สวัสดีครับพี่น้องชาวสยาม ไม่มีอะไรมากครับเนื่องจากไม่มีที่ไปเวลาน้อยเลยหาที่ไกล้ตีเหยื่อเล่นแก้ห้าว พอดีไม่แห้วเลยเอามาให้ชมเล่น สั้น ๆ ภาพไม่ค่อยชัดเพราะใช้มือถือถ่าย
ผิดพลาดประการใดก็ขออภัยนะครับ
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ลัดเสนาบดี
วัดลัดเสนาบดี(วัดเกาะ) ตั้งอยู่ ณ บ้านไร่อ้อยโรงปลา หมู่ที่ ๗ ตำบลธรรมามูล อำเภอเมือง จังหวัดชัยนาท คุณป้าขันทองเล่าว่าในวัยเด็กเคยถามคุณตาว่าวัดลัดเสนาบดีทำไมถึงตั้งอยู่กลางเกาะ คุณตาจึงเล่าประวัติความเป็นมาของวัดให้ฟังว่า เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๕๓ สมเด็จกรมพระยาดำรง ฯ ดำรงตำแหน่งเป็นเสนาบดีกระทรวงมหาดไทยในปีแรก ได้ขึ้นไปตรวจราชการหัวเมืองเหนือเมื่อฤดูน้ำได้นำกฐินหลวง ไปทอดที่วัดธรรมามูลด้วยแล้วพักแรมอยู่ที่เมืองชัยนาท รุ่งเช้าออกจากเมืองชัยนาท ไปที่เขาธรรมามูลเวลานั้นน้ำกำลัง ไหลเชี่ยว เรือของพระองค์พ่วงเรือไฟไป ๒ ชั่วโมงจึงถึง แต่เมื่อไปถึงเขาธรรมามูล เห็นพวกกรรมการเมืองชัยนาทซึ่งมาส่งเมื่อตอนออกเรือไป เขามาคอยรับอยู่ที่ท่าวัดแล้ว ก็ประหลาดใจว่าเขามีแต่เรือแจวเรือพายทำไมจึงสามารถแข่งเรือไฟขึ้นไปถึงก่อนได้ จึงทราบว่ามีทางลัดแห่งหนึ่งเวลา ฤดูน้ำเรือเล็กๆลัดไปได้ เขาไปทางคลองลัดนั้นจึงไปถึงก่อน เมื่อขากลับ น้ำลดแล้วพระองค์เดินทางโดยเรือแม่ปะ เมื่อถึงปากคลองลัด เห็นท้องคลองสูงกว่าระดับแม่น้ำสัก ๕ ศอก จึงขึ้นดูคลองลัดสั่งให้เรือล่องมารับที่ ปากคลองข้างใต้ และต้องนั่งรอเกือบชั่วโมงหนึ่งเรือจึงมาถึงก็เกิด ความเลื่อมใสเห็นว่าถ้าขุดคลองลัดนั้นให้เรือใหญ่ที่บรรทุกสินค้าไปมาได้ ก็จะเป็นประโยชน์มาก เมื่อกลับจากตรวจราชการคราวนั้นแล้ว ต่อมาเผอิญ ลูกชาย (กลาง ) อิทธิดำรง ซึ่งได้ติดตามไปในคราวนั้นเสียชีวิต พระองค์ จะทำบุญอุทิศให้ ท่านนึกถึงคลองลัดที่เมืองชัยนาท จึงมอบเงิน ๑๐ ชั่ง ให้กรรมการจีนคนหนึ่ง ไปคิดอ่านขุดขยายคลองลัดนั้น เมื่อทำสำเร็จพระองค์ จึงขนานนามคลองให้เรียกว่า “ลัดเสนาบดี”
จำเนียรกาลต่อมา ได้ยินเขามาเล่าว่า ลัดเสนาบดี กว้างออกจนเรือค้าขายไปเดินทางนั้นหมด ก็ยินดีด้วยสมกับเจตนา ครั้นต่อมาสัก ๒๑ ปี พระองค์ขึ้นไปเที่ยวเมืองเหนือในรัชกาลที่ ๖ ล่องลงมาทางนั้นอีกครั้งหนึ่งมาถึงจังหวัดชัยนาท เห็นลัดเสนาบดีก็ตกใจ และเกิดความเสียใจด้วยกันทั้ง ๒ สถาน เพราะลัดเสนาบดีกว้างใหญ่กลายเป็นลำน้ำ แต่ลำแม่น้ำทางอ้อมเดิมตื้น กลายเป็นแต่ร่องน้ำ ทำให้วัดและบ้านช่องที่เคยอยู่ริมน้ำแต่ก่อนกลายเป็น วัดดอนบ้านดอน ห่างลำน้ำเห็นแต่หลังคาลิบๆ การทำบุญขุดคลอง ลัดเสนาบดี ออกจะกลายเป็นบาป
สาเหตุที่จะเกิดคลองเล็กๆขึ้น ลัดเสนาบดีทราบว่าสมัยก่อนในฤดูน้ำราษฎรใช้เรือพาย ถ้าพายจากปากคลองลัดท้ายน้ำไปยังปากคลองลัดเหนือน้ำถ้าเริ่มออกเรือตอนเช้า จะมาถึงฝั่งตรงข้ามตอนกินข้าวเพลพอดี ทั้งที่ระยะห่างถ้าตัดเป็นทางตรงไม่ถึงครึ่งกิโลเมตร เพราะฉะนั้นชาวบ้านจึงใช้วิธีเข็นเรือตัดตรงตามทางลัด นานๆเข้าก็เลยเกิดเป็นร่องน้ำตื้นๆขึ้น หลังจากสมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ได้ทรงขุดลัดเสนาบดีแล้วต่อมาอีก ๒๐ ปี ท่านได้เสด็จผ่านมาอีกครั้ง เห็นลัดเสนาบดีถูกน้ำเซาะเข้าจนกลายเป็นแม่น้ำ ท่านกล่าวว่าตกใจและเสียใจที่ลำน้ำเดิมตื้นเขินกลายเป็นร่องน้ำ บ้านและวัดกลายเป็นบ้านดอน วัดดอนไป ที่เห็นได้ชัดเจนคือ ระบบคมนาคมทางน้ำของประชาชนเดิม ที่อยู่ริมน้ำเก่าในฤดูแล้งน้ำแห้ง คมนาคมติดต่อกับภายนอกไม่สะดวก ภาวะนี้ได้เปลี่ยนแปลงไปเมื่อมีเขื่อนเจ้าพระยาเกิดขึ้น ประกอบกับการคมนาคมใช้ถนนเป็นหลัก จึงเป็นเหตุให้บริเวณแม่น้ำเดิมกลาย เป็นถิ่นที่อุดมสมบูรณ์ดีกว่าเดิม
ปัจจุบันลัดเสนาบดีเป็นเวิ้งน้ำที่มีทัศนียภาพที่สวยงดงามมาก มิได้ ใช้เป็นเส้นทางสัญจรแล้ว เนื่องจากการสร้างเขื่อน น้ำจึงไม่ได้ไหลแรง อย่างสมัยก่อน ช่วยให้ลำน้ำเดิมมิได้ตื้นเขิน และลำน้ำที่ลัดเสนาบดีจะนิ่งสงบ คล้าย ๆ หนองน้ำขนาดใหญ่
ผู้เล่า : นางขันทอง จันทร์กลิ่น
หนังสือตำนานพื้นบ้าน : อ.นลิน บุญธรรม