สยามฟิชชิ่ง
หน้าแรก|กระดาน|รีวิว|ประมูล|ตลาด|เปิดท้าย
login | สมัครสมาชิก | วิธีสมัครสมาชิก | ลืมชื่อ/รหัส | login ไม่ได้? | 22 พ.ย. 67
ที่นี่เพชรบูรณ์ครับ: SiamFishing : Thailand Fishing Community
หน้าที่:< 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7
 กระดาน > ตีเหยื่อปลอม
ความเห็น: 165 - [23 ม.ค. 55, 09:03] ดู: 32,442 - [22 พ.ย. 67, 17:32]  ติดตาม: 5 โหวต: 38
ที่นี่เพชรบูรณ์ครับ
กระทู้: 39
ความเห็น: 2,988
ล่าสุด: 19-11-2567
ตั้งแต่: 20-06-2554
ความเห็นที่ 151: 19 ม.ค. 55, 08:17
[q][i]อ้างถึง: สาวกปลาตาย posted: 19-01-2555, 08:11:24[/i]

[q][i]อ้างถึง: saosawas posted: 18-01-
อ้างถึง: สาวกปลาตาย posted: 19-01-2555, 08:11:24

อ้างถึง: saosawas posted: 18-01-2555, 22:49:31

เข้ากับบรรยากาศวันกองทัพไทยเลยครับ


๑๘ มกราคม วันกองทัพไทย

ในวันที่ 18 มกราคม 2550 ประกาศเป็นวันกองทัพไทยเป็นปีแรก ซึ่งก่อนหน้านี้คือ“วันยุทธหัตถี” หรือที่เรียกว่า “วันสมเด็จพระนเรศวรมหาราช”


“วันยุทธหัตถี” หรือที่เรียกว่า “วันสมเด็จพระนเรศวรมหาราช” หมายถึง วันที่ระะลึกที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงกระทำยุทธหัตถีมีชัยชนะต่อสมเด็จพระมหาอุปราชาของพม่า เมื่อวันจันทร์ เดือน ๒ แรม ๒ ค่ำ จุลศักราช ๙๕๔ อันตรงกับวันที่ ๑๘ มกราคม พ.ศ. ๒๑๓๕ คณะรัฐมนตรีจึงได้มีมติเมื่อวันที่ ๒๙ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๔๘ กำหนดให้วันที่ ๑๘ มกราคม ของทุกปีเป็น “วันยุทธหัตถี” (แทนวันที่ ๒๕ มกราคม เนื่องจากนายประเสริฐ ณ นคร ราชบัณฑิต ได้คำนวณแล้วพบว่าการนับวันทางจันทรคติของวันกระทำยุทธหัตถีเดิมที่ตรงกับวันจันทร์ เดือน ๒ แรม ๒ ค่ำ จุลศักราช ๙๕๔ ที่กำหนดเป็นวันที่ ๒๕ มกราคมนั้น คลาดเคลื่อน จึงได้มีการเปลี่ยนใหม่ให้ตรงกับความเป็นจริง) และถือวันนี้เป็นวันรัฐพิธี
ยุทธหัตถี หมายถึง การต่อสู้ด้วยอาวุธบนหลังช้าง เป็นการรบอย่างกษัตริย์สมัยโบราณ ถือเป็นคติมาแต่ดึกดำบรรพ์ว่า ยุทธหัตถีหรือการชนช้างเป็นยอดยุทธวิธีของนักรบ เพราะเป็นการต่อสู้อย่างตัวต่อตัว แพ้ชนะกันด้วยความคล่องแคล่วแกล้วกล้า กับการชำนิชำนาญในการขับขี่ช้างชน โดยมิต้องอาศัยรี้พลหรือกลอุบายแต่อย่างใด เพราะโดยปกติ ในการทำสงครามโอกาสที่จอมทัพทั้งสองฝ่ายจะเข้าใกล้ชิดจนถึงชนช้างกันมีน้อยมาก ดังนั้น กษัตริย์พระองค์ใดกระทำยุทธหัตถีชนะก็จะได้รับการยกย่องว่า มีพระเกียรติยศสูงสุด และแม้แต่ผู้แพ้ก็ได้รับการยกย่องสรรเสริญว่าเป็นนักรบแท้


