สยามฟิชชิ่ง
หน้าแรก|กระดาน|รีวิว|ประมูล|ตลาด|เปิดท้าย
login | สมัครสมาชิก | วิธีสมัครสมาชิก | ลืมชื่อ/รหัส | login ไม่ได้? | 22 พ.ย. 67
๘๔ พรรษา มหาราชา กับ เกร็ดความรู้ ร่วมกันภวายพระพร ครับ: SiamFishing : Thailand Fishing Community
หน้าที่:< 1 | 2
 กระดาน > อื่นๆ
ความเห็น: 48 - [5 ธ.ค. 54, 06:34] ดู: 18,936 - [22 พ.ย. 67, 15:10] โหวต: 15
๘๔ พรรษา มหาราชา กับ เกร็ดความรู้ ร่วมกันภวายพระพร ครับ
กระทู้: 0
ความเห็น: 32
ล่าสุด: 27-01-2566
ตั้งแต่: 16-03-2554
ความเห็นที่ 26: 1 ธ.ค. 54, 10:58
ดีใจที่เกิดเป็นคนไทย ขอพระองค์ทรงพระเจริญ
กระทู้: 59
ความเห็น: 24,712
ล่าสุด: 17-05-2567
ตั้งแต่: 07-07-2548
ความเห็นที่ 27: 1 ธ.ค. 54, 11:24

ทรงพระเจริญ ยิ่งยืนนาน มีพระพลานามัยที่แข็งแรงสมบูรณ์ อยู่เป็นมิ่งขวัญของปวงชนชาวไทย ตลอดไปตราบนานเท่านานด้วยเทอญ
กระทู้: 0
ความเห็น: 257
ล่าสุด: 27-01-2566
ตั้งแต่: 27-05-2553
ความเห็นที่ 28: 1 ธ.ค. 54, 11:45
ขอให้พระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
กระทู้: 0
ความเห็น: 172
ล่าสุด: 27-01-2566
ตั้งแต่: 02-12-2552
ความเห็นที่ 29: 1 ธ.ค. 54, 12:03
ขอพระองค์ทรงพระเจริญ ยิ่งยืนนาน
กระทู้: 12
ความเห็น: 1,123
ล่าสุด: 27-01-2566
ตั้งแต่: 06-05-2552
ความเห็นที่ 30: 1 ธ.ค. 54, 12:11
ทรงพระเจริญ ยิ่งยืนนาน มีพระพลานามัยที่แข็งแรงสมบูรณ์ อยู่เป็นมิ่งขวัญของปวงชนชาวไทย ตลอดไปตราบนานเท่านานด้วยเทอญ
กระทู้: 15
ความเห็น: 3,034
ล่าสุด: 23-06-2567
ตั้งแต่: 02-05-2554
ความเห็นที่ 31: 1 ธ.ค. 54, 12:37
ขอให้พระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
กระทู้: 9
ความเห็น: 647
ล่าสุด: 27-01-2566
ตั้งแต่: 26-07-2552
ความเห็นที่ 32: 1 ธ.ค. 54, 12:51
ขอพระองค์ทรงพระเจริญ มีพระเกษมสำราญ มีพระพลานมัยแข็งแรงสมบูรณ์ มีพระชนม์ยิ่งยืนนาน เป็นมิ่งขวัญของปวงชนชาวไทย ตลอดกาลนานเทอญ.




กระทู้: 0
ความเห็น: 147
ล่าสุด: 22-09-2567
ตั้งแต่: 02-08-2552
ความเห็นที่ 33: 1 ธ.ค. 54, 19:07
ขอพระองค์ทรงพระเจริญ มีพระเกษมสำราญ มีพระพลานมัยแข็งแรงสมบูรณ์ มีพระชนม์ยิ่งยืนนาน เป็นมิ่งขวัญของปวงชนชาวไทย ตลอดกาลนานเทอญ.

ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ
ข้าพระพุทธเจ้า นายมนัส สุขเจริญ และครอบครัว
กระทู้: 43
ความเห็น: 3,534
ล่าสุด: 22-11-2567
ตั้งแต่: 17-11-2552
safetytum(994 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
ความเห็นที่ 34: 2 ธ.ค. 54, 09:27
พระอารมณ์ขันของในหลวง มีเรื่องน่ารัก ๆ ของในหลวงมาเล่าให้ฟัง ให้พวกเราได้รับทราบ ในพระจริวัตรของท่าน
พระอารมณ์ขันของในหลวง มีเรื่องน่ารัก ๆ ของในหลวงมาเล่าให้ฟัง ให้พวกเราได้รับทราบ ในพระจริวัตรของท่าน เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า พระองค์ท่าน จะเสด็จเยี่ยมเยียนพสกนิกรของพระองค์ท่านอยู่เป็นประจำ โดยเฉพาะชาวบ้านต่างจังหวัดจะโชคดีกว่าเรานักที่ได้มีโอกาส ชื่นชม พระบารมีของในหลวงได้ใกล้ชิดและบ่อยครั้งกว่าคนในกรุงเทพมากนัก จึงมีเรื่องของในหลวงมาเล่าให้ฟัง ฟังแล้วเชื่อว่าทุกคน จะต้องอมยิ้ม กันทุกคนแน่ ๆ


