ใช่ตัวนี้ไหมคับน้า พินิจ ...
แล้วมานราคากีหมื่นล่ะคับน้า
แคนนอน คงยอมไม่ได้เป็นแน่แท้ เมื่อโดนท้าทายความเป็นผู้นำตลาดกล้องDSLR จากคู่แข่งใหม่อย่างโซนี่ และคู่แข่งใหม่อย่างโซนี่ และคู่แข่งเจ้าเก่าอย่างนิคอน แคนนอนจึงได้ปล่อยกล้อง EOS 400D ออกมาเพื่อชนกับโซนี่ Alpha 100 และนิคอน D80 โดยเฉพาะ แตนอนก็ออกกล้องรุ่นนี้มาแทนรุ่น EOS 350D ที่ออกวางจำหน่ายมานานกว่าหนึ่งปีครึ่งแล้ว โดยเน้นไปที่กลุ่มผู้ใช้ในระดับเริ่มต้น และต่อไปนี้คือสเปกเด่น ๆ ของกล้องรุ่นนี้ที่เราได้มาครับ
1. หัวใจหลักของกล้อง EOS 400D คือเซ็นเซอร์รับภาพ CMOS (complementary metal-oxide semiconductor) ตัวใหม่ที่มีขนาด 22.2 x 14.8 มม.ที่มีความละเอียดสูงสุดมากถึง 10.5 ล้านพิกเซล และความละเอียดแสดงผลที่ 10.1 ล้านพิกเซล ให้ขนาดภาพสูงสุดที่ 3888 x 2592 พิกเซล โดยมีตัวคูณทางยาวโฟกัสของเลนส์ 1.6x พร้อมเซ็นเซอร์ประมวลผล DiGiC ll เช่นเดิม
2. ระบบออโตโฟกัสได้รับการพัฒนาให้ดีขึ้นเป็น 9 จุด จากเดิมเพียง 7 จุดใน EOS 350D ครอบคลุมพื้นที่กว้างเป็นพิเศษ ทำให้การล็อกโฟกัสพร้อมจัดองค์ประกอบภาพเป็นไปได้อย่างสะดวก และมีพิสัยการทำงาน -0.5 ถึง 18 EV
3. ระบบ Dust Reduction ใหม่ รุ่นแรกของกล้องดิจิตอลตระกูล EOS ของแคนนอน ที่มีการติดตั้งระบการสั่นสะเทือนชุด Low Pass Filter ซึ่งอยู่หน้าเซ็นเซอร์รับภาพ ที่สามารถสั่นด้วยถี่สูงเพื่อให้ฝุ่นหลุดออกได้ โดยใช้ระยะเวลาที่สั้นเพียง 1 วินาทีเท่านั้นหลังจากเปิดกล้อง อีกทั้ง่ยังมีการเคลือบผิวหน้าของฟิลเตอร์ด้วยสาร Anti-static ที่ลดกระแสไฟฟ้าสถิตย์ ที่จะเป็นสาเหตุของการสะสมฝุ่นละอองอีกด้วย
4. มีความเร็วในการทำงานที่สูงมากกว่าเดิม ดดยแคนนอนเคลมว่ามีความเร็วในการเปิดกล้องพร้อมบันทึกภาพ 0.2 วินาที บันทึกดภาพสูงสุด 3 เฟรม/วินาที บันทึกติดต่อกันได้รวดเดียว 27 ภาพถ้าเป็นไฟล์ JPEG และ 10 ภาพสำหรับ Raw File
5. บอดี้ออกแบบใหม่ ตัดจอ LCD ขนาดเล็กที่อยุ่ทางด้านบนออก แล้วใช้จอ LCD ด้านหลังในการแสดงข้อมูลและสถานะต่าง ๆ ในการบันทึกภาพแทน ในรูปแบบเดียวก้นกับ Alpha 100 ของโซนี่
6. คุณสมบัติเด่นอื่น ๆ ของ EOS 400D ได้แก่
- ตั้งค่าความไวแสงได้ระหว่าง ISO 100-1600
- มีโหมดสีให้เลือก 2 แบบคือ sRGB และ Adobe RGB พร้อมโหมด Picture Style 9 รูป เช่นเดียวกับกล้องรุ่นพี่อย่าง EOS 30D และมี EOS 1D Mark ll N ซึ่งเท่ากับว่ากล้องทั้ง 3 ระดับของแคนนอนมีโหมด Picture Style ครบทุกระดับ
