“เวลา” ได้ดำเนินเรื่องราวมาจนถึงภาพท้ายสุดของบันทึกฉบับนี้แล้ว หากท่านติดตามอ่านเรื่องราวมาจนถึงบรรทัดนี้ ย่อมพิสูจน์ได้แล้วว่าร่างกายของท่านนั้นยังมี “ชีวี” และพุทธวิถีที่ผมได้เรียนรู้มานั้น ทำให้ผมได้รับรสสัมผัสถึงแก่นแท้ตามเหตุและปัจจัย หากไม่ปฏิบัติ ก็ไร้การมองเห็นซึ่ง
“ความจริง” เฉกเช่นวิทยาศาสตร์ หากไร้การทดลอง ก็ไร้ซึ่งการพิสูจน์ทราบ หากอ่านแล้ว ปัจเจกชนคนใดยังประสงค์จะสืบสานต่อ “ความเชื่อ” อันหนึ่งอันใดให้ดำรงสืบต่อไป ด้วยความเคารพที่มิอาจก้าวล่วงได้ ก็ให้การตัดสินใจในชีวิตของใคร ก็ขึ้นอยู่กับคนหนึ่งผู้ใดคนนั้นเป็นสำคัญก็แล้วกัน ส่วนผมนั้นขอเดินทางสายกลางบนถนนแห่งชีวิตนี้ต่อไปตราบเท่าที่ชีวิตยังมีเวลาเหลืออยู่ ด้วย “สติ” ที่มีสมาธิ เพราะสัมผัสได้แล้วว่าในสมาธินั้นจะก่อปัญญา ให้หลุดพ้นจากมายาที่ปิดกั้น “แก่นแท้” ของความจริง ก่อนจบบันทึกฉบับนี้ อย่างไรก็ดี ขอให้ทุกท่านได้
“ไปที่ชอบ ๆ ตอนที่ยังมีชีวิตอยู่” อย่างมีความสุขและปลอดภัย...สวัสดี