เสียงปริศนา
.... .ในวันเสด็จพระราชดำเนิน กลับประเทศสวิต ฯ ขณะที่ประทับรถพระที่นั่ง ไปสู่สนามบินดอนเมือง ทรงได้ยินเสียงตะโกนดัง ๆ ว่า .."ในหลวง อย่าทิ้งประชาชนนะ" ทำให้ทรงนึกตอบบุคคลผู้นั้น ในพระราชหฤทัยว่า "ถ้าประชาชน ไม่ทิ้งข้าพเจ้าแล้ว ข้าพเจ้าจะทิ้งประชาชนอย่างไรได้ " เป็นที่น่าประหลาดว่า ต่อมาอีกประมาณ 20 ปี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพบชายที่ร้องตะโกนทูลพระองค์ ไม่ให้ทิ้งประชาชนนั้น เป็นพลทหาร และในปัจจุบันเขาออกไปทำนาอยู่ในต่างจังหวัด เขากราบบังคมทูลสำนึกใน พระมหากรุณาธิคุณที่ไม่ทรงทิ้งราษฎร เขาทูลว่า ตอนที่เขาร้องไปนั้น เขารู้สึกว้าเหว่ และใจหาย ที่เห็นพระเจ้าแผ่นดิน จะเสด็จไปจากเมืองไทย กลัวจะไม่เสด็จกลับมาอีก เพราะคงจะทรงเข็ดเมืองไทย เห็นเป็นเมืองที่น่ากลัวน่าสยดสยอง เขาดีใจมากที่ได้เฝ้าฯ อีก กราบบังคมทูลถามว่า ..
" ท่านคงจำผมไม่ได้ ผมเป็นคนร้องไม่ให้ท่านทิ้งประชาชน"
พระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัวรับสั่งถามว่า .."เรานะรึที่ร้อง ?"
"ใช่ครับ ตอนนั้นเห็นหน้าท่านเศร้ามาก กลัวจะไม่กลับมา จึงร้องไปเหมือนคนบ้า"
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยุ่หัวทรงตอบ .."นั่นแหละ ทำให้เรานึกถึงหน้าที่ จึงต้องกลับมา"


กระทู้: 43
ความเห็น: 3,534
ล่าสุด: 22-11-2567
ตั้งแต่: 17-11-2552
safetytum(994 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
ความเห็นที่ 35: 2 ธ.ค. 54, 09:35
ราชาศัพท์กับหมอ
ครั้งหนึ่งหลายๆ ปีมาแล้ว พระเจ้าอยู่หัวทรงประชวรนิดหน่อยเกี่ยวกับพระฉวี มีพระอาการค
ราชาศัพท์กับหมอ
ครั้งหนึ่งหลายๆ ปีมาแล้ว พระเจ้าอยู่หัวทรงประชวรนิดหน่อยเกี่ยวกับพระฉวี มีพระอาการคัน มีหมอโรคผิวหนังคณะหนึ่งไปเข้าเฝ้าฯ เพื่อถวายการรักษา คุณหมอเป็นผู้เชี่ยวชาญทางโรคผิวหนัง แต่ไม่ได้เชี่ยวชาญทางราชาศัพท์ ก็กราบบังคมทูลว่า "เอ้อ - ทรง... อ้า- ทรงพระคันมานานแล้วหรือยังพะยะค่ะ" พระเจ้าอยู่หัวก็ทรงพระสรวล ตรัสว่า "ฉันไม่ใช่ผู้หญิงนี่ จะท้องได้ยังไง" แล้วคงจะทรงพระกรุณาว่าหมอคงจะไม่รู้ราชาศัพท์ทางด้านอวัยวะร่างกายจริงๆ ก็พระราชทานพระบรมราชานุญาตว่า - เอ้า พูดภาษาอังกฤษกันเถอะ-เป็นอันว่าก็กราบบังคมทูลซักพระอาการกันเป็นภาษาอังกฤษไป อีกครั้งหนึ่ง
จากหนังสือในหลวงที่สุดของหัวใจ


ถวายพระเพลิง
หลายปีมากๆ แล้วเหมือนกัน ตั้งแต่พระเจ้าอยู่หัวยังทรงพระโอสถมวน (สูบบุหรี่) อยู่ คราวหนึ่งพระเจ้าอยู่หัวกำลังจะทรงพระโอสถมวน ยังไม่ได้ทรงจุด ท่านผู้หนึ่งที่เผอิญได้เข้าเฝ้าอยู่ในขณะนั้น จะเป็นใครผมก็ไม่ทราบลืมไปแล้ว ก็ปราดเข้าไปคุกเข่า จุดไฟแช็คถวาย แถมกราบบังคมทูลเสียด้วยว่า "ถวายพระเพลิง พะยะค่ะ" พระเจ้าอยู่หัวทรงพระสรวลเสียงดัง ตรัสด้วยพระอารมณ์สนุกว่า "ยัง ฉันยังไม่ตาย...." ผู้ใหญ่ที่มาเล่าเรื่องนี้ต่อให้ผมฟังไม่ได้เล่าว่าตอนนี้สีหน้าผู้ที่จะ "ถวายพระเพลิง" เป็นอย่างไร
จากหนังสือในหลวงที่สุดของหัวใจ


