มั่งจิคร๊าบบบบ....
เรื่องที่ไปตกปลาเนี่ยแหละครับ...
เมื่อเดือนกันยายน 2543 ผมกับเพื่อนไปตกปลากดตอนกลางคืนกัน 2 คนที่ลำห้วยแกว แถวฝายน้ำล้นรอยต่อระหว่าง อ.ทรายมูล จ.ยโสธร กับ อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด
วันนั้นน้ำเยอะมาก ปกติจะนั่งอยู่ฝั่งยโสธรเนี่ยแหละครับ แต่วันนั้น ปลาไม่ยอมกินเบ็ดเลย ผมกับเพื่อนก็เลยชวนกันข้ามไปฝั่งร้อยเอ็ด (โห...ดูเหมือนไกลมากเลย...
)
นั่งตกได้สักพัก ผมก็เห็นมีเงาคนมานั่งข้าง ๆ เพื่อน
"เจ๊ยยยยย!!!...." ผมร้องด้วยความตกใจ จนเพื่อนก็ตกใจด้วย
"อะไรเหรอ.?"
"อ๋อ..เห็นเงาต้นไม้ไกล ๆ นึกว่ามีคนมานั่งข้าง ๆ " ผมคิดแบบนั้นจริง ๆ และก็ไม่ได้กลัวด้วย
เราตกปลากันต่อไป อีกประมาณ 10 นาที มีชายคนหนึ่งขับรถยนต์เก๋งเก่า ๆ ประตูข้างคนขับไม่มีมาถามหาเส้นทางจะไปฝั่งยโสธร
"อ้าย ๆ รู้จักบ้านครูคิงส์บ่ บ้านสร้างแต้นั่นแหม" แกถาม
ผมกับเพื่อนก็บอกไม่รู้จัก แล้วผมก็นั่งตกปลาต่อ ชายคนนั้นก็คุยกับพวกผมไปเรื่อยเปื่อย ประมาณซัก 5 นาที แกก็ลงมาตรงสันฝายน้ำล้น
ปกติถ้าหน้าแล้งรถจะใช้สัญจรไปมาได้ เนื่องจากเป็นฝายลาดไม่ใช่ฝายตั้ง ผมเข้าใจว่าแกคงจะลงไปหยั่งดูน้ำว่าที่ล้นว่าลึกมากไหม? เพื่อจะดูว่ารถยนต์แกจะผ่านได้ไหม..
"ต๊าบบบบ...." เสียงที่ดังขึ้น ทำให้ผมกับเพื่อนที่ปิดไฟจากแบตเตอรี่ แต่ยังมีแสงจากดวงจันทร์ส่อง พอให้มองเห็นว่า แกลื่นสันฝาย อาจจะด้วยตะไคร่น้ำก็เป็นได้
เห็นแกล้มนอนคว่ำเงยหน้าขึ้นโดนน้ำพัดลงไปตามความลาดของฝาย....ไม่มีเสียงของชายคนนั้น ขณะที่ผมกับเพื่อนยังอึ้งอยู่..
พอพ้นบริเวณที่ลาดของฝาย น้ำที่แรงทำให้แกจมลงไปกับสายน้ำพร้อมกับหายไปเลย ผมกับเพื่อนก็เปิดไฟส่องตาม...
เงียบ...ประมาณเกือบสองนาที แกโผล่พรวดพร้อมกับร้องโฮกฮากเหมือนเสือ พร้อมกับจมลงไปอีก ผมกับเพื่อนรีบเก็บเบ็ดทันที
เพื่อนบอกว่าช่วงนั้นเหมือนสายเอ็นจะโดนชายคนนั้น เขาจึงกระชากอย่างแรงจนเอ็นขาด ด้วยกลัวว่าเบ็ดจะเกี่ยวชายคนนั้น
เสียงโฮกฮาก 3 ครั้งติดกัน ทำผมกับเพื่อนก็ยิ่งตกใจกันใหญ่ ทำอะไรไม่ถูกเลย...ครั้งที่ 4 แกโผล่พรวดอีกครั้ง...
"พี่........................"
แกร้องแบบนี้อยู่ 2 ครั้ง พวกผมก็บอกให้ว่ายเข้าฝั่ง พร้อมกับวิ่งไปด้านล่างของฝายเพื่อจะหาไม้ให้แกจับ แต่ไม่ถึงแก...
"พี่.........................."
ครั้งสุดท้ายที่แกร้อง....พร้อมกับจมหายไปกับสายน้ำ...........
ผมกับเพื่อนมองหน้ากันด้วยความตระหนกพอจะเดินขึ้นฝั่งก็พึ่งรู้ว่า ไม่ได้ใสรองเท้า เท้าทั้งสองข้างของพวกผมทั้ง 2 คน เต็มไปด้วยหนาม
แต่ตอนที่ลงมาไม่รู้สึกอะไรเลย.....
แล้วผมกับเพื่อนก็เลยค่อย ๆ พากันขึ้นบนฝั่ง ก่อนจะค่อย ๆ จับมือกันเดินข้ามกลับฝั่งยโสธร น้ำสูงระดับหัวเข่า แต่เชี่ยวมาก...
ตอนไป ต่างคนต่างไป...ขากลับ ค่อย ๆ จูงกัน....
จากนั้นผมกับเพื่อนก็ไปบอกกำนันให้ชาวบ้านมาช่วยกันค้นหา...ส่วนผมกับเพื่อนก็กลับบ้าน ตอนนั้นตี 2 กว่า ๆ แล้ว และก็เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้ชาวบ้านฟัง.....
"พวกเจ้าไปตกตรงไหน...."
"อ๋อ..พวกผมข้ามไปฝั่งเสลภูมิ..." พวกผมตอบ
"ตรงนั้นเป็นศาลเจ้าปู่เก่าเด้(นะ)นั่น.."
เช้าวันต่อมาถึงรู้ว่าชายคนนั้น เป็นอาจารย์สอนพละอยู่ที่ ร.ร.โพธิ์ทองพิทยาคม ต.โพธิ์ทอง อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด ญาติๆ ช่วยกันงมศพแต่ก็หาไม่เจอ.....
ในที่สุดตอนบ่าย 2 จึงได้ให้ "หมอธรรม" (คงคล้าย ๆ หมอผีมั้งครับ) มาทำพิธีให้พ่อแม่บอกกล่าว....แล้วร่างแก็ค่อย ๆ ลอยขึ้นมา โดยเอามือขึ้นมาก่อน....ไม่รู้ชี้หน้าพวกผมหรือเปล่า...
ผมแปลกตรงที่ว่า ครูพละ ทำไมว่ายน้ำไม่เป็นเนี่ยแหละ...หรือมีเหตุอะไรที่ทำให้ว่ายไม่ได้ และสิ่งที่ผมเห็นมานั่งข้าง ๆ เพื่อน ชาวบ้านบอกว่า "ขวัญ" ออกจากร่างมาก่อนแล้ว ( "ขวัญ" ในภาษาอีสาน คงจะเป็นวิญญาณหรือเปล่าครับ...)
ผมนั่งพิมพ์ไป...ขนลุกไป....บรึ๋ยยยยยยยยยยย..... นี่คือเหตุการณ์จริงครับ...
แล้วผมก็มีหมายให้ไป สภ.ต.โพธิ์ทอง (สมัยก่อนจะเป็น สภ.อ.(อำเภอ) และ สภ.ต.(ตำบล) ปัจจบันจะเหลือเพียง สภ.) เพื่อให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่บ้านเมือง....
จบครับ....