ในสมัยอยุธยามีการยุทธหัตถี รวม ๓ ครั้ง คือ ครั้งแรกในแผ่นดินสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ พระ อินทราชาพระเจ้าลูกยาเธอได้ชนช้างกับข้าศึกที่นครลำปาง และถูกปืนสิ้นพระชนม์ ครั้งที่สองในแผ่นดินพระมหาจักรพรรดิ ได้ชนช้างกับพระเจ้าแปรกรุงหงสาวดี และสมเด็จพระศรีสุริโยทัย ต้องอาวุธข้าศึกทิวงคต และครั้งที่สาม ก็คือครั้งที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราชชนช้างกับพระมหาอุปราชาแห่งกรุงหงสาวดี จนได้รับชัยชนะ ซึ่งยุทธหัตถีครั้งนี้กล่าวกันว่าเป็นครั้งสุดท้ายในประวัติศาสตร์ และเป็นวีรกรรมครั้งสำคัญที่ทำให้พระเกียรติยศของสมเด็จพระนเรศวรมหาราชเป็นที่เลื่องลือไปไกล

หลังจากนั้นเป็นที่น่าอัศจรรย์ว่าไม่มีข้าศึกใดกล้ายกทัพมารุกรานเรานานถึง ๑๕๐ ปี ดังนั้น ในโอกาสครบรอบ ๔๑๕ ปีแห่งวันกระทำยุทธหัตถีจนได้รับชัยชนะ กลุ่มประชาสัมพันธ์ สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ กระทรวงวัฒนธรรม จึงขอนำพระราชประวัติโดยย่อของสมเด็จพระนเรศวรมหาราชมาเล่าสู่กันฟัง เพื่อเป็นการน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์


สมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงเป็นพระมหากษัตริย์ไทยลำดับที่ ๑๘ แห่งราชอาณาจักรศรีอยุธยา เสด็จพระราชสมภพที่เมืองพิษณุโลก เมื่อปีเถาะ พ.ศ. ๒๐๙๘ ทรงมีสมเด็จพระมหาธรรมราชาธิราชเจ้า ซึ่งเป็นพระเจ้าแผ่นดินราชวงศ์สุโขทัยองค์แรกที่ครองกรุงศรีอยุธยาเป็นพระบิดา และมีพระวิสุทธิกษัตรี ผู้เป็นพระราชธิดาของสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ และพระสุริโยทัยวีรกษัตรีย์ของไทยเป็นพระมารดา จึงอาจกล่าวได้ว่าสมเด็จพระนเรศวรทรงได้รับพระสายโลหิตความเก่งกล้าสามารถสืบเนื่องมาจากพ่อขุนรามคำแหงมหาราชทางพระชนก และเลือดพระสุริโยทัยซึ่งเป็นสมเด็จพระอัยยิกา(ยาย)ทางพระมารดา


ทรงมีพระสุพรรณกัลยา เป็นพระพี่นาง และมีพระเอกาทศรถเป็นพระอนุชา เนื่องจากตลอดระยะเวลาที่เสด็จขึ้นครองราชย์ ๑๕ ปี ตั้งแต่ปีพ.ศ. ๒๑๓๓ จนเสด็จสวรรคตเมื่อวันที่ ๒๕ เมษายน พ.ศ. ๒๑๔๘ ทรงอุทิศเวลาเกือบตลอดรัชสมัยให้กับการศึกสงครามเพื่อเสริมสร้างความมั่นคงและความยิ่งใหญ่ให้กรุงศรีอยุธยาตลอดมา ทำให้ทรงไม่มีพระมเหสีและพระราชโอรสธิดา ดังนั้น เมื่อเสด็จสวรรคต พระเอกาทศรถจึงได้เสด็จขึ้นครองราชย์สืบต่อมา


