สวัสดีครับน้าๆป้าๆ ชาวสยามฟิชชิ่งทุกท่าน
วันนี้ไม่มีกระทู้ตกปลามันส์ๆ ภาพสวยๆ มาให้ชม
แต่ขอมาระบายกับคำว่า "ซวย" ให้น้าๆได้อ่านกัน เรื่องเกิดขึ้นที่ร้อยเอ็ดครับ มันจะซวยแค่ไหน หรือ คนเราจะซวยได้มากเท่าไหร่ เชิญรับฟังครับ
"ซวยที่ 1" วันนี้มีเวลาว่างบ่าย 3 โมง มีเวลาว่างจึงอยากเอาเรือไปเล่นน้ำ แดดเปรี้ยง ถึงร้อนมาก ก็คงเหมาะกับการตกปลากระสูบเลยเอาเรือลงน้ำอย่างมีความหวัง แต่ แต่ แต่ ตกปลาได้เพียงครึ่งชั่วโมงเท่านั้น ฝนตั้งเค้า และเทลงมาอย่างโงหัวไม่ขึ้น ตกแรงมาก แทบเอาเรือขึ้นฝั่งไม่ทัน มันคือความซวยในวันฟ้าเปิดที่หลอกล่อให้เรามีความหวัง T_T
"ซวยที่ 2" เมื่อเอาเรือขึ้นรถเสร็จเรียบร้อย โอ้พระคุณเจ้า "ติดหล่ม" สองคนร่วมแรงทั้งดัน ทั้งลาก ขุดก็แล้ว เทหินก็แล้ว ไม่มีวี่แววจะขึ้นได้เลย ตั้งแต่ 4 โมงเย็นจนมืด เปียกฝน เปื้อนโคลน สุดท้ายต้องหาคนมาช่วย มันคือความซวยต่อเนื่องจากฝนที่เทลงมา
"ซวยที่ 3" เมื่อผมเดินเท้าไปหาคนช่วยระยะทางประมาณ 1 กิโลเพื่อขอให้ชาวบ้านนำรถไถ่มาลาก เดินมืดๆในป่า ความหวังลิบหรี่ แต่อย่างน้อยเราคงไม่ซวยอีกแล้ว เมื่อมีพี่ชายร่างอวบใจดีมาช่วยเรา ถอยรถไถ คูโบต้าออกจากบ้านเพื่อไปช่วยเรา เรานั่งรถไถ่กันมา 3 คน เมื่อมาถึงที่หมาย โอ้แม่เจ้า แทบช็อค "คันเบ็ดหาย" คนเราเมื่อเจอคำว่าซวยมันซวยได้ใจจริงๆ สันนิฐานว่า คงน่าจะเป็นชาวบ้านที่มาส่งกบ ส่องเขียด บริเวณนั้น เพราะไม่มีรถผ่านเข้ามา เป็นป่า เจอคนส่องกบคนนึงมีพิรุษ แต่เดินผ่านไป เพราะตอนนั้นยังไม่รู้ว่าเบ็ดหาย มันทำให้ผมรู้ว่า " ซวย " คำนี้มันเจ็บจี๊ดจริงๆ
"ซวยที่ 4" อ้าวในเมื่อมันหายไปแล้วช่างมัน เอาตรงหน้าก่อนดีกว่า เมื่อเรามัดชุดลากเสร็จแล้ว จะลากขึ้น โอ้ รถไถยางรั่ว ทำไรไม่ได้เลย ในตอนนั้นอยากจะบ้าตาย เวลาตอนนี้ก็จะ 4 ทุ่มแล้ว ทั้งยุง ทั้งหิว ทั้งเหม็น(ตัวเอง) คนเราซวยคนเดียวไม่พอ พาพี่ใจดีมาซวยด้วยอีกคน ความซวยมันช่างเผื่อแผ่กันได้จริงๆ
"ซวยที่ 5" เมื่อเอารถขึ้นมาได้แล้วเรากลับบ้าน หิวมากๆ อาบน้ำเสร็จจัดการทำอาหารด่วนเลย ตำพริก ทำแกง ตอนตำก็ตำปกติ เมื่อจะตักใส่หม้อ โอ้ๆๆๆๆๆ ครกแตกๆ ........ ชีวิตช่างรันทด
วันนี้ซวยได้ซวยไป วันเค้าขอนะอย่าซวยแบบคันหายได้มั้ย อิอิ ซวย สะอื้น
ขอบคุณน้าๆที่ทนอ่านครับ
ขอบคุณพี่ใจดีที่มาช่วยเราโดยที่ไม่สิ่งตอบแทนไรเลย แต่เราเป็นฝ่ายขอร้องเลยยัดค่าน้ำมันให้เล็กน้อย
สุดท้าย คนที่ขโมยของเค้ากิน จงไม่เจริญ