เรือประมงพานิช วิ่งเข้าจอดท่าทุกจังหวัด.....
วิเคราะห์ให้ชัด อ่านเกมส์ให้ออก และสวนกลับ... แบบจัดเต็ม
1. การที่เรือประมงพานิชย์วิ่งเข้ามาเทียบท่ากันอย่างอุดหนาฝาคั่งในวันนี้เป็นเพราะ รัฐ หรือ ศปมผ. ขีดเส้นตายเส้นสุดท้ายของมาตรการหนึ่งในหลาย ๆ มาตรการคือ ให้เรือ 30 ตันกรอสขึ้นไปต้องติด VMS ภายในวันที่ 3 กค. นี้ เป็นวันสุดท้าย ดังนั้นเรือเหล่านี้จึงต้องวิ่งกลับฝั่งอยู่แล้ว เพราะต้องกลับมาดำเนินการให้ถูกต้องตามกฏหมาย ซึ่งถ้าติดแล้วเรือที่มีทะเบียนเรือ และอาชญาบัตรทำประมง และลูกเรือประมงที่ถูกต้องตามกฏหมายก็กลับออกไปทำการประมงได้ตามปกติ ไม่มีปัญหาอะไร
2. เรือที่เข้ามาทั้งหมด มีเรือที่ผิดกฏหมายคือใช้เครื่องมือประมงไม่ตรงกับอาชญาบัตรที่ได้รับ ประมาณ 4,000 ลำ (เป็นพวกเรือประมงทำลายล้างทรัพยากรได้แก่ เรือลาก รุน ล้อมปั่นไฟ และล้อมกลางวัน แต่ถืออาชญาบัตร ทำประมงไดหมึก หรืออวนลอย เพราะรัฐมีกฏหมายควบคุมอาชญาบัตรเครื่องมือ 4 ชนิดแรก ซึ่งไม่สามารถออกเพิ่มให้ได้) เพราะฉะนั้นเรือ 4,000 กว่าลำนี้เข้ามาแล้วจะสามารถออกไปทำประมงอีกได้ก็ต่อเมื่อได้ปรับเปลี่ยนเครื่องมือให้ตรงกับอาชญาบัตรที่มี แต่พวกเขาไม่ยอมทำ ดื้อแพ่ง พูดเอาแต่ได้ว่าจะยังคงทำเครื่องมือที่ทำลายล้าง โดยให้รัฐแก้กฏหมาย
3. เมื่อเรือทุกลำที่อยู่ในทะเลวิ่งกลับเข้าฝั่ง ก็เป็นเรื่องธรรมดาที่ แพปลา โรงน้ำแข็ง หรืออุตสาหกรรมต่อเนื่องอื่น ๆ ต้องหยุดชะงัก ไปไม่มีเรือใหญ่จับปลาในช่วงนี้ แต่ไม่นานหรอกค่ะ พวกเรือที่ติด VMS เสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็กลับไปทำประมงเหมือนเดิม ไม่ต้องห่วงว่าคนไทยจะไม่มีปลากิน หรือไม่มีส่งออก สถานการณ์จะกลับมาสู่สภาวะปกติค่ะ เพราะไม่มีใครเอาด้วยกับเรือผิดกฏหมายในข้อที่ 2 นานหรอกค่ะ ธุรกิจต่อเนื่องก็จะกลับมาดำเนินงานเหมือนเดิม
4. การที่บอกว่าอาหารทะเลจะขาดแคลน และแพงขึ้นจริงไหม คนไทยต้องเข้าใจให้ได้นะคะ ว่าเครื่องมือทำลายล้างทั้ง 4 ชนิดนั้น ปลาส่วนใหญ่ที่จับได้ เป็นอาหารสัตว์ หรือถ้าเป็นอาหารคนก็ไม่มีคุณภาพ เสี่ยงต่อการถนอมอาหารด้วยสารเคมี และเป็นลูกปลาวัยอ่อน ยังมีพี่น้องประมงชายฝั่งอีก 22 จังหวัด กว่า 50000 ครัวเรือนยังทำการประมงอยู่ คนไทยยังได้กินปลาอย่างแน่นอน ส่วนราคาแพงหรือไม่ ขึ้นกับฝีมือผู้มีหน้าที่รับผิดชอบแล้วล่ะค่ะ ว่าจะมีคนฉวยโอกาสนี้มากน้อยแค่ไหน เพราะก็เชื่อว่าพี่น้องเรือประมงเล็กก็ได้ราคาปลาเท่าเดิมค่ะ
5. การที่เจ้าของเรือเถื่อนใช้วิธีการนี้(เรือทั้งหลายกลับเข้ามาติด VMS เพื่อทำตัวเองให้ถูกกฏหมาย) มาตีข่าวคลุมเคลือ หลอกลวงประชาชนนั้น ทำให้เห็นวิธีคิด และระดับของจรรยาบรรในการทำธุรกิจของตนเอง ไม่ควรให้พื้นข่าวกับคนเหล่านี้มาหลอกลวงประชาชนค่ะ
สถานการณ์ประมงไทยตอนนี้ ก็เหมือนคนเป็นมะเร็ง.....เมื่อคนเจ็บก็ต้องนอนโรงพยาบาล หยุดพักรักษา เสียรายได้ไปบ้าง เพื่อฟื้นฟูสภาพร่างกาย เพื่อจะกลับมาแข็งแรงดังเดิม ดีกว่าให้มะเร็งร้ายเกาะกิน ร่างกายไปทุกส่วน เมื่อถึงเวลาจะเยียวยากันไม่ทันก็จะตายกันหมด
ถ้าร่วมรักษาทะลวันนี้ ธุรกิจอุตสาหกรรมประมงไทย จะเปลี่ยนโฉมหน้าจากการส่งปลาป่นออกนอก จะส่งปลาตัวโต ๆ ออกนอกแทนค่ะ และที่สำคัญอาหารทะเลจะเป็นแหล่งโปรตีนใหญ่ที่สุดของคนไทย ไม่ใช่หมู ไก่ แน่นอนค่ะ