เรียกน้าสิถึงจะถูก
วันหนึ่งพระองค์ท่านเสด็จเยี่ยมเยียนพสกนิกรของ ท่านตามปกติที่ต่างจังหวัด ก็มีชาวบ้านมาต้อนรับในหลวง มากมายพระองค์ท่านเสด็จพระราชดำเนินมาตามลาดพระบาท ที่แถวหน้าก็มีหญิงชราแก่คนหนึ่งได้ก้มลงกราบแทบพระบาทแล้วก็เอามือของแก่มาจับพระหัตถ์ของในหลวง แล้วก็พูดว่ายายดีใจเหลือเกินที่ได้เจอในหลวง แล้วก็พูดว่ายายอย่างโน้น ยายอย่างนี้ อีกตั้งมากมายแต่ในหลวงก็ทรง เฉย ๆ มิได้ตรัสรับสั่งตอบว่ากระไร แต่พวกข้าราชบริภารก็ มองหน้ากันใหญ่ กลัวว่าพระองค์จะทรงพอพระราชหฤหัย หรือไม่ แต่พอพวกเราได้ยินพระองค์รับสั่งตอบว่ากับหญิง ชราคนนั้น ก็ทำให้เราถึงกับกลั้นหัวเราะไว้ไม่ไหวเพราะ พระองค์ทรงตรัสว่า "เรียกว่ายายได้อย่างไร อายุอ่อนกว่าแม่ฉันตั้งเยอะ ต้องเรียกน้าซิ ถึงจะถูก"
จากหนังสือในหลวงที่สุดของหัวใจ
กระทู้: 148
ความเห็น: 30,353
ล่าสุด: 27-01-2566
ตั้งแต่: 05-05-2553
yaijeans(9669 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
ความเห็นที่ 36: 2 ธ.ค. 54, 09:58
++++++++++++++= 9 +++++++++++++ขอพระองค์ทรงเจริญ
กระทู้: 2
ความเห็น: 197
ล่าสุด: 22-02-2567
ตั้งแต่: 24-06-2552
tinsana(39 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
ความเห็นที่ 37: 2 ธ.ค. 54, 10:29
                                      เวลาฟังเรื่องของท่านทีไรน้ำตาคลอทุกทีไปความรู้สึกมันจะดันขึ้นมาจาก อก มาหาทางออกที่หน้า  ทั้งๆที่จิตใจของผมก็ออกจะกระด้างๆ  แต่ก็เป็นแบบนั้นทุกที 
                                  .........  รักนายหลวงครับ  ........ 
กระทู้: 2
ความเห็น: 497
ล่าสุด: 11-05-2567
ตั้งแต่: 26-01-2554
atomka(7 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
ความเห็นที่ 38: 2 ธ.ค. 54, 10:41
ทรงพระเจริญยิ่งยืนนานครับ 
กระทู้: 17
ความเห็น: 3,163
ล่าสุด: 20-11-2567
ตั้งแต่: 02-11-2551
parasaild44(271 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
ความเห็นที่ 39: 2 ธ.ค. 54, 11:32
ทรงพระเจริญครับ
กระทู้: 43
ความเห็น: 3,534
ล่าสุด: 22-11-2567
ตั้งแต่: 17-11-2552
safetytum(994 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
ความเห็นที่ 40: 2 ธ.ค. 54, 11:43
 [b]“ พระสหายแห่งสายบุรี ”[/b]

                  ย้อนเวลากลับไป “วาเด็ง ปูเต๊ะ”
ผู้เฒ่าแห่งบ้านบ
“ พระสหายแห่งสายบุรี ”

                  ย้อนเวลากลับไป “วาเด็ง ปูเต๊ะ”
ผู้เฒ่าแห่งบ้านบาเลาะ ต. ปะเสยะวอ อ.สายบุรี จ.ปัตานี
กำลังขะมักเขม้นอยู่กับการดูแลต้นทุเรียนและลองกองในสวน
ช่วงเวลาใกล้ค่ำได้เห็นคนกลุ่มหนึ่งเดินเข้ามา หนึ่งในจำนวนนั้น
ได้กวักมือเรียกให้เข้าไปหา แต่ตัวผู้เฒ่าเองกลับรู้สึกกล้าๆ กลัวๆ ไม่กล้าเข้าใกล้

ผู้เฒ่าเห็นทหารกลุ่มหนึ่งเดินเข้ามา และบอกกล่าวว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
เสด็จพระราชดำเนินมาทอดพระเนตรความเป็นไปได้
ในการสร้างอาคารกั้นน้ำที่คลองน้ำจืดบ้านทุ่งเค็จ ต.แป้น อ.สายบุรี

