ครั้งแล้วครั้งเล่าที่คนบางคนในเรือ ถึงกับเอ่ยปากให้ผมเอาปืนมายิงดวงอาทิตย์ให้ดับลงได้ไหม ปราณประดุจว่า ชาตินี้กูไม่เอาแสงแดดก็ได้ และแล้วความร้อนจากแสงแดดที่แผดเผาจนทำให้ทุกคนต่างก็หามุมร่มๆอาศัยบังตัว ก็หาได้เป็นอุปสรรคอีกต่อไปไม่เมื่อ Abu7000c Syncro ของผมมันแหกปากร้องขอความช่วยเหลือกลางแสงแดดบนหลังคาเรือ ราวกับว่ามันกำลังจะตาย…สายถูกกระชากออกไปอย่างรวดเร็ว และหนักหน่วงกว่าทุกครั้ง
ผมกระโดดตัวลอยออกไปยืนกลางแดดอย่างอัตโนมัติ แน่นอนงานนี้ประสาทมันการสั่งงานไขสันหลัง ไม่ใช่ผ่านสมอง นั่นคือมันเป็นปฏิกิริยาอัตโนมัติ ดังคำที่ว่าความไวของเสือย่อมเหนือกว่าหมาขี้เรื้อนฉันใด ความไวของผมย่อมเหนือกว่าเสือฉันนั้นในนาทีนี้ คันเบ็ดเสด็จลงจากหลังคามาอยู่ในมือเมื่อใดไม่รู้ตัว รู้แต่ว่ามันกระชากรุนแรง และวิ่งอย่างยาว…ตูม…ตูม…ตูม… สามครั้งสามคราที่เจ้าตัวปริศนากระโดดขึ้นผิวน้ำ เพื่อหนีการพันธนาการจากคมเป็ด ปากของมันแหลมและยาว…ครีบหลังกางออกเป็นใบดั่งรมสีดำตัดกับแผ่นน้ำสีคราม…
จบกันเครับ…สำหรับผมมันจบลงแล้ว…มันไม่ใช่อินทรีย์…แต่มันคือปลากระโทงร่ม…เหตุการณ์การต่อสู้ระหว่างคนกับปลากระโทงร่มตัวงามจะเป็นเช่นไร่ ขอเชิญท่านติดตามได้ในตอนต่อไป…
โปรดติดตาม มหากาพย์แห่งการเดินทาง “แลตติจูดที่ 10 หลักแก๊สกลางอ่าวไทย” ใน
ตอนที่ 6 กระโทงร่มราชินี แห่งท้องทะเล
ได้ที่นี่ที่เดียว…ตกปลากับเรือแพรอาภรณ์ สำหรับวันนี้ ขอกว่าคำว่า…สวัสดีครับ