พอดีอ่านเจอคับเลยเอามาให้อ่านกันจะได้คอยระวังกันคับ (จะได้ไม่ต้องจ่ายเงินเกือบ แสนบาท คับ)
(หามมีคำพูดไดไม่สุภาพหรือไม่สมควรก็ต้องขออภัยด้วยคับ)
(ยืมเขามาเตือนคับ)
ฝากเตือนภัยผู้ใช้รถยนต์Vigo หรือ D-Max หรือใครมีญาติพี่น้องใช้อยู่จงระวัง ขณะนี้ พวก มิจฉาชีพ มันมาแนวใหม่
จากสมัยก่อนขโมยยางอะไหล่ หรือไม่ก็แกะโลโก้ ยี่ห้อ หรือรุ่นรถ ตอนนี้แถวสุพรรณฯและจังหวัดใกล้เคียงกำลังระบาดหนัก
คือขโมยถอด อุปกรณ์เซนเซอร์ไมล์(เดิมเรียกสายไมล์วัดความเร็วรถยนต์)
ผมพึ่งโดนไปเมื่อ 5 มีนา 53 (สะเดาะเคราะห์วันเกิด) ผมไปทำธุระแถวโลตัสสุพรรณฯก็จอดรถไว้ในที่ฝากรถ(หลังร้านปะยางข้างโลตัส) ตั้งแต่บ่าย
จนถึง 5 ทุ่ม ก็ขับรถจะกลับบ้าน สังเกตเห็นว่าเข็มไมล์ ไม่ขึ้น ก็คิดว่าฟิวส์คงขาด เพราะเครื่องยนต์ก็ยังทำงานปกติ
ขณะนั้นเห็นว่าดึกแล้วก็เลยขับรถกลับบ้านที่ อยุธยา พอเช้าวันรุ่งขึ้นก็รีบเอารถเข้าศูนย์ช่างก็ตรวจสอบจึงรู้ว่าอุปกรณ์เซน เซอร์ไมล์ถูกขโมยถอดและ
ตัดสายไฟเอาไป ไอ้ตัวที่มันถอดออกไป ราคา ตัวเซนเซอร์ไมล์ 2800 + สายไฟ 6800 + ค่าแรง ก็ไม่เท่าไหร่ แค่หมื่น ต้น ๆ
แต่ที่หนักกว่านั้นคือ เกียร์พังครับเพราะตัวเซนเซอร์ไมล์ที่ว่ามันอยู่ติดกับกระปุกเกียร์ใต้ท้องรถ เมื่อถูกถอดออกไป ทำให้น้ำมันเกียร์ไหลพุ่งออกหมด
น้ำมันเกียร์แห้ง ผมต้องซ่อมเกียร์ไปครึ่งลูก เบ็ดเสร็จ แล้ว 8 หมืน 7 พัน
ก็ยังดีมีประกันชั้นหนึ่ง(อันสุด.....ไม่ยากบอกว่าบริษัทอะไร )
ขอย้ำ! ประกันชั้นหนึ่ง ผมยังต้องออกเอง เกือบ 3 หมื่น มันบ่ายเบี่ยงหาว่าผมดันทุรังขับมาได้ไง โธ่ ก็กรู ไม่รู้นี่หว่ามันมีขโมยแบบนี้ด้วย
ถ้ากรูรู้ กรูจะยอมให้รถพังหรืออีกอย่างเหตุมันก็เกิดกลางดึกต่างบ้านต่างเมืองจะ ให้กรูทำไง
เคราะห์ซ้ำด้ามพลอยเหตุเกิดคืนวันที่ 5 เช้าวันที่6 เอารถเข้าศูนย์แล้วโทรหาประกัน มันมาถึงรถ บ่ายวันที่ 9 (บริการทุกระดับประทับใจจริงจิ้ง)
ช่างก็ไม่กล้าทำอะไรเพราะต้องรอประกัน อนุมัติก่อน ทราบทีหลังคืนเดียวกันนั้นเพื่อนผมอีกคนก็โดนเหมือนกัน เขาจอดรถในลานจอดรถของโลตัสสุ1000แท้ๆ ห่างจากรถผม 200 เมตร
เขาใช้ Vigo เขาพอรู้มาบ้างแล้วว่ามีขโมยแบบนี้ก็ระวังเหมือนกันก็ยังโดน เขาก็ค่อย ๆ ขับช้า ๆ กลับบ้านที่บางปลาม้า ซึ้งอยู่ไม่ไกลรถเลยไม่เป็นไรมาก
เขาก็ไปซื้ออะไหล่เชียงกงมาใส่เอง (ไม่รู้ซื้อของตัวเองหรือเปล่า)หมดไป 8 พันกว่า ก็ไม่รู้ไอ้ที่มันขโมยไปจะขายได้กี่ร้อย แต่กรูต้องซ่อมหมดเป็นหมื่น หรือว่ามีใบสั่ง!!
