ผมก็ไปบ่อยนะครับวังวัว บ้านผมอยู่แถวหลวงพ่อเกษมครับ แต่ไม่ค่อยเจอครับ จำได้อย่างเดียวคือ ทางขึ้นสันเขื่อน ชันมาก
ไปโดนที่บอกคือ เป็นบ่อที่เค้า จับปลามาจาก บ่อ 991 ใกล้กับสโตร์วังเย็นครับ
ด้วยความเป็นเด็ก คะนองด้วย อยากอัดปลา นัดกับเพื่อนไปตกกันตอนกลางคืน (ไปแอบตกครับ พี่คนเฝ้าบ่อเค้าบอกว่าไปลองดูได้แต่อย่างให้ใครเห็น)
เอาเบ็ดไปคนละคันก็พอ มอเตอร์ไซด์ก็คันเดียว ไปกัน 3 คน ถึงบ่อโดยห่างจากถนนเลียบคลองเหมืองประมาณ 300 ม.มองเห็น
ลักษณะบ่อเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า กว้างประมาณ 100 ม. ยาวประมาณ 250 ม. ไปถึงประมาณ 3 ทุ่มก็ตีเบ็ดกันเลย เหยื่อเป็นไส้ไก่ครับ
แล้วก็นั่งรอก็เงียบ รถลาก็ไม่มีสัญจร จนหลับตื่นมาเที่ยงคืนโดนตอนนั้นไปช่วงต้นเดือน ธ.ค. อากาศเริ่มหนาว เลยไปเอากองฟางที่อัดเป็นก้อนสี่เหลี่ยม มาเรียงเป็นเตียง (ลักษณะเหมือนป้อมมากกว่า)
ตื่นมามองพระจันทร์ขึ้นโผล่พ้นไปทางหน้าบ่อก็เป็นภูเขาเล็กเล็ก แถวบ้านเรียกกันว่า ม่อน มองดูพระจันทร์เป็นสีแดง ผมเรียกกันว่าจันทร์สีเลือด มองหาเพื่อนที่นอนอยู่ ปรากฏว่ามีแต่ตัว หัวไม่มี
ตกใจกระโดดลงจากกองฟาง ตั้งสติได้เลยเรียกเพื่อนดู มันค่อย ๆ ขยับตัว หัวโผล่มา คือมันนอนดิ้น หัวล่วงไปทางด้านข้าง พอหลังเที่ยงคืน ปลาขึ้นน้ำกันใหญ่เลย เบ็ดโดนลากกันหลายรอบไปวัดไม่ติดเลย
จนตี 4 กว่าเสียงระฆังดังมาจากทางเขา แสดงว่าอีกฝั่งเป้นวัดและใกล้เช้าแล้วคงใกล้ได้เวลากลับ ฉุกคิดขึ้นได้คงลืมเซ่นเจ้าที่ นึกขึ้นได้ก็ เอาขนมที่ติดตัวมาด้วยไหว้เจ้าที่ ตีเบ็ดรอบสุดท้าย
รอกร้องลั่นเลยก็พยายามอัดขึ้นมาเป็น ปลาดุกรัสเซีย ไซด์ 12 โล
เลยไปหาเศษเชือก มาร้อยเหงือกไว้ แล้วก็เก็บเบ็ด กลับบ้านเลย ตอนหลังมาทราบว่า บ่อที่ติดกับม่อนนั้น ฝั่งนี้เป็นที่เก็บโกศ แถมเคยมีเหตุเอาศพมาทิ้งไว้แถวนั้นด้วย และอีกอย่างคือ เมื่อคืนที่ตกกันมันวันโกนด้วย ถึงว่า พี่คนเฝ้าบอกมาตกเลยแต่อย่าให้ใครเห็น แถมแกก็ไม่ได้นอนเฝ้าบ่อด้วย แกกลับไปนอนบ้านในหมู่บ้าน เช้า ๆ ถึงมาเฝ้าบ่อ ว่าแล้วว่าเมื่อคืน รอกลั่นหลายรอบไม่ติด ส่งสายก็ไม่ติด แถมมีอยู่ครั้งนึงเก็บเบ็ดกลับมาติดกระดูกมาชิ้นนึง
ปล. ปลาผมเอากลับมาบ้านด้วยนะครับ แต่ไม่กล้ากิน เอาขังไว้ 1อาทิตย์มันตายครับ
ตั้งแต่เหตุการณ์นี้ ผมเลยไม่ออกตกปลากลางคืนในที่แบบนี้เลย อย่างมากก็ออกมาก็ไปตกเล่น ๆ แถวเขื่อนยาง เที่ยงคืนกลับ