บทความนี้ แปลและเรียบเรียงโดย อัครพร จันทพันธ์ คอลัมนิสท์ประจำนิตรยสารเย่อกับปลา
เทคนิคเหยื่อปลอม Attracting & Triggering, The Balance Th
หรือ เทคนิคการตีเหยื่อปลอมให้ปลาสนใจหันมากินเหยื่อปลอมของเรานั้นเอง ต้องอ่านนะครับ ไม่อ่านเสียดาย แย่เลย ครับ
การตกปลาโดยใช้เหยื่อปลอมในบ้านเรามาในปีสองปีที่ผ่านมานี้ไม่ทราบว่าผมมีความรู้สึกไปเองเพียงคนเดียวหรือเปล่าแต่ผมมีความรู้สึกว่ามันขยายตัวตื่นเต้นตื่นตัวกันอย่างไรบอกไม่ถูกเหมือนกันผมเห็นรอกตีเหยื่อปลอมวางขายกันตามร้านอุปกรณ์ตกปลากันมากขึ้นเหยื่อปลอมยี่ห้อแปลกๆใหม่ๆก็เข้ามาชนิดที่ว่านับญาติกันไม่ทันเอาเลยทีเดียว ไหนจะบ่อตกปลาที่เปิดบริการขึ้นมาใหม่เพื่อมือเหยื่อปลอมโดยเฉพาะ ไหนจะเห็นผู้คนมากหน้าหลายตาที่ต่างทยอยเดินเข้าบ่อตกปลาประเภทที่ว่านี้มากขึ้นและกระจายออกไปในทุกเพศทุกวัย ผมว่าการตกปลาโดยใช้เหยื่อปลอมในบ้านเรากำลังเจริญเติบโตครับและเจริญเติบโตในอัตราที่น่าดูชมเสียด้วยไม่ไวและไม่ช้าจนเกินไปโตเร็วไปผมกลัวมันจะไปเหมือนการตกกุ้งครับ จะเขียนอะไรให้ท่านนักตกปลาที่รักของผมอ่านกันซักทีในชั่วโมงนี้ก็เห็นจะหนีเรื่องราวของการใช้เหยื่อปลอมไปลำบากเสียหน่อยยิ่งไอ้ผมต้องอาศัยข้อมูลดิบจากเว๊ปไซท์ของต่างประเทศเข้าไปด้วยหนีกันไม่ค่อยพ้นหรอกครับ ส่วนไอ้ครั้นจะพูดถึงเรื่องเทคนิคไอ้โน่นไอ้นี้เหมือนที่เคยแซมๆผ่านหูผ่านตาท่านนักตกปลามาบ้างบางทีมันก็น่าเบื่อซะจนกลัวท่านทั้งหลายจะว่าเอา จนมาเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ขณะที่ผมกำลังมึนกับการหาเรื่องราวที่น่าสนใจนำมาฝากท่านนักตกปลาบังเอิญผมได้ไปอ่านเอาเจ้าบทความบทหนึ่งซึ่งพออ่านไปจนจบความรู้สึกแรกเลยที่ผุดขึ้นมาในหัวผมก็คือนี่เหละใช่เลยคำตอบที่นักตกปลาหลายต่อหลายท่านเพียรพยายามค้นหาคำตอบมาแสนนานทุกอย่างได้ถูกรวบรวมเอาไว้ในบทความชิ้นนั้นโดยสิ้นเชิงไม่ว่าจะเป็นปัญหาในการตีเหยื่อปลอมอย่างเช่น ทำไมปลาไม่งับเหยื่อแต่มีความรู้สึกว่าปลาว่ายชนหรือว่ายตามเหยื่อตลอด ทำไมปลาถึงไม่กินเหยื่อเลยจนกระทั่งเรายกเหยื่อขึ้นจากผิวน้ำหรือว่ามันอยู่ไกล้ๆ ทำไมเหยื่อปลั๊คอย่างพวก Fat Rap ถึงตกได้แต่ปลาช่อนขนาดเล็กเสียเป็นส่วนใหญ่ในขณะที่เหยื่อยางอย่างเช่นหนอนหรือจิ้งจกยากมีความเป็นไปได้กับปลาช่อนขนาดยักษ์มากกว่า และอีกร้อยแปดพันเก้าปัญหาของการใช้เหยื่อปลอมผมว่าผมเจอคำตอบสำหรับท่านทั้งหลายและล่ะครับ
ไอ้เจ้าบทความนี้นั้นเค้ามีชื่อเป็นภาษาอังกฤษว่า The Attracting Triggering Concept ครับผมให้แปลเป็นไทยแบบตรงๆมันจะฟังแล้วเข้าใจยากครับผมเลยตั้งชื่อให้กับมันเป็นภาษาไทยซะใหม่ว่า ทฤษฏีไม่หกหรือไม้กระดกสำหรับการใช้เหยื่อปลอม เป็นไงครับฟังแล้วเป็นไทยดีมั๊ยครับ ส่วนทำไมต้องเป็นไม้กระดกหรือไม้หกนั้นรบกวนติดตามต่อไปอีกนิดครับท่าน