ผมไปแจ้งความกับตำรวจ(ก็ได้แต่บันทึกประจำวัน) ตำรวจได้แต่บอก ฮะฮะ ไอ้น้องเอยสบายใจได้เองมีพวกเยอะแยะ วันก่อนที่โรงพยาบาลสุ1000
ก็โดนไป 5-6 คัน ผมจึงตรัสรู้ว่าไม่ได้มีแต่กรูคนเดียวเท่านั้น เลยลืมถามตำรวจว่าแล้วพี่ไม่มีมาตรการป้องกันเตือนภัยอะไรเลยหรือนอกจากตั้งด่านตั้งโตะใต้สะพานทุกวัน
ขอฝากบอกเตือนภัยให้รู้ทั่วกัน ไม่รู้ว่ายี่ห้ออื่นๆโดนด้วยหรือเปล่า
ข้อสังเกต/วิธีปฏิบัติเมื่อโดน
- หากรถวิ่งแล้วเข็มไมล์ไม่ขึ้น ท่านอาจโดนเข้าแล้ว ให้จอดรถลงมาดูใต้ท้องรถ ตรงปลายสุดของกระปุกเกียร์
(D-Max อยู่ด้านคนขับVigo อยู่อีกฟากหนึ่ง) ตัวไม่ใหญ่ไม่ยาว เท่าไอ้นั่น..คือหมายถึงประมาณหัวแม่เท้าผู้ใหญ่(กำนันไม่เกี่ยว)
ถ้ายังอยู่แสดงว่าเป็นที่สาเหตุอื่น
แต่ถ้าไม่อยู่เห็นแต่รูโบ๋ๆ แล้วมีน้ำมันเยิ้มออกมา หมายถึงนำมันเกียร์นะครับ
แสดงว่างานเข้าแล้วให้หาที่จอดรถที่ปลอดภัย โทรหาใครที่เชื่อถือได้ มาลากจูงรถเข้าศูนย์หรืออู่ซ่อมซะราคาไม่ถึง2หมื่น
อย่าดันทุรังขับเหมือนผม ปาเข้าไปเกือบแสน หรือถ้าจำเป็นต้องขับก็อย่าขับเร็ว หรือไกลมาก
แนวทางป้องกันไม่ให้ถูกขโมย
-ไม่จอดรถในที่เปลี่ยวไกลหูไกลตา(ควรให้ตา มานั่งเฝ้า)โดยเฉพาะแถวสุ1000 ส่งสัยไอ้ตัวใหญ่มันอยู่สุ1000
-ควรจอดรถคร่อมที่ชื้นแฉะ หรือ กองอุจจาระสุนัข (พอมันมุดใต้ท้องรถไปก็จะได้เปื้อนขี้หมาโดนบ่อยๆมันก็เข็ดไปเอง)
-แอบอยู่ ในรถพอมันมุดไปถอดก็ออกรถให้เหยียบหัว(แม่เท้า)แม่มเลยอย่าไปเหยียบหัวอื่น เดียวเราติดคุก
-หาน็อตอื่นมาเปลี่ยน(มันมีน็อตแค่ตัวเดียว) เช่นน็อตหกเหลี่ยมแล้วหาซีเมนต์อุดหัวน็อตซะ หรือเจียร์ตะไบหัวน็อตให้กลมมนถอดลำบากหน่อยซึ่งจริงๆ
แล้วตลอดอายุรถก็คงไม่ ได้ถอดอยู่แล้ว
-ให้ช่างหรือทำเองหาเหล็กฉากเหล็กแบนเจาะรูแล้วหาที่ยึด กะแท่นเกียร์ให้มันบังหัวน็อตซะอย่างน้อยให้ขโมยมันรู้ซึ้งถึงความลำบากซะ บ้าง
สุดท้ายนี้หากท่านรู้แล้วช่วยเผยแพร่ความรู้ให้เท่าทันพวกมิจฉาชีพ ก็ขอให้ทุกท่านปลอดภัย
ส่วนไอ้หัวขโมย หากชาติหน้ามีจริงถ้ามึงเกิดเป็นชายก็อย่าให้มีกระจู๋เกิดเป็นหญิงก็ขอให้รู ตัน