“ ตอนนั้นเป๊าะทราบแล้วว่าเป็นในหลวง แต่จะเข้าไปใกล้ ๆ ก็ไม่กล้า
เพราะว่านุ่งโสร่งตัวเดียว ไม่ได้สวมเสื้อ พอเข้าไปใกล้ ๆ
ในหลวงก็บอกว่า จะมาขุดคลองชลประทานให้ พอได้ยินอย่างนั้น
เป๊าะก็ดีใจมาก คุยกันเยอะ ท่านถามว่าถ้าขุดคลองสายทุ่งเค็จนี้จะไปสิ้นสุดลงที่ตรงไหน
เป๊าะบอกท่านว่าคลองเส้นนี้ มีที่ดินติดเขต ต.แป้น ทางเหนือขึ้นไปสุดที่ อ.ศรีสาคร
ในหลวงถามต่อว่า ถ้าไปออกทะเลจะมีกี่เกาะ เป๊าะก็ตอบท่านไปว่ามี 4 เกาะ
ท่านก็ชมว่า เก่ง สามารถจำทุกที่ที่ผ่านไปได้ แล้วท่านก็เปิดดูแผนที่ที่นำมาด้วย
แล้วบอกว่า เป๊าะรู้จริง ไม่โกหก ทุกสิ่งที่เป๊าะบอกมีอยู่ในแผนที่ของพระองค์แล้ว ”
เป๊าะเด็งในวัย 90 ปีทบทวนความทรงจำด้วยแววตาสดชื่น

“ ในหลวงคุยกับเป๊าะเป็นภาษามลายู ท่านพูดมลายูสำเนียงไทรบุรี
คุยกันก็เข้าใจเลยพอเจอกันบ่อย ๆ คุยกัน มีความเห็นตรงกัน ท่านก็เลยรับเป๊าะเป็นพระสหาย
เป๊าะบอกว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่บอกท่านไป ทั้งหมดเป็นความจริง พูดโกหกไม่ได้จะเป็นบาป ” เป๊าะเด็๋ง กล่าว

หลังจากได้กราบบังคมทูลเส้นทางขุดคลองในโครงการพระราชดำริแล้ว
ในครั้งนั้นผู้เฒ่าแห่งบ้านเบาะเลาะ ยังได้ถวายที่ดินเพื่อดำเนินโครงการพระราชดำริอีกด้วย
และหลังขุดคลองชลประทานดังกล่าวเสร็จแล้ว ทุกครั้งที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
เสด็จฯ มาทรงงานและประทับแปรพระราชฐานที่พระตำหนักทักษิณราชนิเวศน์ จังหวัดนราธิวาส
เป๊าะเด็งก็จะไปเข้าเฝ้าฯ แทบทุกครั้ง หรือบางครั้งถ้าหากคิดถึงพระองค์มาก ๆ
เป๊าะเด็งก็จะไปขอเข้าเฝ้าถึงพระราชวังสวนจิตรลดา
“ เวลาถึงหน้าทุเรียน ลองกอง จำปาดะ ก็จะนึกถึงในหลวงตลอด
ถ้าท่านมาที่นี่ ก็เอาไปถวายที่นี่ บางปีท่านไม่ได้มา เป็าะก็ส่งผลไม้ไปถวายท่าน
ทางไปรษณีย์ ส่งอีเอ็มเอสไปเลย เวลาไปส่ง เป๊าะเขียนหนังสือไม่เป็น
ก็บอกเจ้าหน้าที่ไปรษณีย์ว่า จะส่งของไปให้ในหลวงที่สวนจิตร เขาก็จัดการให้ ” เป๊าะเด็ง เล่าด้วยภาษามลายูผ่านล่าม

เป๊าะเด็ง บอกว่า ผลไม้ที่ส่งไปถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถนั้นถึงพระหัตถ์เสมอ
เพราะทุกครั้งที่มีโอกาสได้เข้าเฝ้า ทั้งสองพระองค์มักจะมีรับสั่งว่า

“ ขอบใจ ผลไม้ที่ส่งไปให้ ได้รับแล้ว ”

เมื่อเร็ว ๆ นี้ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถได้เสด็จโดยรถยนต์พระที่นั่ง
มาเยี่ยมเยียนราษฎรที่บ้านละเวง เป๊าะเด็งก็ได้ไปเข้าเฝ้า

“ บอกท่านว่า จะเอาเงาะ ลองกองมาให้ ท่านก็บอกว่า ไม่เอา ปีนี้ผลไม้ราคาไม่ดี
ไม่มีคนเข้ามาซื้อ ลำบาก ให้เป๊าะเก็บไว้ให้ลูกหลานกินเถอะ
เมื่อวันก่อนในหลวงก็ฝากอินทผลัมมาให้ เป๊าะเองเวลามีผลไม้ดี ๆ
จะคิดถึงท่านมาก ๆ ลูก ๆ ของท่านทุกคนเวลามา เป๊าะก็ได้ไปหา ทุกคนพูดภาษามลายูได้ ”