แนวคิดหรือทฤษฏีอันนี้นั้นผู้เขียนเค้ามีความมุ่งหมายที่จะให้ท่านนักตกปลาทั้งหลายที่ใช้เหยื่อปลอมได้เรียนรู้และทำความเข้าใจในเรื่องของการสร้างสมดุลย์ในการใช้งานเหยื่อปลอมปล่าวครับไม่ใช่ว่าลากเหยื่อแล้วเป๋ถึงต้องมานั่งสร้างสมดุลย์แต่เป็นการสร้างสมดุลย์ระหว่างสองปัจจัยด้วยกันคือหนึ่ง Attracting และ Triggering ครับ Attracting แปลเป็นไทยก็ประมาณความสามารถในการเรียกร้องความสนใจ ส่วน Triggering ถ้าเป็นไทยก็จะอยู่ในราวๆ ความสามารถในการที่จะทำให้ปลาตัดสินใจได้ว่านี่คือเหยื่อที่สามารถกินได้
เหยื่อปลอมและการใช้งานเหยื่อปลอมนั้นแฝงเอาไว้ด้วยคุณลักษณะทั้งสองอย่างข้างต้นในเหยื่อปลอมทุกตัวและการใช้งานทุกครั้งเพียงแต่ไม่ค่อยได้รับการสนใจหรือสนใจน้อยจนทำให้การใช้งานเหยื่อปลอมนั้นไม่บรรลุผลเท่าที่เราๆต้องการกัน
ว่าแล้วก็มาทำความรู้จักกับคุณลักษณะที่ฝรั่งเค้าเรียกว่า Attracting หรือความสามารถในการเรียกร้องความสนใจจากปลาล่าเหยื่อกันก่อนโดยเริ่มด้วย Attracting ตัวแรกซึ่งก็คือ
1 - เหยื่อปลอมที่มีขนาดใหญ่ แน่นอนอยู่แล้วว่าเมื่อเหยื่อปลอมที่ท่านนักตกปลาใช้นั้นมีขนาดใหญ่หรือมีช่วงลำตัวที่กว้างมันนเป็นจุดสนใจหรือทำให้ปลาล่าเหยื่อต่างๆสามารถจะมองเห็นมันได้อย่างชัดเจนกว่าเหยื่อที่มีขนาดเล็ก
2 - สีสรรค์ที่สดใสผิดไปจากธรรมชาติ สีที่เด่นชัดขึ้นมาจากสภาพแวดล้อมอย่างเช่นเหลืองไพล(เหลืองออกเขียว) หรือสีส้ม รับรองว่าโดดเด่นขึ้นมาจากพื้นหลังที่เป็นสีตุ่นๆแน่ ซึ่งนี่ก็เป็นอีกจุดหนึ่งที่จะเรียกร้องความสนใจจากปลาล่าเหยื่อต่างๆให้เข้ามาป้วนเปี้ยนไกล้ๆตัวเหยื่อได้เป็นอย่างดีประมาณตัวอะไรฟะเนี่ยสีแสบตาซะ
3 - แอ็คชั่นแบบราบเรียบหรือแบบเสมอต้นเสมอปลาย ก็คือประมาณว่าเหยื่อปลอมตัวหนึ่งถูกผลิดและออกแบบมาจากโรงงานให้ว่ายน้ำยังไงก็จะว่ายน้ำหรือมีแอ็คชั่นแบบนั้นไปตลอดเมื่อลากด้วยความเร็วสม่ำเสมอและไม่ไปโดนเข้ากับอะไร ตัวอย่างที่เห็นชัดในกรณีนี้ก็คืออย่างเช่นเหยื่อปลั๊คซักตัวหนึ่งหรือเหยื่อสปินเนอร์เบท ออกแบบมาให้ว่ายน้ำอย่างไรก็จะเป็นเช่นนั้นไปตลอดอายุการใช้งานของมัน ไอ้การว่ายน้ำแบบทื่อๆหรือแอ็คชั่นแบบสม่ำเสมอนี้นั้นก็สร้างความสนใจให้กับปลาล่าเหยื่อได้เช่นเดียวกันครับเพราะมันสามารถมองเห็นได้ง่ายครับและนอกจากนั้น ปลาเหยื่อที่ว่ายน้ำช้าๆและเกือบจะเป็นเส้นตรงนั้นง่ายครับสำหรับปลาล่าเหยื่อที่จะพุ่งเข้างับโดยที่จะไม่ผิดพลาด แต่ในหลายๆครั้งของการลากเหยื่อแบบนี้การค่อยๆว่ายน้ำเป็นเส้นตรงของเหยื่อปลอมก็ดูไม่สมเหตุสมผลนักที่จะอ้าปากงับเหยื่อตัวดังกล่าว ประมาณว่ามาแล้วเว๊ยหมูว่ายเป็นเส้นมาเลยเข้าไปงับเล่นหน่อยดีกว่า แต่พอเข้าไปไกล้ๆ อะไรฟะเนี่ยตูอ้าปากจะงับมันอยู่แล้วยังว่ายเฉยไม่แยกแสตูอีกไปดีก่าสงสัยเจอของปลอมเข้าแล้ว (อธิบายซะเห็นภาพมากไปป่าวครับเนี่ย) เอาล่ะไปต่อ
