ที่นี่แรกๆ ก็คล้ายบ้านหลังเล็กๆ ที่ผมสร้างขึ้นมาให้เพื่อนๆ ได้เข้าอยู่อาศัยกัน เรามีกันไม่กี่คน รู้จักทุกคน เราช่วยเหลือกัน เอื้ออาทรกัน นานวันผู้คนก็เริ่มบอกต่อกันว่า มีบ้านอย่างนี้อยู่ด้วยนะ แล้วก็บอกต่อกันไปเรื่อย สมาชิกในบ้านก็เพิ่มมากขึ้น มากขึ้น
สักพักผมก็รู้สึกว่าเทียบกับบ้านคงไม่ได้ มันน่าจะเป็นหอพักมากกว่า ผมกลายไปเป็นอาจารย์ประจำหอ คอยดูแลความเรียบร้อย มีเรื่องอะไรกันก็ไกล่เกลี่ยให้ คนในห้อพักก็จัดกิจกรรมร่วมกันเพื่อจะได้รู้จักทั่วหน้ามากขึ้น
สักพักผมก็รู้สึกว่าเทียบกับหอคงไม่ได้แล้ว มันน่าจะเป็นมหาวิทยาลัยมากกว่า มีสังกัดเดียวกัน บางคนก็สนิทกัน บางคนก็รู้จักกันในฐานะอยู่มหาวิทยาลัยเดียวกัน บางทีก็มีทะเลาะกันระหว่างคณะบ้าง ผมกลายเป็นอธิการบดี คอยดูแลนโยบายของมหาวิทยาลัยโดยร่วม
สักพักผมก็รู้สึกว่าเทียบกับมหาวิทยาลัยคงไม่ได้แล้ว มันน่าจะเป็นชุมชนมากกว่า แม้บ้านแต่ละหลังจะมีความแตกต่างกัน ชอบไม่เหมือนกัน แต่เราก็มีวัฒนธรรมบางอย่างร่วมกัน และมีข้อตกลงร่วมกันของชุมชนเราจะทำอย่างนี้ และเราจะไม่ทำอย่างนั้นนะ มีการคัดเลือกตัวแทนขึ้นมาเพื่อทำงานอาสาสมัครให้กับชุมชน ผมก็กลายเป็นผู้อาวุโสของชุมชน ค่อยให้คำแนะนำตามสมควร
ไม่ว่าเหตุการณ์จะเปลี่ยนไปเช่นไร หรือจะเปรียบเทียบกับอะไร สิ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนเลยคือ ที่นี่จะเป็นเช่นไรขึ้นอยู่กับว่าทุกคนจะสัมผัสกันด้วยด้านใด หากสัมผัสกันด้วยความแข็งกร้าว ไม่รักษาน้ำใจกัน ที่นี่ก็จะเต็มไปด้วยความขัดแย้ง ความชิงชัง แต่หากสัมผัสกันด้วยความปรารถนาดี คุยกันแต่เรื่องดีๆ ทุกๆวัน ที่นี่ก็จะมีแต่เรื่องดีๆ ปัญหายากๆ ก็แก้ไขกันได้ด้วยด้วยดี
พูดไปเหมือนเป็นเรื่องเพ้อฝัน แต่ผมก็เห็นสิ่งที่ผมฝันมาหลายปีแล้ว มีบางวันที่ฝันร้ายบ้าง แต่ส่วนใหญ่จะเป็นฝันดีครับ ขอบคุณทุกท่านเช่นกันครับ