บทความที่พี่นัทโพสไว้ในเพจเพื่อนทะเลครับ
เมื่อวานนี้เวลาประมาณ 20.30 น. ผมได้รับโทรศัพท์จากชาวบ้านที่รู้จักกัน แถบ ต.จะโหนง อ.จะนะ จ.สงขลา แจ้งว่ามีเต่าทะเลขนาดใหญ่ติดเครื่องมือประมงของชาวบ้านในคลอง ขณะนี้ได้นำมาขังไว้ที่บ้าน วันรุ่งขึ้นจิงรีบเดินทางไปยังที่เกิดเหตุ
เมื่อไปถึงบ้านของชาวบ้านที่จับเต่าได้ พบว่าเป็นเต่าตนุ เพศเมีย ขนาดความยาวกระดองประมาณ 1 เมตร น้ำหนัก 27 กิโลกรัม ได้ว่ายหลงเข้ามาในลำคลองน้ำกร่อยซึ่งห่างจากทะเลถึง 15 กิโลเมตร (เกือบจะเป็นเขตน้ำจืด) จนมาติดบาล์ม(เครื่องมือประมงชนิดหนึ่ง คล้ายยอขนาดใหญ่) ของชาวบ้าน ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ค่อนข้างผิดปกติ เพราะโดยทั่วไปแล้วเต่าทะเลมักจะหากินอยู่ในทะเลเปิด จะไม่เข้ามาในเขตบริเวณน้ำกร่อย
สภาพเต่าโดยรวมยังถือว่าค่อนข้างแข็งแรง มีบาดแผลที่ลำคอเพียงเล็กน้อย และมีเครื่องหมายติดอยู่ที่ขาทั้งสองข้างทำให้ทราบได้ว่าเป็นเต่าที่ปล่อยโดยหน่วยงานของรัฐ (แต่ยังไม่ทราบว่าหน่วยงานไหน) จึงได้ประสานงานไปยัง ศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 4 ต.เกาะยอ จังหวัดสงขลา เพิ่อนำเต่าไปพักฟื้นและรอดูอาการก่อนที่จะนำกลับไปปล่อยคืนส่ทะเลต่อไป
หลังจากเคลื่อนย้ายเต่ามาถึงศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 4 ท่าน ผอ. สนธยา ประไพทรัพย์ (ผู้อำนวยการศูนย์ฯ) ได้เป็นคนลงมาดูแลด้วยตัวท่านเอง รวมทั้งเจ้าหน้าที่อีกหลายท่าน หลังจากทำการเคลื่อนย้ายเต่าลงบ่อพักฟื้นเรียบร้อยแล้ว จึงได้มีโอกาสเยี่ยมชมบรรยากาศและโรงเพาะฟักลูกเต่าทะเลของทางศูนย์ จึงเก็บภาพมาฝากกันด้วยครับ
พี่ๆเจ้าหน้าที่ของศูนย์ได้ให้ข้อมูลว่า ทางศูนย์ฯจะมีหน้าที่เก็บไข่เต่า(ซึ่งเกือบทั้งหมดได้มาจากเกาะกระ จ.นครศรีธรรมราช ) เพื่อนำมาเพาะฟักที่โรงเพาะเลี้ยงของศูนย์ฯ และทำการอนุบาลจนลูกเต่ามีอายุประมาณ 1 ปี ขนาดราว 1 ฟุต จึงจะปล่อยกลับคืนสู่ธรรมชาติ ที่ีทำเช่นนี้เพื่อเพิ่ม % การรอดของลูกเต่าให้สูงขึ้น เพราะหากปล่อยลูกเต่าตั้งแต่ยังมีขนาดเล็กๆ จะมีอัตราการรอดที่ต่ำมาก เนื่องจากมีศัตรูตามธรรมชาติมากมาย เช่นปูลม นก ปลา และสัตว์กินเนื้อต่างๆ
นอกจากนี้ทางศูนย์ยังรับดูแลและพักฟื้นเต่าทะเลที่บาดเจ็บจากอุบัติเหตุ หรือเครื่องมือการประมง จนมีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรงดีก่อนที่จะนำกลับไปปล่อยคืนสู่ทะเลอีกด้วย
เมื่อวานนี้เวลาประมาณ 20.30 น. ผมได้รับโทรศัพท์จากชาวบ้านที่รู้จักกัน แถบ ต.จะโหนง อ.จะนะ จ.สงขลา แจ้งว่ามีเต่าทะเลขนาดใหญ่ติดเครื่องมือประมงของชาวบ้านในคลอง ขณะนี้ได้นำมาขังไว้ที่บ้าน วันรุ่งขึ้นจิงรีบเดินทางไปยังที่เกิดเหตุ