เป็าะเด็ง เล่าว่า เสียค่าส่งผลไม้ไปถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ครั้งละ 1,000 กว่าบาท
เป๊าะเด็งอยากให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ
ได้เสวยผลไม้ที่ส่งไปถวาย เช่นเดียวกับที่ดินที่ถวายไป เป็าะเด็งก็ไม่เคยคิดเสียดายแม้แต่น้อย
และหากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระประสงค์จะใช้ประโยชน์ที่บริเวณไหน
ที่เป็นของเป๊าะเด็งแล้ว เป๊าะเด็งพร้อมที่จะทูลเกล้าฯถวายให้ทั้งหมด
“ เมื่อในหลวงมาที่ อ.แม่ลานครั้งล่าสุด พอเจอเป๊าะก็เข้าไปกอดเลย
ไม่ได้พูดอะไรกับท่าน ท่านรู้นิสัยเป๊าะดีว่าไม่ค่อยพูดอะไร ท่านก็เรียกเป๊าะ ”

“ คิดถึงท่านที่สุดเลย ” เป๊าะเด็ง บอกผ่านล่ามเมื่อถูกถามว่า
รู้สึกอย่างไรหากไม่ได้เจอพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวนาน ๆ

เป๊าะเด็ง ยังกล่าวถึงปัญหาความไม่สงบที่เกิดขึ้นในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า

“ ไม่รู้ว่าโคลนมาจากไหน ” เพราะที่ผ่านมาไทยพุทธและมุสลิมอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข
ชาวบ้านด้วยกันเองไม่เคยมีความขัดแย้งแบ่งแยก แต่ปัญหานี้ทำให้ชาวบ้านเดือดร้อน
ออกไปทำมาหากินไม่ได้ ไม่กล้าออกไปทำงาน ทุกครั้งที่มีเหตุการณ์รู้สึกไม่สบายใจเลย
เพราะศาสนาไม่เคยทำให้เกิดความแตกต่างหรือทำให้เกิดการแตกแยกกัน

แม้จะมีปัญหาความไม่สงบเกิดขึ้นอยู่ทั่วไปพื้นที่ต่าง ๆ
แต่สำหรับความรู้สึกของชาวไทยมุสลิมอย่างเป๊าะเด็ง ยังเหมือนเดิมทุกอย่าง
ไม่เคยมีความรู้สึกแบ่งฝักฝ่ายและความสัมพันธ์ระหว่างชาวบ้านทั้งไทยพุทธและมุสลิม
ในหมู่บ้านโดยเฉพาะกับคนรุ่นเก่า ๆ ยังเหมือนเดิม

“ คนที่ไม่หวังดี มีน้อย ถ้าเป็นผู้ไม่หวังดีจริง ๆ เขาจะเข้าไปอยู่ในป่า
แต่อยู่หลาย ๆ วันจะอยู่ได้ยังไง เป๊าะสงสัยจะเป็นคนอื่น คนก่อการร้ายเดี๋ยวนี้
ไม่ได้อยู่ในป่าเหมือนก่อน แต่มักจะอยู่ในตลาดไม่รู้ว่าเป็นแผนการของใคร
ปัญหานี้ชาวบ้านหนักใจ แต่ในหลวงคงหนักใจยิ่งกว่าพวกเราอีก เพราะประชาชนของพระองค์เดือดร้อน ”

เมื่อถามว่าคิดอย่างไร กับปัญหาที่รัฐอ้างว่า ความไม่สงบที่เกิดขึ้น
เพราะมีกลุ่มคนที่ต้องการแบ่งแยกดินแดน และมีการเรียกร้องเอารัฐปัตตานีกลับคืน
เป๊าะเด็ง กล่าวว่าการนำรัฐปัตตานีคืนจะเป็นไปได้อย่างไร ที่คนสามจังหวัด
จะอยู่กันอย่างแคบ ๆ ประเทศเปรียบเหมือนรั้วบ้าน อยู่ที่กว้าง ๆ กับอยู่ที่แคบ ๆ
อย่างไหนดีกว่ากัน ต้องถามชาวบ้านว่าต้องการแบบไหนดี

“ สิ่งพูดออกมาเป็นความจริงทั้งนั้น เมื่อก่อนเราจะไปไหนมาไหน
ไม่ต้องเป็นห่วง แต่ทุกวันนี้จะออกไปไหนก็ไม่สบายใจ เป๊าะก็กลัว
ชาวบ้านแถวนี้ก็กลัวไม่กล้าออกไปไหน กลัวเขาซุ่มอยู่ในป่า ” เป๊าะเด็ง กล่าว

เมื่อถามว่าเขาที่ว่านี้เป็นใคร ? คำตอบสั้น ๆ ที่ได้รับจากผู้เฒ่าใจดีคนนี้คือ

“ ไม่รู้เหมือนกัน ถ้ารู้ก็จะไปบอกในหลวง ”



ขอพระองค์ ทรงพระเจริญ



“ ทุกคนรู้จักลุงวาเด็ง ”

โดย อภิรักษ์ สะมะแอ นายอำเภอสายบุรี
ลุงวาเด็งเป็นที่รู้จัก ของชาวบ้านและข้าราชการใน ต.ปะเสยะวอดี
เพราะเป็นผู้ถวายที่ดินตามโครงการพัฒนาพรุแฆแฆ เพื่อขุดคลองชลประทาน
เมื่อครั้งที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินในปี 2535

