ฮิๆๆ... เท่าที่มี ผมได้ลองปรับ ใส่ เพิ่ม ก็มี ตามนี้ครับ...
ได้มาก็ลองๆ ใช้ก่อน แล้วก๊อ..
เปลี่ยน...
1. บูชตัวคุมแกนเกลี่ยสาย ให้เป็นบูชตัวบางและลูกปืน ซีอาร์บีบี ( เหมือนที่มาในรอก หรือ จะหาลูกปืนขนาดเท่ากันมาใส่ก็ได้ครับ ไม่มีปัญหาใดๆ ครับ ) มันช่วยลดอาการฝืดเวลาเราหมุนได้พอควรครับ ( บางตัว ที่ยังไม่เปลี่ยนชุดนี้ ก็ลื่นไม่แพ้ ตอนเปลี่ยนแล้วครับ แต่ เท่าที่เจอ หลายๆ ตัว คือ ฝืดหมดเวลาหมุน พอเปลี่ยนแล้ว อาการที่ว่า ก็พอทุเลาลงครับ )
2. ชุดเบรคของเดิม ค่อนข้างจะคม และกินจานเบรค พอควร สังเกตุว่า พอเราใช้ไปซักพัก ผ้าเบรค จะไม่ค่อยอยู่ จะลื่นๆ นั่นเพราะผ้าเบรคคม ( แกะมาดู ลักษณะ คล้ายๆ กระดาษทรายหยาบๆ ) จะกัดกับจาน - วอชเช่อร์สเตนเลส ทั้งสามแผ่น ลื่น จนเป็นมันเงา จะจับไม่ค่อยอยู่ ต้องเปลี่ยน ที่ผม ใช้คือ ประเก็น และ เทฟล่อน สลับใส่กัน จะช่วยให้ มีกำลังเบรคเพิ่มขึ้นมา
การปรุงแต่ง ฮิๆๆ... บางอย่างก็ไม่ค่อยจำเป็นเท่าไหร่ครับ ใช้วิจารณญาณเอาเองแล้วกัน..
1. ลูกปืน ที่โฆษณา ว่าเป็นลูกปืนแต่ง หลายๆ ยี่ห้อ บอกตรงๆ นะครับ ไม่ได้เพิ่มความลื่นให้กับรอก มากขึ้นมาท่าไหร่เลย ผมให้ ซัก 5 % ในความลื่นที่เพิ่มขึ้นก็แล้วกันนะครับ หากเทียบจากลูกปืนเดิม ที่ติดมากับรอก ( ลองดูก็ได้ครับ หากคิดว่า ผมพูดเว่อไป ) ลูกปืนแต่งจะมีเสียงดัง เนื่องจากเป็นลูกปืนตลับเปิด ( ของเดิม ตลับปิด เสียงเงียบกว่าเยอะ ) ดีตรงทำความสะอาดได้ง่ายครับ และดูที่ว่า น่าจะทนทานกว่าของเดิม ( อันนี้ ผมวิจารณ์เฉพาะอัลฟ่านะครับ รอกอื่นผม ยังไม่เคยลองเอาลูกปืนแต่งมาลองเปลี่ยนเลย )
2. สปูลแต่ง เจาะรูเพิ่มขึ้น ( เบาขึ้นแน่นอน ) ราคาประมาณ 2300 - 2500.- สีสวย พูดตรงๆ ก็ให้ความงามมากขึ้นอีกเยอะ ( เมื่อเทียบกับของเดิม สีตุ่นๆ ) ชอบสีแดง ก็ต้องหาชุด น๊อป ( มือหมุน ) แดง มาใส่ จะเข้ากันอย่างสวยงาม การใช้งานไม่หนีกันครับ หากคิดจะซื้อมาสำรอง สำหรับ การสลับสาย เช่น เอ็น 1 หลอด กับ สายถัก 1 หลอด ก็ดีครับ คล่องตัวมากสำหรับการใช้งาน ในรูปแบบอื่นๆ