สมเด็จพระนเรศวรมหาราชเป็นพระมหากษัตริย์ที่ทรงเชี่ยวชาญการรบยิ่ง ทรงฉลาดในการวางแผนยุทธวิธีและอุบายกระบวนศึกที่ไม่เหมือนผู้ใดในสมัยเดียวกัน ทรงเป็นผู้ริเริ่มการรบแบบกองโจร คือ ใช้คนน้อยแต่สามารถต่อสู้กับคนจำนวนมากได้ พระองค์มีความสามารถในการใช้อาวุธที่ทำการรบแทบทุกชนิดอย่างเชี่ยวชาญยากจะหาผู้ใดเสมอเหมือนไม่ว่าจะเป็นปืน ดาบ ทวนหรือง้าว เป็นต้น


ฝีมือการรบของพระองค์นั้นเรียกได้ว่าเก่งกาจจนเป็นที่ครั่นคร้ามแก่ข้าศึกศัตรู ดังปรากฏในพงศาวดารพม่าพอสรุปได้ว่า วันหนึ่งพระเจ้าหงสาวดีนันทบุเรง ทรงตัดพ้อว่า ไม่มีใครที่จะอาสามาสู้รบกับกรุงศรีอยุธยาเลย ทั้งๆที่พระนเรศวรมีรี้พลแค่หยิบมือเดียว แต่ก็ไม่มีใครกล้าไปรบพุ่ง พระยาลอ ขุนนางคนหนึ่ง จึงทูลว่า กรุงศรีอยุธยานั้น สำคัญที่พระนเรศวรองค์เดียว เพราะกำลังหนุ่ม รบพุ่งเข้มแข็งทั้งบังคับบัญชาผู้คนก็สิทธิ์ขาดรี้พลทั้งนายไพร่กลัวพระนเรศวรยิ่งกว่ากลัวความตาย เจ้าให้รบพุ่งอย่างไรก็ไม่คิดแก่ชีวิตด้วยกันทั้งนั้น คนน้อยจึงเหมือนคนมาก ข้อความดังกล่าว เป็นการสะท้อนให้เห็นถึงพระบารมีของสมเด็จพระนเรศวรมหาราชได้อย่างชัดเจน
อาจกล่าวได้ว่าตลอดพระชนมชีพของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ไม่เคยทรงอยู่อย่างสะดวกสบายและต้องทรงกระทำการรบมาโดยตลอด กล่าวคือ เมื่อพระชนมายุ ๙ พรรษาก็ต้องไปเป็นตัวประกันที่หงสาวดีอยู่ ๖ ปี ครั้นเสด็จ กลับมากรุงศรีอยุธยาเมื่อพระชนมายุ ๑๕ พรรษา ปีต่อมาพระบิดาก็ส่งไปครองเมืองพิษณุโลก มีอำนาจบัญชาการหัวเมืองฝ่ายเหนือทั้งหมด ได้ทรงจัดฝึกทหารแบบใหม่ พอพระชนมายุ ๑๙ พรรษาทรงยกกองทัพไปพร้อมพระบิดาเพื่อช่วยทัพหลวงกรุงหงสาวดีตีเมืองเวียงจันทร์ ครั้นพระชนมายุ ๒๓ พรรษา ได้ลงเรือไล่ติดตามพระยาจีนตุขุนนางจีนเมืองเขมรที่หนีไป โดยใช้พระแสงปืนยิงต่อสู้ด้วยพระองค์เอง อย่างไม่หวาดหวั่นหรือหลบกระสุนที่ยิงโต้กลับมาเลย จนศัตรูยิงถูกรางพระแสงปืนที่ทรงอยู่แตกไป


