นี่ครับน้ายอด นับถือน้ำใจแกจริงๆ อดทนมากๆ กำลังใจแกดีครับ 5 5 5 เช้าวันต่อมาก็ลุยกันต่อสบายเลยครับ
_______________________________________________________________________________________________________________________________
สวัดีครับน้าโอ ของผมโดนสดๆเลยครับเมื่อวานนี้ ที่ห้วยน้ำเอ่อครับ ตัวเบ็ต3ทางVMCคู่ตัวของเหยื่อริสโต้ เกี่ยวเต็มๆที่เบ้าตาขวา ลองนึกภาพตามนะครับ ตัวเบ็ตมิดเงี่ยงทั้ง2ตัว โดยอยุ่ที่กลางเปลือกตาและใต้หัวคิ้วขวา ซึ่งคมเบ็ตฝังในทั้งหมด 2 ตัว งานเข้าเลยครับ กำลังมืดและโพล้เพ้แล้วด้วย แถมกลางป่ากลางเขื่อนอีกต่างหากไม่มีคลื่นทอสับไม่ต้องพูดถึง สิ่งที่ทำได้ คือ
1. รีบถอดเหยื่อจากตัวเบ็ตที่เกี่ยวทันทีครับ
2. พยายามรักษาตำแหน่งตัวเบ็ตให้อยู่นิ่งๆในตำแหน่งเดิมให้มากที่สุด (สำหรับอวัยวะที่สำคัญต้องให้อยู่ให้นิ่งมากที่สุดเลย)
3. สำรวจว่าถูกอวัยวะที่สำคัญมั๊ย เช่น กรณีของผม มือนึงผมประคองตัวเบ็ตให้นิ่ง อีกมือนึงค่อยๆเปิดเปลือกตาดูโดยค่อยๆประคองให้ปลายคมเบ็ตอยุ่ในตำแหน่งที่ห่างลูกตา (ถ้าไม่มั่นใจให้ใช้ผ้าสะอาดพันกับอวัยวะนั้นไว้แล้วรีบไปหาหมอเลยครับ) ผลคือไม่ถูกลูกตาครับ โชคดีมากๆ คมเบ็ตเกี่ยวตรงขอบเปลือกตาตำแหน่งที่ขนคิ้วขึ้นแล้วเสยขึ้นไปด้านบน ซึ่งโอกาศอย่างนี้เป็น 1ใน100ล้านจริงๆครับ ผลจากแรงกระชากตอนตีเหยื่อ ทำให้ขอบเปลือกตาฉีกตามทางยาวของขอบตา แต่ไม่ขาดครับ ซึ่งถอดออกได้ไม่ยากเท่าไหร่ (แต่เป็นตำแหน่งเส้นประสาทที่ไวต่อความรู้สึก)
4. คมเบ็ตตำแหน่งที่ 2 ผมดึงตัวเบ็ตเบาๆ เน้นว่าเบาๆนะครับ โดยดึงรั้งตัวเบ็ตออกห่างจากตัวผู้ป่วย ตำแหน่งที่ว่านี้เป็นเนื้อเยื่อและไขมันบางๆ ซึ่งอยู่ห่างจากเส้นประสาทตา โชคดีอีกครั้งที่ตัวเบ็ตให้ตัวได้ ซึ่งถ้าขยับตำแหน่งปลายคมเบ็ตไม่ได้ก็แสดงว่าฝังกระดูกครับ (ซึ่งนั่นเรื่องใหญ่แน่) ผมจึงตัดสินใจค่อยๆงัดให้ทะลุออกตำแหน่งหว่างคิ้วเลยครับ (เนื้อมนุษย์นั้นเหนียวมากๆลองนึกดูแล้วกันครับกว่าจะทะลุได้) พอทะลุแล้วใช้คีมตัดเกษรแล้วถอดออกเลยครับ
5. พวกผมรีบกลับแพพักกันทันที เพื่อตรวจความเสียหายของอวัยะรอบๆดวงตาและทดสอบการมองเห็น ปรากฏว่าโชคดีมากๆที่ กล้ามเนื้อตาไม่ได้รับอันตรายแต่อย่างใดเลยครับ