เมื่อไปถึงบ้านของชาวบ้านที่จับเต่าได้ พบว่าเป็นเต่าตนุ เพศเมีย ขนาดความยาวกระดองประมาณ 1 เมตร น้ำหนัก 27 กิโลกรัม ได้ว่ายหลงเข้ามาในลำคลองน้ำกร่อยซึ่งห่างจากทะเลถึง 15 กิโลเมตร (เกือบจะเป็นเขตน้ำจืด) จนมาติดบาล์ม(เครื่องมือประมงชนิดหนึ่ง คล้ายยอขนาดใหญ่) ของชาวบ้าน ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ค่อนข้างผิดปกติ เพราะโดยทั่วไปแล้วเต่าทะเลมักจะหากินอยู่ในทะเลเปิด จะไม่เข้ามาในเขตบริเวณน้ำกร่อย
สภาพเต่าโดยรวมยังถือว่าค่อนข้างแข็งแรง มีบาดแผลที่ลำคอเพียงเล็กน้อย และมีเครื่องหมายติดอยู่ที่ขาทั้งสองข้างทำให้ทราบได้ว่าเป็นเต่าที่ปล่อยโดยหน่วยงานของรัฐ (แต่ยังไม่ทราบว่าหน่วยงานไหน) จึงได้ประสานงานไปยัง ศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 4 ต.เกาะยอ จังหวัดสงขลา เพิ่อนำเต่าไปพักฟื้นและรอดูอาการก่อนที่จะนำกลับไปปล่อยคืนส่ทะเลต่อไป
หลังจากเคลื่อนย้ายเต่ามาถึงศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 4 ท่าน ผอ. สนธยา ประไพทรัพย์ (ผู้อำนวยการศูนย์ฯ) ได้เป็นคนลงมาดูแลด้วยตัวท่านเอง รวมทั้งเจ้าหน้าที่อีกหลายท่าน หลังจากทำการเคลื่อนย้ายเต่าลงบ่อพักฟื้นเรียบร้อยแล้ว จึงได้มีโอกาสเยี่ยมชมบรรยากาศและโรงเพาะฟักลูกเต่าทะเลของทางศูนย์ จึงเก็บภาพมาฝากกันด้วยครับ
พี่ๆเจ้าหน้าที่ของศูนย์ได้ให้ข้อมูลว่า ทางศูนย์ฯจะมีหน้าที่เก็บไข่เต่า(ซึ่งเกือบทั้งหมดได้มาจากเกาะกระ จ.นครศรีธรรมราช ) เพื่อนำมาเพาะฟักที่โรงเพาะเลี้ยงของศูนย์ฯ และทำการอนุบาลจนลูกเต่ามีอายุประมาณ 1 ปี ขนาดราว 1 ฟุต จึงจะปล่อยกลับคืนสู่ธรรมชาติ ที่ีทำเช่นนี้เพื่อเพิ่ม % การรอดของลูกเต่าให้สูงขึ้น เพราะหากปล่อยลูกเต่าตั้งแต่ยังมีขนาดเล็กๆ จะมีอัตราการรอดที่ต่ำมาก เนื่องจากมีศัตรูตามธรรมชาติมากมาย เช่นปูลม นก ปลา และสัตว์กินเนื้อต่างๆ
นอกจากนี้ทางศูนย์ยังรับดูแลและพักฟื้นเต่าทะเลที่บาดเจ็บจากอุบัติเหตุ หรือเครื่องมือการประมง จนมีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรงดีก่อนที่จะนำกลับไปปล่อยคืนสู่ทะเลอีกด้วย
สุดท้ายนี้ คงต้องขอขอบคุณ
-ท่าน ผ.อ. สนธยา ประไพทรัพย์ และพี่ๆเจ้าหน้าที่ในศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 4ทุกท่านที่ให้การช่วยเหลือและต้อนรับเป็นอย่างดี แถมยังให้ความรู้ต่างๆกับตัวผมและชาวบ้านอีกด้วย
-ชาวบ้าน ต.จะโหนงทั้งท่านที่เป็นผู้จับเต่าได้ และอีกหลายๆท่าน ที่ยังมองเห็นคุณค่าของเต่าทะเลว่าเป็นสัตว์ที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์ มิใช่มองว่ามีค่าเป็นเพียงแค่อาหาร
-ใหม่ Luzife ที่ตามมาคอยเก็บภาพถ่ายทั้งหมด และช่วยแบกเต่าในครั้งนี้ด้วย
ขอขอบคุณทุกๆท่านจากใจจริง ขอให้เต่าทะเล อยู่คู่ทะเลไทยตลอดไปครับ ............
ขอขอบคุณทุกๆท่านจากใจจริง ขอให้เต่าทะเล อยู่คู่ทะเลไทยตลอดไปครับ ............