แม้จะจับพระยาจีนตุไม่ได้แต่ความกล้าหาญของพระองค์ก็เป็นที่เลื่องลือ ครั้นพระชนมายุ ๒๔ พรรษา ก็ทรงเป็นแม่ทัพไล่ตีพระทศราชา ซึ่งคุมกองทัพเขมรมาตีโคราชและหัวเมืองชั้นในจนได้ชัยชนะทั้งๆที่กำลังน้อยกว่ามาก จนเขมรขยาดไม่กล้ามารุกรานอีก พอพระชนมายุได้ ๒๖ พรรษาได้แสดงพระปรีชาสามารถในการวางแผนการรบจนตีเมืองคังได้สำเร็จ ขณะที่อีก ๒ กองทัพของพม่าตีไม่สำเร็จ พอพระชนมายุ ๒๙ พรรษาได้ยกทัพไปช่วยรบเมืองอังวะตามคำสั่งหงสาวดี และได้ทราบกลอุบายว่าทางพม่าจะกำจัดพระองค์ จึงแสร้งเดินทัพช้าๆ และต่อมาก็ได้ทรงประกาศอิสรภาพที่เมืองแครง เมื่อพ.ศ. ๒๑๒๗ ทำให้กรุงศรีอยุธยาซึ่งเป็นเมืองขึ้นของพม่ามา ๑๕ ปี ไม่ต้องขึ้นกับพม่าอีกต่อไป


ด้วยเหตุนี้ พระเจ้าหงสาวดี (นันทบุเรง)จึงให้สุรกรรมายกทัพมาตามจับพระองค์ๆจึงได้ยิงปืนข้ามแม่น้ำสะโตงถูกสุรกรรมาตาย ต่อมาเมื่อมีพระชนมายุ ๓๕ พรรษา พระมหาธรรมราชา พระบิดาสวรรคต พระองค์จึงเสด็จขึ้นครองราชสมบัติ และได้ทรงสถาปนาพระเอกาทศรถเป็นพระมหาอุปราชา แต่ให้มีพระเกียรติสูงเสมอพระเจ้าแผ่นดินอีกองค์หนึ่ง ครั้นพระชนมายุ ๓๗ พรรษา ก็ทรงกระทำยุทธหัตถีชนะพระมหาอุปราชา พระชนมายุ ๔๐ พรรษาเสด็จยกทัพไปตีเมืองเขมร จับพระยาละแวกมาทำพิธีปฐมกรรม (คือตัดศีรษะเอาโลหิตมาล้างพระบาท) และแม้แต่ในวาระสุดท้ายแห่งพระชนมชีพ พระองค์ก็ยังอยู่ในระหว่างการยกทัพไปตีเมืองอังวะ แต่เกิดประชวรเป็นหัวระลอก (ฝี)ที่พระพักตร์และเป็นพิษจนเสด็จสวรรคตเสียก่อนในปีพ.ศ. ๒๑๔๘ รวมสิริพระชนมายุได้ ๕๐ พรรษา ทรงครองราชย์เป็นระยะเวลา ๑๕ ปี

กระทู้: 10
ความเห็น: 4,566
ล่าสุด: 08-09-2567
ตั้งแต่: 13-01-2553
pomkorat(711 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
ความเห็นที่ 152: 19 ม.ค. 55, 20:16
แวะมาร่วมชมอีกครั้งครับ    ชอบมากครับ 
กระทู้: 1
ความเห็น: 8
ล่าสุด: 27-01-2566
ตั้งแต่: 15-10-2546
ความเห็นที่ 153: 19 ม.ค. 55, 21:24
ผมอดีต ช.พัน.4 ทหารช่างนครสวรรค์ เป็นทหารปี 25-26 อยู่ที่เขาค้อมาตลอด เห็นทุกอย่างที่กล่าวมา ทุกตารางนิ้วของยุทธภูมิ เห็นทรากเครื่องจักรกล เห็นพื้นที่ที่ครั้งนึงคนไทยปกป้องใว้ด้วยชีวิตเป็นพันศพ เห็นวีรกรรมของผู้ปกป้อง ข้าขอสดุดี ขอบคุณผู้ที่โพส
กระทู้: 18
ความเห็น: 488
ล่าสุด: 22-11-2567
ตั้งแต่: 15-07-2551
ความเห็นที่ 154: 19 ม.ค. 55, 22:41
กระทู้: 39
ความเห็น: 2,988
ล่าสุด: 19-11-2567
ตั้งแต่: 20-06-2554
ความเห็นที่ 155: 20 ม.ค. 55, 08:33
อ้างถึง: pomkorat posted: 19-01-2555, 20:16:34