6. "รีบทำความสะอาดบาดแผลให้สะอาดที่สุด" โดยการต้มน้ำร้อนแล้วลดอุณหภูมิด้วยการหล่อน้ำเย็น ใช้สำลีหรือผ้าก๊อตที่สะอาดแล้วชุบน้ำต้มสุกแล้วล้างหลายๆครั้งโดย " ไม่ให้มือของเราสัมผัสโดนสำลีส่วนที่จะล้างแผล " เพื่อป้องกันการติดเชื้อให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้
7. สังเกตบาดแผลว่าเลือดหยุดไหลเร็วมากแสดงว่าเกล็ดเลือดดี เมื่อล้างแผลสะอาดแล้ว เช็คบาดแผลอีกครั้ง ปรากฏว่าลูกตาไม่ได้รับความเสียหายจากคมเบ็ต มีเพียงตำแหน่งเปลือกตาที่ฉีกขาดยาว เป็นตำแหน่งเส้นประสาทรับรู็ความรู้สึก ซึ่งควรจะต้องไปรับการตรวจละเอีอดและเย็บปิดที่โรงพยาบาล แต่ผู้ป่วยไม่อยากไปครับ ผมจึงต้องทบทวนให้หนักเลยครับว่า ไหวมั๊ยถ้าไม่ไป ผลคือ พอได้ครับ ทดสอบแล้วทดสอบอีก แผลอาจจะหายช้าและเป็นแผลเป็นได้ง่ายถ้าไม่เย็บ ส่วนประวัติการฉีดวัคซีนบาดทะยักก็ได้รับครบชุดมา3ปีแล้ว ยังดีครับ (การตอบสนองของลูกตาจากการมองเห็นและการไวต่อความรุ้สึกยังดีอยุ่มากๆ) จึงให้ยาปฏิชีวนะ (Amoxycillin Cap 500mg 2x2pc) และแก้ปวดอักเสบกล้ามเนื้อ (Ibuprofen400mg 1x3pc) แล้วรีบนอนพักผ่อนเลยครับ
8. เมื่อไม่ออกไปโรงพยาบาล จึงใช้ผ้าก็อตสะอาดผิดแผลให้สนิท เพื่อลดการสัมผัสเชื้อโรคต่างๆ เช้ามาผมรีบเช็คทันทีเลยครับ กะว่าถ้ามีอาการไปในทางที่ไม่ดีขึ้น คงจะต้องรีบเดินทางออกไปโรงพยาบาลโดยด่วน ผลคือดีทุกอย่างครับ "มองเห็นได้ชัดเจน" ไม่ปวดลูกตา หรือเห็นภาพซ้อนใดๆ และสภาพลูกตาปกติดีทุกอย่างไม่บวมและไม่มีเลือดออกในตา โล่งอกเลยครับ สภาพภายนอกเปลือกตาและหัวคิ้วบวมแดงเล็กน้อย เนื่องจากระบมช้ำ
9. หลังจากนั้นก็ให้ล้างแผลเช้าเย็น ทุกวันตามวิธีข้อ 6 ซึ่งหายเร็วมากๆ พอตกเที่ยงวันของเช้าวันแรกก็หายบวมแล้วครับ เหลือแต่อาการแผลแดงเล็กน้อยและแผลเปลือกตาก็ปิดสนิทดีมากๆ (จากที่คาดว่าจะหายช้าและติดเชื้อและเกิดรอยแผลเป็น) แทบจะตกสะเก็ดแผลเลยทีเดียว
หลังจากนั้นก็ออกหวดปลากันต่อ โดยที่ผมคอยสอบถามอาการอยุ่เรื่อยๆ รวมๆแล้วแผลและการมองเห็นยังดีอยุ่ครับ โดยที่เวลานี้ก็ยังอยู่กันที่ห้วยน้ำเอ่อครับ กำหนดจะออกวันพรุ่งนี้กัน (ผมต้องเดินทางกลับมาก่อนเมื่อวานนี้ช่วงบ่าย)
สรุปคือต้องระมัดระวังกันให้มากๆที่สุดเลยครับ แล้วต้องมีสติเสมอหากเกิดเหตุการณ์ที่น่ากลัวแบบนี้ขึ้น ทีแรกหันมาตกใจกันแทบช็อกเลยเพราะทุกคนคิดว่าเข้าตาแน่ๆ แต่โชคดีมากๆครับ ถ้าไม่มั่นใจก็ทำตามข้อ 2 เลยครับ เป็นวิธีที่ปลอดภัยที่สุด