ลุงเป็นพระสหายของในหลวงจริง ๆ ทุกพระองค์ที่เสด็จฯ แปรพระราชฐานมาที่นราธิวาส
จะเชิญลุงวาเด็งเข้าเฝ้าทุกครั้ง เมื่อวันที่ 30 ตุลาคมที่ผ่านมา
ท่านองคมนตรีพลากร สุวรรณรัตน์ได้นำอินทผลัมพระราชทานจากในหลวง
ไปมอบให้ลุงวาเด็งที่บ้าน แกจะเป็นห่วงในหลวงมาก ๆ เวลาหน้าผลไม้
ก็จะส่งผลไม้อีเอ็มเอสทางไปรษณีย์ไปถวายในหลวงทุกปี ลุงผูกพันกับในหลวงมาก ๆ
ตอนที่ทราบข่าวว่าคุณพุ่มถึงแก่อสัญกรรม ก็อยากจะไปเฝ้าในหลวง แต่ก็ไม่ได้ไป

ลุงวาเด็งเป็นคนแก่ที่มีอัธยาศรัยไมตรีดี เป็นคนน่ารักไม่เป็นพิษเป็นภัยกับใคร
เมื่อตอนที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ เสด็จฯ มาประทับที่พระตำหนักทักษิณราชนิเวศน์ ลุงก็ได้มีโอกาสไปเข้าเฝ้า

ขอพระองค์ ทรงพระเจริญ



“ พระสหาย ”

เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2535 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ได้เสด็จพระราชดำเนินไปโครงการพัฒนาพรุแฆแฆ อ.สายบุรี จ.นราธิวาส
ซึ่งพื้นที่แห่งนี้เป็นพื้นที่ป่าเสื่อมโทรมขนาดใหญ่ใช้ประโยชน์ไม่ได้
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจึงมีพระราชดำรัสให้ศึกษาหาวิธีระบายน้ำ
ในที่ลุ่มยามน้ำหลาก และเก็บกักไว้ใช้ยามหน้าแล้ง ชาวบ้านจะได้มีน้ำใช้เพื่อการเพาะปลูก
และเพื่อให้ได้ข้อมูลชัดเจนจึงเสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตรด้วยพระองค์เอง
ณ บ้านเจาะใบ ต.แป้น อ.สายบุรี และได้ประทับทอดพระเนตรพรุแฆแฆด้านตะวันตก
และทรงมีพระราชดำริกับชาวบ้านเป็นเวลานาน

จนกระทั่งได้ข้อมูลใหม่จากชาวบ้านจึงสนพระทัยที่จะเสด็จฯไปทอดพระเนตร
ความเป็นไปได้ในการสร้างอาคารกั้นน้ำที่คลองน้ำจืด บ้านทุ่งเค็จ
แต่ติดด้วยเวลาเย็นแล้ว ในขณะที่ไม่ได้เตรียมเส้นทางไว้รอรับเสด็จล่วงหน้า

ที่สำคัญเป็นเส้นทางทุรกันดาร และรถยนต์ยังเข้าไปไม่ถึงจุดหมาย เจ้าหน้าที่จึงกราบบังคมทูลว่าเสด็จฯ ไปไม่ได้

“ ไปได้ ” พระราชดำรัสเพียงสั้น ๆ รถยนต์พระที่นั่งเคลื่อนตัวลึกเข้าไปในหมู่บ้าน
ท่ามกลางฝุ่นฟุ้งกระจาย จนรถคันหลังเกือบจะไม่เห็นรถคันหน้า
เมื่อสิ้นสุดเส้นทางรถยนต์จึงเสด็จฯ ตามทางเท้าเล็ก ๆ สองข้างรกชัฎต่อไปอีกไกลด้วยพระบาท
เมื่อถึงชายคลองน้ำจืดบ้านทุ่งเค็จนั้นตะวันลับขอบฟ้าพอดี
ทรงพิจารณาแผนที่ด้วยแสงจากไฟฉายเป็นเวลานาน
ท่ามกลางความมืดมิดและความตึงเครียดของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย แต่มิได้ทรงปริวิตกแต่อย่างใด

ไม่นานนักก็มีเงาตะคุ่มของผู้คนเป็นวงรอบเมื่อที่เดินทางมา
เมื่อรู้ว่าผู้ยืนเด่นกลางดงไม้ในสวนลึก คือ พระเจ้าแผ่นดิน
นายวาเด็ง หนึ่งในบรรดาชาวไทยมุสลิมวัยกว่า 70 ปี ได้เดินทางมาเข้าเฝ้าฯ
พร้อมกับชาวบ้านคนอื่น ๆ ด้วยโสร่งตัวเดียวไม่สวมเสื้อ

