ที่บอกว่า ผมเคยมีอดีตกลับเขื่อนศรีฯ ก็คือ เรื่องมีอยู่ว่า ครั้งนึงผมเคยไปงมศพนักท่องเที่ยวมาเที่ยวแพเธค แล้วเมาเหล้า หรือ ไงไม่ทราบ ตกน้ำ เสียชีวิต มูลนิธิที่นั่น ขอกำลังสนับสนุนมาทางมูลนิธิผม เราเลยจัดไปให้ 6 ตัว ครับ รวมทั้งผมด้วย เป็นหัวหน้าชุด
แต่บริเวณที่คาดว่าตกน้ำเสียชีวิต ไม่สามารถระบุตำแหน่งที่ชัดเจนได้ เนื่องจากว่า น้ำมันไหลแรงมาก เราทำได้เพียงสุ่มค้นหา เพื่อปลอบใจญาติ ร่วมกับมูลนิธิฯ ของพื้นที่
วันนั้นเราลงทั้งหมด 4 ตัว ผมเป็นมือที่สอง ลงเพื่อวัดระดับน้ำ จะได้คำนวนตะกั่วถ่วงน้ำหนักตัวก่อนสำหรับลูกน้องคนต่อไป
จากการคำนวนคร่าว ๆ ทที่ลงไป น่าจะอยู่ที่ระดับ 10 เมตรกว่า ๆ เกือบ 20 เมตรได้มั๊งครับ เราลงควานหา ( ต้องใช้คำว่าควานหานะครับ เพราะข้างล่างจะมืดมาก แทบมองไม่เห็น ) ขาผมก็ยังไม่ถึงพื้นดินด้วย คาดว่าน่าจะลึกมาก ๆ ผมตีฟินไปเรื่อย ๆ โดยมีสายเซฟตี้ ผูกไว้ที่เอว บัดดี้ จะคอยฟังสัญญาณชีพจากผมตลอด คือ คอยกระตุก ทุก ๆ 3 นาทีสั้น ๆ พร้อมกับผ่อนสายเซฟตี้ตามมาช้า ๆ
แต่ด้วยความประมาทเลินเล่อ ของลูกน้องผมเอง ทำสายเซฟตี้ หลุดมือ หรือ ไงไม่ทราบโดยที่ผมไม่มีโอกาสรู้เลย เนื่องจากอยู่ข้างล่าง จังหวะที่ผมกระตุกสัญญาณชีพอยู่ตลอด แต่ก็ไม่ทราบว่าข้างบนทราบหรือไม่ จังหวะนั้นผมลอยไปไกลมาก ๆ เนื่องจากกระแสน้ำไหลแรงมาก ยกเครื่องบอกระดับลมที่อยู่ในถัง บอกว่า ไม่น่าจะเกิน 10 นาที ผมต้องส่งสัญญาณชีพแล้ว เพื่อดึงผมกลับช้า ๆ หรือ เอาเรือตามมาเรื่อย ๆ แต่ว่าผมดึงเชือกแล้วว่าว เข้าใจป่ะครับ
เหวอ....เลยซิครับทีนี้ ข้างล่างสุดเงียบ วังเวง ไม่เคยกลัวอะไรขนาดนี้มาก่อน ผีก็ไม่เคยกลัว เริ่มใจไม่ดี เราจะเอาชีวิตมาทิ้งที่นี่เชียวเหรอ พระท่านลเคยบอกว่า ผมไม่ตายโหง แต่ผมว่าถ้ายังอยู่ ผมตาย...หร่า แน่ ๆ ทำไงดี พยายามควบคุมสติ ไม่ให้กระจายไปกว่านี้ ตอนนั้นต้องบอกว่า กลัวมาก ไม่ได้มีอะไรมาทำร้ายนะครับ แต่ผมกลัวใจตัวเอง ใจบอกว่าต้องมีจรเข้ หรือ มีอะไรซักอย่างมาแน่ ทั้ง ๆที่ จริง ๆ ไม่มีหรอก เหมือนอยู่ตัวคนเดียวในโลกจริง ๆ ครับตอนนั้น ผมบอกกับตัวเองเลยครับว่า คนที่ตกน้ำแล้วก่อนตาย เค้าจะเป็นแบบนี้เหรอ ผมรู้สึกได้ คำว่ากลัวตายเริ่มเข้ามาสิงในสมอง พยายามนึกถึงคุณพระ คุณเจ้า นึกถึงบุญกุศลที่เราเคยช่วยเหลือผู้ประสบเหตุต่าง ๆ ให้เค้ารอดชีวิต แม้แต่เหตุการณ์ที่ไปเก็บกู้ที่สึนามิ ก็ยังนึกถึง พยายามบอกให้เค้าช่วยเหลือเราด้วย เราเก็บมาเป็นร้อยจากเหตุการณ์นั้น เราไม่เคยรู้จักกัน ไม่เคยเห็นหน้ากัน แต่ขอให้บุญกุศลที่ผมได้พาเค้ากลับบ้านเกิดเมืองนอน ไม่ว่าจะสภาพใดก็ตาม ช่วยให้ผมรอดชีวิตจากตรงนี้ด้วยนะครับ ผมกลัวจริง ๆ นึกไปถึงโน่น
ทุ่นช่วยชีวิต.......
พยายามคิด ทำไงดี ทุ่นไง สัญญาณบอกตำแหน่ง ถูกปล่อยออกจากเอว ลอยไปไหนไม่ทราบ แต่ต้องจับเชือกทุ่นไว้ให้แน่นที่สุดในชีวิต แล้วพยายามตีฟินขึ้นมาช้า ๆ โดยอาศัยแรงน้ำช่วย
สุดท้ายก็มีเรือมารับจากการเห็นทุ่น โล่ง ขอบอกตัวเองเลยครับว่า เราจะไม่ลงอีกแล้ว กับน้ำที่อยู่ในเขื่อน กลัวที่สุด กลัวที่จะอยู่คนเดียวในที่มืด ๆ แบบนั้นอีก
ขอโทษครับ ที่เอาเรื่องไร้สาระมาเล่าให้ฟัง เป็นประสบการณ์ชีวิตอีกเรื่องนึงที่เกือบเอาชีวิตไม่รอดครับ
ผมทำตามหน้าที่แล้วนะครับ
ขอบคุณ น้าเวป และ แอดมินทุก ๆ ท่าน ที่เอื้อเฟื้อสถานที่แพร่ภาพครับ
หากเนื้อหาตอนใดไม่เหมาะสม ผมขอรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียวครับ........