเห็น: 1,067
ล่าสุด: 22-04-2567
ตั้งแต่: 27-10-2548
นารา(132 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
ความเห็นที่ 38: 22 ธ.ค. 49, 12:35
น้าเอกๆ ตะหงิดๆอารายป่ะ
                รู้ฉึก ลาวหนุนปลาเกล็ดออกนอกหน้าเกินปายแล้วนะนี่
                  รักจิงๆๆๆๆๆๆๆๆปลาเกล็ด  อย่าหมั่นตับกันเยยยยยนะคร้าบบบบบบบบบบ
กระทู้: 56
ความเห็น: 2,323
ล่าสุด: 27-01-2566
ตั้งแต่: 30-07-2549
ความเห็นที่ 39: 22 ธ.ค. 49, 13:17
5555555555555
กระทู้: 38
ความเห็น: 1,067
ล่าสุด: 22-04-2567
ตั้งแต่: 27-10-2548
นารา(132 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
ความเห็นที่ 40: 22 ธ.ค. 49, 16:47
  ต่อปลาย โสงสายต้องเพลาๆ แล้วนะน้าเอก
กระทู้: 131
ความเห็น: 5,323
ล่าสุด: 27-01-2566
ตั้งแต่: 20-11-2549
ความเห็นที่ 41: 22 ธ.ค. 49, 20:42
ขอบคุณน้าๆทั้งหลายครับแต่วิชาความรู้ยังไม่หมดนะครับ ถ้าใครต้องการที่จะให้ความรู้เป็นวิทยาทาน เชิญเลยครับ อ้อ!น้าเอกเกิดอะไรขึ้นหรือครับ ทำไมเครียดจังครับ
กระทู้: 56
ความเห็น: 2,323
ล่าสุด: 27-01-2566
ตั้งแต่: 30-07-2549
ความเห็นที่ 42: 22 ธ.ค. 49, 20:57
ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันครับน้ากับการที่คนเราให้ความรู้กับเพื่อนๆ
แล้วมันไปสกิดต่อมพวก++ไอ้เข้ขวางคลอง++รึไงไม่ทราบ
ก็อย่างที่ผมได้คุยกับน้าป๋าต่อไปก่อนหน้านี้น่ะครับ
แต่ผมไม่ซีเรียสครับยังคงไว้ซึ่งเจตนาเดิมครับคือให้ความรู้
และข้อมูลเรื่องปลาเกล็ดกับทุกท่านที่อยากรู้ครับ


นับถือ........เอก  ทีมขนุน
กระทู้: 131
ความเห็น: 5,323
ล่าสุด: 27-01-2566
ตั้งแต่: 20-11-2549
ความเห็นที่ 43: 22 ธ.ค. 49, 22:04
ใจเย็นๆนะครับ ทุกคนมีความสุขที่บ้านหลังนี้ถึงผมจะเข้ามาไม่นานนนะครับแต่ก็รักบ้านหลังนี้นะครับ ค่อยๆพูดคุยกันดีกว่าครับ ที่ผมเปิดกระทู้นี้ก็เพื่อน้องๆทุกคนที่ถามมานะครับมาช่วยกันดีกว่าครับ ไม่ว่าใครจะเป็นเทพหรือ....ทุกคนคือนักตกปลารุ่นพี่นะครับถ้าจะโกรธก็ด่าว่าผมเถอะครับเพราะผมเป็นคนเปิดกระทู้นี้เองครับ อย่าทะเลาะกันเลยครับ มานั่งกินกาแฟร้านผมแล้วคุยกันเรื่องตกปลา+สาวๆดีกว่าครับแฮะแฮะ
กระทู้: 8
ความเห็น: 233
ล่าสุด: 27-01-2566
ตั้งแต่: 11-11-2549
ความเห็นที่ 44: 23 ธ.ค. 49, 08:54
น้าเอก ผมไม่รู้ว่ามีอะไรเกิดขึ้น น้าเอกครับโลกเนี่ย เป็นโลกเปรียบเทียบ ไอ้โน่นเตี๊ยไอ้นี่สูง ไอ้โน่นดำไอ้นี่ขาว ไอ้นี่ดัง ทำไมเราไม่ดัง ทุกอย่างมันเอามาเปรียบเทียบได้หมด น้าเอกครับยังมีคนยากรู้อีกแยะครับ เขาจะได้มีช่องทางศึกษา มันลึกล้ำกว่าที่คิด มันไม่ใช่แค่เอาเบ็ดหุ้มเหยื่อแล้วโยนลงน้ำ ผมยังยากรู้ต่อครับ  ว่าแต่น้าเอกครับเห็นน้าว่าน้าเป็นคนมีชื่อเสียง ผมว่าน้าเป็นดาราแน่เลย ผมได้ข่าวในทางลับมาว่าน้า หุ่นดีเหมือนผมเลย อย่าซีเรียสครับ เราห้ามมนุษย์ไม่ได้
กระทู้: 56
ความเห็น: 2,323
ล่าสุด: 27-01-2566
ตั้งแต่: 30-07-2549
ความเห็นที่ 45: 23 ธ.ค. 49, 09:07
กาเฟอร่อยเจ้าของร้านใจดี....อันนี้สำมะคัน
        ลูกน้องสวย5555555
กระทู้: 38
ความเห็น: 1,067
ล่าสุด: 22-04-2567
ตั้งแต่: 27-10-2548
นารา(132 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
ความเห็นที่ 46: 23 ธ.ค. 49, 12:28
ลูกน้องสวย
                                ผมไม่มองหัวหน้าแน่ๆ
                                                              อาจานก็อาจานเต๊อะ  ขอจีบลูกน้องแน่ๆถ้าสวย
กระทู้: 131
ความเห็น: 5,323
ล่าสุด: 27-01-2566
ตั้งแต่: 20-11-2549
ความเห็นที่ 47: 23 ธ.ค. 49, 12:40
ชวนมากินกาแฟกันนะครับแหมแต่ละคน!!!ลูกน้องน่ะไม่หวงหรอกครับ แต่ลูกสาวกับอาสาวของมันหวงนะครับ ยินดีต้อนรับทุกคนครับ มานั่งคุยกันดีกว่าครับ
กระทู้: 56
ความเห็น: 2,323
ล่าสุด: 27-01-2566
ตั้งแต่: 30-07-2549
ความเห็นที่ 48: 23 ธ.ค. 49, 13:55
วันที่ผมไปหาน้าป๋าต่อผมเดินดูของในตลาดผมว่านะที่นี่น่า
จะเป็นซอยละลายทรัพย์แห่งใหม่ก็ได้ของเยอะหลากหลายดี
เเม่ค้าสวย.........เห้อ...อธิบายไม่หมดไปดูเองละกัน
กระทู้: 0
ความเห็น: 20
ล่าสุด: 27-01-2566
ตั้งแต่: 12-10-2549
ความเห็นที่ 49: 24 ธ.ค. 49, 01:30
น้าเอกอย่าไปสนใจพวกดีแต่ปากคับสู้คับๆๆๆๆๆ
กระทู้: 17
ความเห็น: 6,977
ล่าสุด: 27-01-2566
ตั้งแต่: 05-03-2545
jedi(100 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
ความเห็นที่ 50: 25 ธ.ค. 49, 06:47
น้าเอก .. ครับ ใจเย็น ๆๆ
หน้าที่:< 1 | 2 | 3 >
siamfishing.com © 2024