- จอมอนิเตอร์ LCD ขนาด 2.5 นิ้ว ความละเอียด 230000 พิกเซล แบบ Low Temperature Polysilicon TFT LCD ปรับความสว่างของจอภาพได้ พร้อมขยายภาพได้สูงสุด 10X
- สามารถเขียนไฟล์ในฟอร์แมต Raw และ JPEG ได้ในขณะเดียวกัน ด้วยการใช้การ์ดจัดเก็บภาพแบบ CF Type l/ll และ IBM Microdrive
- อินเตอร์เฟสความเร็วสูง USB 2.0
- แฟลชในตัวมีกำลังปานกลาง GN 13 การทำงานในระบบเฟลช E-TTL ll เพิ่มความแม่นยำในการทำงานมากขึ้น
- สนับสนุนระบบการพิมพ์ PictBridge ที่สามารถต่อกล้องเพื่อพิมพ์ภาพจากเครื่องพิมพ์ไดโดยตรง
7. ฟังก์ชั่นการทำงานหลัก ๆ ได้แก่
- เมาท์เสนส์ EF ใช้ได้กับเลนส์ออโตโ
ฟกัสของกล้องฟิล์มในตระกูล EOS ได้ทุกรุ่น รวมทั้งเลนส์ EF-S
- ระบบวัดแสงผ่านเลนส์ระบบ TTL 3 ระบบ คือ แบ่งพื้นที่ 35 ส่วน, เฉพาะส่วน 9% และเฉลี่ยหนักกลาง
- โหมดบันทึกภาพครบครัน คือ โปรแกรมอัตโนมัติ [P], ออโต้รูรับแสง [Tv], ออโต้ความเร็วชัตเตอร์ [Av], ชัดลึกอัตโนมัติ [DEP], แมนนวล [M] และ Scene mode อีก 5 แบบ
- ระบบโฟกัส 3 แบบ ได้แก่ โฟกัสทีละภาพ [One-Shot] โฟกัสต่อเนื่อง [Ai-Servo] และแมนนวลโฟกัส [M]
- สามารถชดเชยแสงได้ +/- 2.0 EV เลือกแบ่งละเอียดได้ขั้นละ 1/3 หรือ 1/2 EV
- ถ่ายภาพคร่อมอัตโนมัติ 3 ภาพ แบ่งละเอียด 1/3 EV พร้อมถ่ายคร่อมไวท์บาลานซ์ได้
- ชัตเตอร์ที่ระนาบเซ็นเซอร์แบบอิเลคทรอนิกส์ เคลื่อนที่ในแนวดิ่ง ความเร็ว 30-1/4,000 วินาที พร้อมชัตเตอร์ B และสัมพันธ์แผลชสูงสุด 1/2000 วินาที
- แบตเตอร์รี่ลิเธียม NB2LH พลังงานสูง สามารถถ่ายภาพต่อการชาร์ทแต่ละครั้งได้นานขึ้นกว่าเดิม พร้อมมีแบตเตอรี่แพ็ครุ่น BG-E3 ที่สามารถใส่แบตเตอรี่ลิเธียมได้ 2 ก้อน เพื่อการถ่ายภาพที่ต่อเนื่องได้นานกว่า
- ขนาดตัวกล้อง 127x94x65 มม. และมีน้ำหนักไม่รวมแบตเตอรี่ 514 กรัม
ความคิดเห็น : มีความเปลี่ยนแปลงไปจาก EOS 350D อยู่มากพอควรเลยทีเดียว ทั้งเรื่องระบบโฟกัสที่ดีกว่าเดิมความเร็วและความต่อเนื่องในการถ่ายภาพดีขึ้น พร้อมกับมีระบบกำจัดฝุ่นด้วยในตัว แต่ทว่าสิ่งที่น่จับตามองมากกว่าคือคุณภาพของภาพที่มาจากเซ็นเซอร์ CMOS ว่าจะสามารถทำได้ดีกว่าเดิมหรือไม่ และจะเป็นอย่างไรเมื่อต้องชนกับคู่แข่ง ซึ่งเราก็หวังว่าคงจะได้ทดสอบและนำผลท่ได้มารายงานให้ท่านผู้อ่านได้รับทราบกันเร็วที่สุด