เหตุการณ์ทั้งหมดของเรื่องมันเริ่มจากจุดนี้ .....
หลังจากพวกเราออกเดินทางจากปากน้ำระนองมาได้ หลายชั่วโมง ...
เกมส์ที่จะฆ่าเวลาได้ดีที่สุดนอกจากนอนและเล่น ....ก็คือ ..
เกมส์ทรอลลิ่ง .....
พี่บอย ยันมาร์ .... ชายร่างสันทัดที่คลั่งไคล้การทรอลลิ่งมากๆ ...ผมเคยออกพม่าปีแรกกับแก แกสามารถอกทนนั่งเฝ้าปลายคันเบ็ดได้เป็นวันๆ โดยมีเพื่อนเป็นเบียร์กระป๋องและบุหรี่มาร์ลโบโร่หนุ่งซอง ....
ผมมองไม่เห็นความสุขความสนุกของการนั่งเฝ้าคันเบ็ดที่มีเหยื่อปลอมที่ปลายสายและเอาเรือลากด้วยความเร็น 7-8 น๊อต ว่าปลาอะไรมันจะมากิน .....
ครั้งที่สองพวกเราออกไปหลักแก๊สด้วยกัน ....ยิงยาวไปถึงซากเรือซีเครสหลังสมุย ..... หลายสิบชั่วโมงและหลายวัน ที่ผมมองเห็นพี่บอย นั่งเฝ้าคันเบ็ดที่บันไดท้ายเรือครอบครัว108 โดยที่ปลายสายมีเจ้าสตรอมบิคแมควาดลวดลายอยู่ใต้น้ำ
ผมว่ามันอาจจะมีความสุขอยู่กับตัวเอง ....อยู่กับความคิดของตัวเองที่ปล่อยให้ล่องลอยไปตามสายลมและเกลียวคลื่น ....อยู่กับความทรงจำความคิดความฝันไม่ว่าจะสุขหรือทุกข์ก็ตาม รอคอยให้เสียงรอกที่เรารักปลุกเราให้ตื่นจากจินตนาการ ...
ผมให้พี่บอยปล่อยเหยื่อตัวเก่งของผมลากออกมาตั้งแต่วันแรก .....โดยที่มีเจ้ากิต อาซาริ คอยบ่นกระปิดกระแปดว่าเหยื่อไม่ดีปลาไม่กิน ค่อนขอดขูดแคะผมมาเป็นวันๆ .....
เหยื่อก็เปลี่ยนไปเรื่อย ตามความพอใจของคนเฝ้า เหยื่อผมบ้าง เหยื่อพี่บอยบ้าง เหยื่อใครต่อใครบ้างตามแต่ศรัทธา ....
แต่สุดท้าย เหยื่อที่ปลายสายเป็นของผม......เป็นเหยื่อตัวแรกที่ผมโยนเข้ากล่องที่จัดจะมาในทริปนี้ ...ตัวเบ็ดตัวเก่า สปริทริงตัวเก่า ...สนิมกินเขรอะ ...แค่ความมั่นใจเต็มเปี่ยม ...
พี่บอยกำลังงจะลงไปเปลี่ยนเหยื่อ ....พวกผมจับกลุ่มเมาท์กันที่ชั้นสองหน้าตู้แช่แข็ง .....
และแล้ว .....เสียงนรกแตกก็ร้องลั่นระงม ไปทั้งเรือ ...
" เฮ้ยปลากิน " ....