ความเงียบที่เข้ามาเยือนมันไม่เงียบอีกต่อไป เมื่อเรืออวนขนาดใหญ่ลากผ่านด้านข้างของหมายเรา เรียกได้ว่าใกล้จนาดมองเห็นสิวของไต๋เรือลำดังกล่าว แน่นอนว่าเราห้าม หรือว่ากันไม่ได้ท้องทะเลเป็นของทุกคน ทัพย์ที่อยู่ในทะเลคือทรัพย์ของแผ่นดิน อยู่ที่ว่าเราควรจะใช้อย่างรู้คุณค่า และเคารพในธรรมชาติก็แค่นั้น จิตรสำนึกเหล่านี้เราทำให้เกิดกับคนทุกคนไม่ได้ นอกเสียจากทุกๆคนจะต้องตระหนัก และสร้างกันขึ้นมาเอง ผมได้แต่มองตามเรืออวนลำดังกล่าวอย่างกังวลถึงทรัพยากรในท้องน้ำว่า อีกไม่กี่ปีข้างหน้าหมายแห่งนี้อาจเป้นแค่ตำนานเหมือนทะเลทางแถบตะวันออกก็เป้นไปได้...
เราตกลงย้ายหมายทันทีไม่มีค่าอะไรแล้วที่จะรอ เพราะว่าตอนนี้ทุกอย่างใต้ท้องน้ำถูกรบกวนอย่างหนัก พิกัดในGPS.ถูกตั่งให้วิ่งเฉียงไปทางด้านหนืออีก 3 ไมล์ ระยะแค่นี้บอกได้คำเดียวว่าไม่ไกล...
เพียงแค่ 10 กว่านาทีเราก็มาถึงที่หมาย วึ่งยังคงเป็นแนวร่องแบบเดิม จึงไม่ยากที่จะดูเรื่องทางเดินของน้ำกับลม ผม และพี่อิทเราปล่อยสาย 2 สายเช่นเดิมในตำแหน่งเดิม ต่างกันก็แค่เพียงหลังจากปล่อยสายพี่อิทรีบหย่อนสายจิ๊กแล้วเริ่มทันทีทางด้านท้ายเรือ ส่วนผมประจำที่ด้านหัวเรือแล้วเริ่มเหมือนกัน...
เพียงแค่ไม้ที่สามของการจิ๊กเท่านั้น คันในมือของผมก็โดนกระชากอย่างรุนแรงจนปลายคันจมน้ำ....
" เอาเข้าแล้วพี่อิท....โดนแล้ว...วิ่งกระจายเลย..." สิ้นเสียงผมพี่อิทร้องว่าเป็นไปได้งัย....555+++ จะอะไรเสียอีกก็พี่อิทลงเหยื่อก่อนผมตั่งนาน เพราะว่าผมมัวแต่ดูซาว์ดเดอร์ตั่งนาน แต่พอลงมาเท่านั้นเป็นเรื่อง..ผมคาดเดาว่าน่าจะเป้นอินทรีย์ เพราะว่ามันกินในจังหวะเหยื่อขึ้นกลางน้ำ มันทำให้ภาพของพี่เป้เมื่อทริปที่แล้วเข้ามาในสมองเรียกความทรงจำของผมออกมาทันที... เจ้าตัวใต้น้ำกดปลายคันอย่างหนักหน่วง เสียงของสายPE.บาดกับตัวเกลี่ยสายฟังดูแล้วเหมือนรอกจะพัง ด้วยความตื่นเต้นทั้งผมและพี่อิทเราไม่ได้บันทึกภาพใด้ทั้งสิน จนในที่สุดตะขอจำพลากคู่ใจก็ทำงาน....ฉับ...ผมส่งด้ามตะขอให้พี่อิทเพื่อยกขึ้น พี่อิทคว้าไว้แล้วทำท่ายกแต่กลับบอกว่า....
" น้าโดม...ผมเอาไม่ไหวจริงๆ...มันใหญ่เกิน..." ผมส่งคันเบ็ดให้พี่อิทแล้วคว้าตะขอยอกปลาขึ้นจากน้ำ พี่อิทรีบวิ่งไปเปิดกระติกเพื่อไม่ต้องการให้พรหมพื้นเรือเปื้อน ผมเอาปลาใส่ลงไป...โอ๊ววว...แม่เจ้ามันปิดไม่ได้หางมันยาวออกมากว่าคืบ น้ำหนักหลังชกของเจ้าตัวนี้อยู่ที่ 12.8 โลครับเพ่น้อง.....