นายมนูญ มุกข์ประดิษฐ์ ปัจจุบันคือ เลขาธิการคณะกรรมการพิเศษ
เพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (กปร.
ซึ่งตามเสด็จเพื่อถวายงาน ได้บันทึกเหตุการณ์นี้เมื่อ 30 กันยายน 2535 ไว้ว่า
ลุงวาเด็งมีโอกาสได้เข้าเฝ้าทั้งชุดนั้นอย่างใกล้ชิด แล้วยังได้ถวายคำตอบ
เพื่อทรงถามข้อมูลได้อย่างคล่องแคล่ว เมื่อรู้ว่าเสด็จพระราชดำเนินมา
เพื่อพระราชทานความช่วยเหลือ ลุงวาเด็งจึงกราบบังคมทูลเป็นภาษาพื้นบ้านว่า
ดีใจมาก แต่ก็เหลียวซ้ายแลขวาผิดปกติ แล้วก็ตัดสินใจกราบบังคมทูลอย่างฉะฉานว่า
พระเจ้าอยู่หัวเสด็จฯ มาเยี่ยมทั้งที ไม่มีอะไรจะถวายเลย
ผลไม้ในสวนเพิ่งเก็บขายได้เงินมา 20,000 บาทก็นำไปซื้อเครื่องสูบน้ำ
ทั้งสวนเหลือทุเรียนผลเดียว หนำซ้ำยังดิบ

มีเสียงเย้าว่า เครื่องสูบน้ำนั่นไง ยังใหม่อยู่ด้วย
“ ถอดเอาขึ้นรถขนไปเลย ขอถวายพระเจ้าอยู่หัว ” ลุงวาเด็งกล่าวเด็ดเดี่ยว
โดยไม่เสียเวลาคิด แล้วยิ้มซื่อโดยไม่คิดว่าเป็นการพูดเล่น และด้วยท่าทียินดี
ที่จะสละสมบัติมีค่าชิ้นเดียวซึ่งได้มาด้วยหยาดเหงื่อ และแรงกายจากการทำงานมาทั้งปี
ถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ผู้ที่ตามเสด็จฯ เกิดความรู้สึกตื้นตันใจ
เมื่อเห็นอากัปกิริยาอันเป็นธรรมชาติที่ไม่ได้เสแสร้งของลุงวาเด็ง

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระสรวลอย่างมีความสุขไม่ต่างไปจากลุงวาเด็ง

(ข้อมูลจากนิตยสารอีคอนนิวส์ ฉบับที่ 335 วันที่ 2 สิงหาคม 2542)

ขอพระองค์ ทรงพระเจริญ
กระทู้: 43
ความเห็น: 3,534
ล่าสุด: 22-11-2567
ตั้งแต่: 17-11-2552
safetytum(994 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
ความเห็นที่ 41: 2 ธ.ค. 54, 11:54
" รักถึงเพียงนี้ " และ " จุดเทียนส่งเสด็จ "

บทความชื่อ " แผ่นดินร่มเย็นที่นราธิวาส " ตีพิมพ
" รักถึงเพียงนี้ " และ " จุดเทียนส่งเสด็จ "

บทความชื่อ " แผ่นดินร่มเย็นที่นราธิวาส " ตีพิมพ์ในนิตยสาร " สู่อนาคต " ฉบับพิเศษ
เนื่องในวันเฉลิมฯ ได้เล่าย้อนให้เราได้เห็นภาพความยากลำบากในการเสด็จฯ เยี่ยมราษฎรทางภาคใต้เมื่อหลายปีก่อน

โดยเฉพาะช่วงก่อนสร้างพระราชตำหนักทักษิณราชนิเวศน์นั้น
เป็นที่รู้กันว่าจังหวัดนราธิวาสชุกชุมไปด้วยโจรร้าย โจรปล้นสะดม
และพวกโจรเรียกค่าไถ่ ถึงขนาดที่ในหลาย ๆ หมู่บ้านนั้น
แม้แต่เจ้าหน้าที่ของรัฐก็ไม่กล้าย่างกรายเข้าไป

ทว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงตระหนักในทุกข์อันลึกล้ำของชาวบ้าน
ที่ทั้งทุกข์เพราะยากจน และทุกข์เพราะภัยคุกคาม จึงได้เสด็จฯ ลงไปเยี่ยมเยียน
เป็นขวัญกำลังใจให้ราษฎรของพระองค์ โดยไม่ทรงหวาดหวั่น
บางวันถึงกับเสด็จฯ เป็นการส่วนพระองค์โดยปราศจากกำลังอารักขา
และบางหมู่บ้านตำรวจเพิ่งถูกคนร้ายแย่งปืนแล้วยิงตายก่อนเสด็จไปถึงเพียงไม่กี่ชั่วโมง

ทรงรักราษฎรถึงเพียงนี้ จึงไม่แปลกที่หญิงชราคนหนึ่งในหมู่บ้านหนึ่งของอำเภอรือเสาะจะ ..

" เข้ามาเกาะพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวร้องไห้แล้วบอกว่า
ไม่นึกเลยว่าพระเจ้าอยู่หัวเป็นคนไทยชาวพุทธ จะมารักมุสลิมได้ถึงขนาดนี้ "..

