...การเดินทางไปสัมผัสกับบรรยากาศชีวิตท้องถนน ณ กรุงลอนดอน ของผมในครั้งนี้ เกิดขึ้นเมื่อเดือนเมษายน พ.ศ. 2555 สามขวบปีผ่านมาแล้ว เด็กดอยมาจากบ้านนอกอย่างผม ถูกส่งไปดัดนิสัย หัดให้มีมารยาทที่เมืองผู้ดีอย่างเป็นทางการ 10 วัน แต่มีเพียง 2 วัน หรือ 48 ชั่วโมงเต็มที่ผมได้ใช้ชีวิตหรูหรา กินอิ่ม นอนดี โดยไม่ต้องควักตังค์ตัวเองจ่ายเลยแม้แต่ปอนด์เดียว (ที่เหลือจ่ายเองหมด) เมื่อกลับมา...ก็ต้องมานั่งอ่านหนังสือหนังหาที่หอบหิ้วข้ามน้ำข้ามทะเลมา เพื่อให้ความคิดเห็น ข้อเสนอแนะนำ แลกกับเงินค่าตอบแทนในทุกๆ เดือนตามวิถีของมนุษย์เงินเดือนกันต่อไป
...ตลอดระยะเวลาที่ผมถูกส่งไปใช้ชิวิตดัดนิสัยในต่างแดน ต้องทำตัวเป็น
“แก้วที่รินน้ำไม่เคยเต็ม” เรียนรู้วิถี ทฤษฎีและแนวความคิดในแง่มุมที่กฎเกณฑ์บ้านเราไม่มี หรือไม่ก็แตกต่างกันด้วยประเพณีและวัฒนธรรม อีกทั้ง
ได้เปิดหูฟังเสียงและเรื่องราวที่ถ่ายทอดออกมาในภาษาในเวอร์ชั่น BBC ได้เบิ่งตาดูวิถีชีวิตผู้คนผมสีทองตาสีฟ้าเป็นเวลากว่า 10 วัน และยังได้หอบหิ้วหนังสือกฎหมายหลายกิโลฯ แบกจนหลังอาน ข้ามน้ำข้ามทะเลกลับมาอ่านทบทวนต่อที่เมืองไทย
ทริปนี้มีเส้นทางเริ่มตั้งแต่กรุงลอนดอน แต่ไปสิ้นสุดที่กรุงปารีส ด้วยสนนราคา ค่าท่องเที่ยวเพียง สองหมื่นกว่าบาท สำหรับการใช้ชีวิตแบบสมถะในสองประเทศ(รวมค่าที่พัก ค่ากิน ค่าเดินทางภายในประเทศและค่าบัตรผ่านประตูเข้าชมสถานที่)...แต่สุดท้าย ผมก็สัมผัสและเรียนรู้แล้วว่า...ไม่มีที่ไหนในโลกใบนี้เหมาะสม ให้ผมได้ใช้ชีวิตอยู่อาศัยเท่า...
“เมืองไทย” และด้วยวิถีชีวิตคนไทย ธรรมดาๆ อย่างผม ...ก็ขอกล่าวคำ “สวัสดี”
กับทุกๆ ท่าน อันถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติตามวิถีแห่งขนบธรรมเนียมประเพณีไทย ที่เราได้มีโอกาสแวะเวียนมาประสพ พบเจอกันอีกครั้งคราหนึ่ง...ในกระทู้ถ่ายภาพนี้
อนึ่ง...ผมไม่ใช่ผู้รู้หรือ Guru (กูรู้)ใดๆทั้งสิ้นในเรื่องการถ่ายภาพ...และก็ไม่มีคำนำหน้าชื่อของผมแต่อย่างใด ผมเป็นแค่เพียงคนธรรมดาคนหนึ่ง ที่เวลาไปไหนมาไหนชอบพกเอากล้องถ่ายภาพตกรุ่น ไปเพิ่มน้ำหนักให้กับกระเป๋าเดินทาง...ก็เท่านั้นน่ะครับ (และก็ยังขี้เกียจแบกขาตั้งกล้องอีกต่างหาก) เพราะฉะนั้น ภาพที่ผมถ่ายมาได้จึงเต็มไปด้วยความบังเอิญ(หรือเรียกว่า “ฟลุ๊ค” นั่นเอง) ในบางครั้ง บางจังหวะ ผมยังอาศัยความหนาวเหน็บของอากาศ ระหว่างการเดินทาง ทำให้กล้ามเนื้อที่นิ้วกระตุกลั่นชัตเตอร์ซะงั้น ก็พอช่วยให้ได้ภาพมาเติมสีสรรและนำมา Share & Learn กันในกระทู้นี้น่ะครับ
ส่วนกลิ่นไอจะเป็นไปตามหลักการถ่ายภาพแนว Street หรือไม่นั้น ผมไม่รู้ครับ แต่ที่ผมรู้และเป็นความจริงก็คือ ผมเดินไป ถ่ายไปตามถนนหนทางระแวกนั้นล่ะครับ ก็เลยกระแดะจับคำว่า Street เข้ามาจั่วหัวกระทู้น่ะครับ และก็เช่นเคยน่ะครับ หากรสชาติที่ผมปรุงแต่งมา ไม่ถูกปากแต่อย่างใด ติติง แสดงความคิดเห็นกันได้ไม่อั้นน่ะครับ
(ความคิดเห็นของท่าน เป็น “ครู”...นำไปสู่พัฒนาการ...ของผมครับ)
...หากพร้อมแล้ว เราไปเริ่มต้นกระทู้นี้ ด้วยภาพของสาวน้อยสัญชาติอังกฤษแต่เชื้อชาติเอเชียคนนี้กันเลยน่ะครับ เธอที่สะกดความสนใจของผม ตั้งแต่เธอได้ย่างเท้าก้าวเข้ามาบนรถไฟขณะที่ผมเริ่มเดินทางท่องเที่ยวในวันแรก และเธอได้ให้โอกาสโดยมานั่งตรงกันข้ามกับผม
...ภายหลังจากที่ได้ผมเปิดผ้า buff (ปิดหน้าเพราะอากาศมันเย็นมาก
) ให้เห็นหน้าตาเอเชียด้วยกันแล้ว พร้อมกับส่งคำทักทายและขออนุญาตพ่อ/แม่ของสาวน้อยคนนี้แล้ว...ผมก็สามารถบันทึก “รอยยิ้ม”
ที่ทำให้โลกใบนี้สดใส มาแจกจ่ายแบ่งปันให้กับทุกๆท่านน่ะครับ