แวะมาร่วมชมอีกครั้งครับ    ชอบมากครับ 

ไปดูในห้องแสดงวิดีโอยังครับ น้า
กระทู้: 39
ความเห็น: 2,988
ล่าสุด: 19-11-2567
ตั้งแต่: 20-06-2554
ความเห็นที่ 156: 20 ม.ค. 55, 08:34
อ้างถึง: สาวกปลาตาย posted: 20-01-2555, 08:33:36

อ้างถึง: pomkorat posted: 19-01-2555, 20:16:34

แวะมาร่วมชมอีกครั้งครับ    ชอบมากครับ 

ไปดูในห้องYouTubeยังครับ น้า
กระทู้: 39
ความเห็น: 2,988
ล่าสุด: 19-11-2567
ตั้งแต่: 20-06-2554
ความเห็นที่ 157: 20 ม.ค. 55, 08:35
อ้างถึง: ป่าสัก posted: 19-01-2555, 21:24:47

ผมอดีต ช.พัน.4 ทหารช่างนครสวรรค์ เป็นทหารปี 25-26 อยู่ที่เขาค้อมาตลอด เห็นทุกอย่างที่กล่าวมา ทุกตารางนิ้วของยุทธภูมิ เห็นทรากเครื่องจักรกล เห็นพื้นที่ที่ครั้งนึงคนไทยปกป้องใว้ด้วยชีวิตเป็นพันศพ เห็นวีรกรรมของผู้ปกป้อง ข้าขอสดุดี ขอบคุณผู้ที่โพส

สุดยอดครับน้า ที่น้าได้อยู่ในวีระกรรมครั้งนั้น ชื่นชมทหารทุกนายครับ
กระทู้: 39
ความเห็น: 2,988
ล่าสุด: 19-11-2567
ตั้งแต่: 20-06-2554
ความเห็นที่ 158: 20 ม.ค. 55, 08:35
อ้างถึง: ต้น ยะลา posted: 19-01-2555, 22:41:19


กระทู้: 2
ความเห็น: 55
ล่าสุด: 27-01-2566
ตั้งแต่: 26-11-2552
ความเห็นที่ 159: 20 ม.ค. 55, 08:46
กระทู้: 39
ความเห็น: 2,988
ล่าสุด: 19-11-2567
ตั้งแต่: 20-06-2554
ความเห็นที่ 160: 20 ม.ค. 55, 08:57
อ้างถึง: ไกเซอร์ posted: 20-01-2555, 08:46:51


กระทู้: 176
ความเห็น: 8,464
ล่าสุด: 14-11-2567
ตั้งแต่: 28-06-2547
amnart p.(2299 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
ความเห็นที่ 161: 22 ม.ค. 55, 10:25
++
กระทู้: 39
ความเห็น: 2,988
ล่าสุด: 19-11-2567
ตั้งแต่: 20-06-2554
ความเห็นที่ 162: 23 ม.ค. 55, 08:02
อ้างถึง: amnart p. posted: 22-01-2555, 10:25:07

++

กระทู้: 10
ความเห็น: 1,781
ล่าสุด: 27-01-2566
ตั้งแต่: 07-12-2553
ความเห็นที่ 163: 23 ม.ค. 55, 08:10
กระทู้: 0
ความเห็น: 13
ล่าสุด: 27-01-2566
ตั้งแต่: 25-08-2554
ความเห็นที่ 164: 23 ม.ค. 55, 08:40
กระทู้: 21
ความเห็น: 7,752
ล่าสุด: 27-01-2566
ตั้งแต่: 29-04-2551
ความเห็นที่ 165: 23 ม.ค. 55, 09:03
หน้าที่:< 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7
กรุณา ลงทะเบียน และ login ก่อนส่งความเห็นครับ
siamfishing.com © 2024
siamfishing.com/board/view.php?begin=150&onlyuserid=0&tid=641763