3. มือหมุนแต่ง ( น๊อป ) มีหลายราคาตั้งแต่ ไม่กี่ร้อย จนถึง พันกว่าๆ เกือบๆ สองพัน มีให้เลือกหลากหลาย ทั้ง โลหะ ทั้งไม้ เช่น ของ อิเซะ ไดว่า เวิร์ก ( ทั้งเหล็ก และ ก๊อก )ไม้รุ่นสแมค / แบสซาท / สตูดิโอ โอเชี่ยน ฯลฯ ของเดิมๆ ก็จับดี ไม่แพ้ ของแต่งครับ หากคิดใช้งานปรกติ ลุยๆ ก็ไม่ต้องเปลี่ยนหรอกครับ เปลืองเงินไปปล่าวๆ แต่ หากมีแล้วอยากใส่ ก็โอเคครับ
3. แขนแต่ง ข้อดี ที่ผมว่า แขนแต่ง จำเป็นคือ เราสามารถ เพิ่มขนาดความยาวของแขนได้ เช่น จากเดิม 85 เป็น 90 ทำให้เราหมุนเบามือขึ้น ( รอบเท่าเดิมนะครับ ไม่เปลี่ยนแปลง อย่าสับสน ระหว่าง ความกว้างของแขนหมุนที่เพิ่มขึ้น ไม่เกี่ยวกับ อัตราทดแต่อย่างใด ) ลูกปืนที่ติดมากับรอกอัลฟ่าที่แขนหมุน ตรงมือจับ ไม่ใช่ลูกปืนนะครับ มันเป็นบูชพลาสติกเราจึงต้องเปลี่ยน บอกเลยว่าช่วยได้เยอะ ทำให้มือจับลื่นขึ้นมาก เมื่อเทียบกับบูชเดิม ของเดิม มีแค่สองบูช ( หัว - หัว อย่างละข้าง อย่างละอัน ) คนทั่วๆ ไปจึง อยากจะเปลี่ยน เป็นแขนของรุ่น ทีมแซด ซึ่งมี สี่บอล ( ข้างละสอง หัว - ท้าย ในรุ่น ทีมแซดจะบรรจุ บอลแบริ่ง มาให้เสร็จสรรพ ไม่ต้องเปลี่ยนเพิ่มเติม ) รอกอัลฟ่า นี่ มีตัวเลือกให้ ปรับเปลี่ยนแขน ได้เยอะแยะ หลากหลายรุ่น เช่น แขน แบสซาท / สตูดิโอ โอเชี่ยน / แขนแต่ง จาก รง. เช่น อิเซะ แฟคตอรี่ ฯลฯ..
แขนที่เบาที่สุด คือ แขนเคฟล่าร์แบสซาท สวยงาม แต่ ราคาก็เอาเรื่อง เช่นกันครับ ( สองพันกว่าๆ ) รองลงมา แขนของ สแมค ( ไดว่า อีกรุ่น ) พันต้นๆ แขนของไดว่า รุ่นทีมแซด 8 - 9 ร้อยบาท ไล่ตามระดับราคากันไปครับ
นึกดู ก็มีเท่านี้ครับ..
อ้อ... สิ่งที่ผม เจอกับมือหมุน ในรอกตัวนี้ คือ ( ตามรูปเลย ) อาการสับล๊อค ของแขน ที่ตีกลับเอง ( เวลาเรา ตีสายออกไป ) ไม่แน่ใจว่า แขนขนาดความยาว 90 และ มือจับ ( น๊อป ) นี่ มีผลทำให้เกิดอาการ เช่นนี้ ตลอดหรือเปล่า
คิดว่า มือจับคงหนักเกินไปครับ พอเปลี่ยนมือจับ เป็นมือจับตัวอื่นที่เบาขึ้น ก้ไม่เจออาการสับล๊อค เวลาตีสายอีกเลยครับ ฉนั้น ควรระวังไว้นะครับ...