บทความเดียวกันได้เปิดเผยต่อไปอีกว่า ที่อีกหมู่บ้านหนึ่งในอำเภอเดียวกันนั้น

" โต๊ะครูได้พาพรรคพวกมายืนรอรับเสด็จแล้วพูดขึ้นว่า ..
รายอกลับไปเถอะ ประไหมสุหรีกลับไปเถิด ประเดี๋ยวพวกโจรจะลงจากเขา... "

และเมื่อถึงเวลาเสด็จฯ กลับที่มืดสนิทอย่างน่ากลัว โต๊ะครูกับชาวบ้าน
ก็พากันมาจุดเทียนส่งเสด็จตลอดเส้นทางอันตราย
ด้วยความห่วงใยใน " รายอ " และ " ประไหมสุหรี " หรือ พระราชาพระราชินีของพวกเขาอย่างสุดซึ้ง

ขอพระองค์ ทรงพระเจริญ
กระทู้: 43
ความเห็น: 3,534
ล่าสุด: 22-11-2567
ตั้งแต่: 17-11-2552
safetytum(994 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
ความเห็นที่ 42: 2 ธ.ค. 54, 12:05
" เก็บร่ม "

การเสด็จพระราชดำเนินทุกครั้ง แม้จะต้องเผชิญกับแดดร้อนหรือลมแรง 
ราษฎรก็ไม่เคยย้อท้
" เก็บร่ม "

การเสด็จพระราชดำเนินทุกครั้ง แม้จะต้องเผชิญกับแดดร้อนหรือลมแรง
ราษฎรก็ไม่เคยย้อท้อที่จะอดทนรอรับเสด็จให้ถึงที่สุด แม้ฝนจะตกหนักแค่ไหน ก็ไม่มีใครยอมกลับบ้าน

ร้อยเอกศรีรัตน์ หริรักษ์ เล่าไว้ในบทความ " พระบารมีปกเกล้าฯ ที่อำเภอท่ายาง "
ตีพิมพ์ในหนังสือ " 72 พรรษาราชาธิราชเจ้านักรัฐศาสตร์ " ว่า

ครั้งหนึ่งที่โครงการห้วยสัตว์ใหญ่ เมื่อเฮลิคอปเตอร์พระที่นั่งมาถึง
ปรากฎว่าฝนตกลงมาอย่างหนัก ราษฎรและข้าราชการที่มาเข้าแถวรอรับเสด็จ
ต่างเปียกปอนกันหมด แต่ก็ยังตั้งแถวเป็นระเบียบเรียบร้อยอยู่อย่างนั้น

เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จลงมาจากเฮลิคอปเตอร์
นายตำรวจราชองค์รักษ์ที่ตามเสด็จ ได้เข้าไปกางร่มถวาย
ทรงทอดพระเนตรเห็นบรรดาข้าราชการและราษฎร
ที่มายืนตั้งแถวรอรับเสด็จอยู่ต่างก็เปียกฝนโดยทั่วกัน

" จึงมีรับสั่งให้นายตำรวจราชองครักษ์เก็บร่ม แล้วทรงพระดำเนินเยี่ยม
ข้าราชการและราษฎรที่เข้าแถวรอรับเสด็จ โดยทรงเปียกฝน
เช่นเดียวกับข้าราชการ และราษฎรทั้งหลายที่ยืนรอรับเสด็จในขณะนั้น "

ขอพระองค์ ทรงพระเจริญ
กระทู้: 23
ความเห็น: 864
ล่าสุด: 22-11-2567
ตั้งแต่: 09-10-2549
B_Boy(547 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
ความเห็นที่ 43: 2 ธ.ค. 54, 13:23
ขอพระองค์ทรงพระเจริญ
กระทู้: 9
ความเห็น: 7,138
ล่าสุด: 02-05-2567
ตั้งแต่: 24-01-2552
ความเห็นที่ 44: 2 ธ.ค. 54, 14:15
ทรงพระเจริญ
กระทู้: 5
ความเห็น: 573
ล่าสุด: 21-07-2567
ตั้งแต่: 13-01-2554
natpauline2(473 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
ความเห็นที่ 45: 2 ธ.ค. 54, 14:21
ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
กระทู้: 3
ความเห็น: 1,566
ล่าสุด: 27-01-2566
ตั้งแต่: 02-10-2549
peeraput(32 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
ความเห็นที่ 46: 2 ธ.ค. 54, 15:13
ขอพระองค์ทรงพระเจริญ
กระทู้: 107
ความเห็น: 59,725
ล่าสุด: 19-11-2567
ตั้งแต่: 16-08-2544
A21(2434 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
ความเห็นที่ 47: 4 ธ.ค. 54, 17:58
ขอให้พระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
กระทู้: 43
ความเห็น: 3,534
ล่าสุด: 22-11-2567
ตั้งแต่: 17-11-2552
safetytum(994 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
ความเห็นที่ 48: 5 ธ.ค. 54, 06:34
ทรงพระเจริญ
ทรงพระเจริญ
หน้าที่:< 1 | 2
กรุณา ลงทะเบียน และ login ก่อนส่งความเห็นครับ
siamfishing.com © 2024
siamfishing.com/board/view.php?begin=25&onlyuserid=0&tid=639916