ลักษณะหมายวันนี้
- วังกุ้ง...ที่เ้จ้าของเลี้ยงแบบปล่อย ไม่ค่อยได้ดูแล ความลึกเฉลี่ยไม่เกิน 2 เมตร พื้นใต้น้ำเป็นดินไม่เหลวมากนัก จับความรู้สึกได้เวลาลากเหยื่อพอหนืด ๆ มีหลุมมีร่องอยู่ห่างจากชายตลิ่งประมาณ 3 - 4 เมตร วังแรกเปิดโล่ง มีกอหญ้า กอปรือ เล็กน้อย อีกวังมีแนวเกาะหญ้าตรงกลางผสมกอปรือ ปลาช่อนขึ้นจิบให้เห็นเป็นระยะ ๆ ปลานิลบางตา น้ำค่อนข้างกร่อยแต่ไม่มาก
สภาพน้ำ
- ขุ่นพอประมาณ อุปสรรคใต้น้ำมีบ้างบริเวณชายตลิ่ง
สภาพอากาศ
- แจ่มใส ฟ้าเปิด ลมพัดกำลังดี ไม่ร้อน
เหยื่อที่เลือกใช้ กบยาง ไส้เดือนยาง 6 นิ้ว และ 4 นิ้ว เน้นสีสว่าง ช่วงเช้าที่ไปถึงหมายถ้าเป็นกบยางเน้นสีจัด ๆ เช่น เขียว หรือส้ม ส่วนไส้เดือนยางและหนอนยางใช้แบบสองสี กลางวันแดดเริ่มจัดใช้เหยื่อแบบที่ผสมกากเพชร ช่วงเย็นใช้สีเข้ม เช่น ดำ หรือน้ำตาลไหม้
สังเกตเห็นปลาขึ้นจิบบริเวณใกล้ชายตลิ่งเป็นส่วนใหญ่ เวลาใช้เหยื่อกบยาง ใช้ิวิธีตีส่งเหยื่อขนานตลิ่ง เก็บสายสลับกระตุก (jerk) ให้เหยื่อกระโดดมาเป็นจังหวะแบบคลื่นหัวใจ ใช้ความเร็วตามถนัด สังเกตเห็นว่าใครใช้สปีดค่อนข้างเร็วสำหรับกบยาง ปลาจะเข้าชาร์จดีกว่า (เดี๋ยวให้นายศรีบูรพามาอธิบายต่อพร้อมหลักฐาน
)
ผมเน้นไปที่ไส้เดือนยาง ตีเลาะชายตลิ่งเ่ช่นกัน ตีส่งให้เลยจุดที่คาดว่าปลาอยู่ เหยื่อตกน้ำแล้วปล่อยทิ้งไว้จนวงน้ำหายไป แล้วกระตุกเบา ๆ หนึ่งครั้ง จากนั้นใช้เทคนิคลากแล้วหยุด (walk & wait) เน้นแอ็คชั่นให้หางเหยื่อชี้ขึ้นสร้างแอ็คชั่น จินตนาการให้เหมือนลูกปลากำลังเล็มเหยื่อหน้าดินเพลิน ๆ นาน ๆ จะกระตุกให้โดดสักทีถ้ารู้สึกว่าตะกั่วมุดเลน แต่ถ้าจับความรู้สึกได้ว่า...เหยื่อติดขอบร่อง จะหย่อนสายลง หรือเดินเข้าไปสองสามก้าวให้สายหย่อน แล้วเขย่าปลายคันสร้างแอ็คชั่นอยู่กับที่ ...มีปลาเข้าชาร์จสองครั้งติด ๆ ในจุดเดียว แต่คายเหยื่อก่อนจะส่งสาย
ต้องลดสปีดให้ช้าลงอีก เน้นการคืบคลานของไส้เดือนยางมากกว่าการกระโดด...เมื่อเก็บสายจนเหยื่อใกล้ถึงตัว ระยะ 2 เมตร ไม่รีบยกขึ้น แต่จะเขย่าปลายคันเบา ๆ อยู่กับที่ จินตนาการเสมอว่า ปลาอยู่ใกล้ ๆ และกำลังสนใจเหยื่อพร้อมจะชาร์จได้เสมอ...