หลังจากร่วมกันถ่ายรูปกับปลาพลวงตัวใหญ่ของ เขตต์ เมืองลับแล
เจ้าของโทรฟี่ได้ถ่ายรูป แล้วเค้าก็ปล่อยมันไปกลับไปสู่สายน้ำเพชรบ้านเกิดของมัน
หลังจากที่ความพยายามที่จะขอไว้ทำกินของผม ไม่สำฤทธิผล เขตต์ เมืองลับแล ก็ปล่อยมันคืนสู่อิสรภาพ
เกือบจะลืมไปจากก้อนสมองของความทรงจำ หลังจากที่พวกเราทั้งหลายถ่ายรุปกันจนอิ่มหนำสำราญใจ
เบือหลังห่างออกไป มีชายหนุ่มรุปร่างผอมบาง กำลังยืนถือปลาเวียนตัวเล็กๆอยู่สองตัว
ซักซ้อมโพสต์ท่าทางจะเข้ากล้องถ่ายรูป ผมเห็นดังดั้นจึงเข้าทางปืนพอดี
อีเจ๊บิคถือปลาเดินสวนเข้ามาหากลุ่มคนที่กำลังจะแยกจากออกไปกินข้าว แกเดินสวนลงน้ำเตรียมแอคท่าถ่ายรุปคู่กับปลาเวียน
โทรฟี่สำคัญที่ดั้นด้นเดินทางมาเป็นระยะทางหลายร้อยกิโลเมตร เพื่อที่จะบัณทึกภาพแห่งความภูมิใจ
เลิกๆ หิวข้าวแล้ว ผมพูดโพล่งออกมาดังๆเพื่อให้เพื่อนได้ยิน
ระหว่างกระจายตัวให้ พี่บิค เดินสวนเข้ามา พลางขยิบตาให้พี่หมี ตากล้องประจำทริป
เจ้บิคเดินลงน้ำไปครึ่งตัว ตั้งท่าโพสต์รูปที่เตรียมซ้อมเอาไว้ก่อนหน้านี้ แต่เพื่อนๆกับแกล้งทำเป็นไม่สนใจ
บ่นพร่ำชื่นชมปลาของเขตต์ เมืองลับแล แต่ถ่ายเดียว
เจ๊หมี ถ่ายรูปให้หน่อย อากาศยามเย็นเริ่มหนาวขึ้น
แต่เจ๊บิคยังคงปักหลักยืนโพสต์ท่าเตรียมถ่ายรูปคู่กับโทรฟี่ปลาเวียน อนิจจา
พี่หมีทำหูทวนลมแกล้งทำเป็นไม่ได้ยิน ทุกคนคุยเรื่องอื่นๆแต่ว่าหางตาแอบมองชำเลืองไปทางเจ๊บิค
อ้วน ถ่ายรูปให้หน่อย มันเริ่มเปลี่ยนแผน เมื่อเห็นเจ๊หมี รับมุขไม่สนใจ
ผมได้แต่ยืนเฉยๆมองปรายๆบอกต่อไปว่า
ถ่ายอะไร เค้าเลิกกันหมดแล้ว เวลาถ่ายรูปไม่มารวม ไปยืนแอ๊คอยู่ได้
เจ๊ หมี ถ่ายรุปให้หน่อย มันเริ่มส่งเสียงออดอ้อน พี่หมียังคงเฉยทำหูทวนลม
ทุกคนแกล้งบิค บิคใจเสีย หน้าตาเง้างอนแสดงออกมาก่อนตะวันตกดินนิดเดียว
ถึงแม้จะน่าเกลียดหน้ากลัว แต่ก้พอจะเรียกเสียงหัวเราะจากพวกเราได้ไม่น้อย