เนื่องจากทริปวันอังคารที่ผ่านมา ผมได้ออกเรือไปตกปลากัน ตามกระทู้ที่ผมลงไว้
แต่เนื่องจาก ผมใช้เหยื่อเพียงไม่กี่อย่าง จึงหยิบไปแต่พอใช้ ใส่กล่องเก็บไว้ใต้ท้องเรือ
เล้วผมก็จอดเรือไว้ในคลองซอยขึ้นฝั่งเดินไปตกปลากัน ก็เดินกันไปไกลมากนะ แต่ไม่ได้เอะใจอะไร
จนกลับลงเรือ ขับเรือออกตามปกติ ขับไปได้ซักพักก็มีผู้หญิง วัยกลางคนยืนโบกเรือพวกเราอยู่ที่ท่าน้ำ ไอ้เราก็จอดเพราะคิดว่าจะขอติดเรือไปไหนหรือปล่าว พอจอดปุ๊บน้าเขาก็ยื่นปลิ้นปล้อนตัวสีเหลืองให้ผมดู พร้อมพูดว่า
"ของพี่ปะ" ผมงงสิ อะไรหว่า ปลิ้นปล้อนสีเหลือง เหมือนของเรา แต่มาอยู่ที่น้าเขาได้ไง เลยเดินไปเปิดหัวเรือดู
ลมแทบใส่ กล่องไม่อยู่แล้ว
น้าเขาเลยเรียกขึ้นบ้าน ได้พบเด็กซักอายุ 10 ขวบได้มั๊ง ยืนยิ้มอยู่ น้าเขาก็เลยให้เด็กเล่าเรื่องให้ฟัง
น้องเขาบอกว่า เขาเดินกลับมาจาก รร.เพื่อนๆอีก 3 คน(ชอบตกปลากันทั้งแก๊ง) เห็นพวกพี่ตกปลากันอยู่ที่เรือ..ลิบๆ จึงรีบวิ่งมาดูแต่ก็ไม่ทันเพราะพวกผมขึ้นมาเดินบนกันบกแล้ว พอมาถึงเรือ เพื่อนคนนึงจึงลงไปในเรือพวกผม เพื่อเปิดกระดานเรือดูว่า ได้ปลาอะไรมั่ง (คนแถวนี้ชอบเอาปลาใส่ไว้ใต้กระดานเรือ) พอเปิดไปเจอกล่องเหยื่อปลอม เลยขโมยแล้ว แบ่งกันไป คนละ 2-3 ตัว แล้วก็กลับบ้านตามปกติ
น้องคนนี้เขาก็รับมานะ แต่เขากลับมาบอกแม่ว่า ให้แม่เอาไปคืนพี่เขาที น้องเขากลัวไม่กล้าเอามาคืน
แม่น้องเขาก็เลยมาโบกเรือพวกผมนี่แหละ ตอนแรกผมโกรธมาก แต่พอรู้เรื่องตอนจบ ก็ดีใจที่น้องเขาเป็นคนดี ยอมรับความผิด ผมเลยไม่โกรธอะไร แล้วก็เลยยกเหยื่อทั้งหมดให้ด้วย แถมยังสอนตีเหยื่อปลอมอีก เยาวชนรุ่นใหม่แห่งคลองดำเนิน กล้าทำ กล้ารับ พวกผมก็พร้อมให้อภัย สวนพรรคพวกที่เหลือที่เอาเหยื่อไป ผมบอกให้น้องเขาไปแกล้งขอคืนมา แล้วเอาไว้ใช้เองเลย
สุดท้ายก็จบลงด้วยดี คนดีๆ สังคมดีๆ ยังมีอยู่ทั่วไปนะครับ เพียงแต่เราต้องปรับตัวให้ทันกับสังคม แล้วเราก็จะอยู่อย่างมีความสุขตลอดไป