ขอเล่าเรื่องคร่าวๆอีกรอบละกันนะครับ พวกนัดกันว่าจะไปตีเหยือปลอม ตาเกาะต่างในทะเล โดยไม่ได้เช็ค สภาพอากาศคลื่นลม เราออกจากฝั่งตอนบ่าย ไปถึงเกาะตอนบ่ายสองเราตกปลาเก๋าได้เยอะมาก แถมพี่สักยังได้ปลาตะคอง4กิโลด้วยปลายาง แต่พอเราจะกลับ ลมก็กรรโชคแรงขึ้น คลืนก็ซัดน้ำเข้ามาอยูในเรือ ปั้มน้ำก็ปั้มออกจะไม่ทัน พวกเราต้องหันหัวเรือเข้าหาฝั่ง แบบทุลักทุเล เราต้องรีบก่อไฟก่อนที่พวกเราจะหนาวตายเพราะลมแรงมาก หนาวมาก ไม่มีที่หลบลมเสื่อผ้าที่เอาไป มีอยู่ชุดเดียวแถมเปียกอีกต่างหาก ที่สำคัญที่สุดคือน้ำดืมมีเหลืออยู่ ประมาน6-7ขวดเท่านั้นครับ ทุกคนต่างอยากที่จะกลับบ้าน แต่สัญานมือถือไม่มี แล้วเครืองเรือก็สตราท์ไม่ติด น้ำเข้าคาร์บูร
เราต้องติดอยู่ที่นั่น โดยไม่รู่ว่าอีกกี่วันไครจะมาเจอเรา วันรุ่งขึ้นพวกเราตัดสินใจ พาเรือออกจากฝั่งอีกคร้ง ไปอยู่ในจุดที่เผือจะมีใครมองเห็นหรือผ่านมาเจอเราบ้าง เราต้องทิ้งสมอรอคอยความหวัง ว่าเผือจะมีไครผ่านมาเจอเราบ้าง แต่จุดที่เราทิ้งสมอนั้น ถ้าคลื่นแรงขึ้นเรื่อยๆ เราต้องรีบกลับเข้าฝั่ง ไม่งั้นเราจะถูกคลืนจมสู่ก้นทะเล แต่พอคลืนเริ่มจะเเรง มีเรือสปีดโบทลำหนึง ขับผ่านมา คนขับเป็นชาวต่างชาติพูดภาษาไทยไม่ได้ แถมมาคนเดียวอีกต่างหาก เขาให้ผมโดดขึ้นเรือเขา เพื่อไปโทรหาคนมาช่วย แล้วเขาพาผมไปโทรกลางอ่าวจุดที่มีสันญาน มือถือ แล้วผมก็โทรหาช่างหลานให้มารับผมกลับครับ