4 - เสียงที่ไม่เป็นไปตามธรรมชาติ เสียงนั้นเดินทางได้ดีในน้ำครับประมาณว่ามันจะดังกว่าอยู่บนบกเสียอีก เสียงเดินทางได้ดีในน้ำก็จริงแต่มันแย่ในเรื่องของทิศทางครับเพราะเราจะไม่สามารถจับทิศทางได้เลยว่ามันมาจากทางไหนอันนี้นักประดาน้ำเค้าทราบดีครับ เหยื่อปลอมหลายต่อหลายชนิดสามารถให้กำเหนิดเสียงได้ดังเอามากๆเลยทีเดียวเมื่อลากด้วยความเร็วที่สูง เมื่อปลาได้ยินเสียงที่เหยื่อปลอมต่างๆเหล่านี้สร้างขึ้นมันจะออกกันมาจากที่ซ่อนครับเพื่อมองหาที่มาแต่ก็อย่างที่ว่าแหละครับมันเหมือนมันดังมาจากรอบทิศทาง แต่ถึงอย่างไรเสียงก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งซึ่งสามารถเรียกร้องความสนใจจากปลาได้ดีครับ
5 -การลากเหยื่อด้วยความเร็วต่ำหรือช้า เหยื่อที่เคลื่อนที่ผ่านหน้าปลาล่าเหยื่อด้วยความเร็วที่ต่ำหรือช้าสำหรับปลาล่าเหยื่อแล้วนั้นนั่นเท่ากับว่าเป็นเหยื่อที่มันสามารถจัดการได้ง่าย แต่ถ้าหากเจ้าปลาล่าเหยื่อนั้นมีความรู้สึกว่าเหยื่อที่มันกำลังให้ความสนใจอยู่นั้นมันเคลื่อนที่ช้าเอามากๆเจ้าปลาล่าเหยื่อต่างๆมันก็จะทำแค่เพียงเอาจมูกดุนเหยื่อแต่ไม่งับครับ เรื่องนี้เรื่องจริงครับผมสังเกตุดูจากในตู้ปลาของผมที่มีพีค๊อกซ์อยู่ด้วยกัน 14 ตัวมันแค่เอาจมูกดุนๆจริงๆครับไม่อยากจะเชื่อแต่ก็ต้องเชื่อ
ทั้งหมดทั้งสิ้นที่ผ่านมานี้นั้นเป็นคุณลักษณะในด้านของ Attracting หรือความสามารถเรียกร้องความสนใจจากปลาล่าเหยื่อครับ แต่แค่เพียงคุณลักษณะที่สามารถสร้างจุดสนใจให้กับปลาล่าเหยื่อได้แต่เพียงอย่างเดียวมันไม่ทำให้ปลาล่าเหยื่อต่างๆไล่งับเหยื่อปลอมของเราหรอกครับมันอาจะจะแค่เพียงหันมามองหรือว่ายเข้ามาดูและหันหลังกลับไปมันยังต้องมีคุณลักษณะในด้านของ Triggering หรือคุณลักษณะในการที่จะทำให้ปลาตัดสินใจได้ว่านี่คือเหยื่อที่มันสามารถกินได้ ซึ่งคุณลักษณะในประเภทนี้นั้นจะประกอบไปด้วยนี่ครับ
1 - เหยื่อปลอมที่มีขนาดเล็กหรือเหยื่อขนาดเล็ก เรื่องจริงของการตกปลาด้วยเหยื่อปลอมก็คือว่าเหยื่อปลอมขนาดเล็กนั้นมักจะใช้งานได้ผลดีกว่าเหยื่อปลอมที่มีขนาดใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบริเวณที่สภาพน้ำใส เหยื่อตัวใหญ่ปลาเห็นได้ง่ายกว่าก็จริงแต่นั้นก็ทำให้ปลาสามารถจับความผิดปรกติที่มีของเหยื่อตัวดังกล่าวได้ง่ายขึ้นไปอีกด้วยเช่นกัน และนั่นอาจเป็นสาเหตุให้ปลาแปลความหมายในสิ่งผิดปรกติที่มันมองเห็นว่าเป็นสิ่งที่มันไม่สมควรเอาสุขภาพของเหงือกและฟันเข้าไปเสี่ยง เหยื่อปลอมที่มีรูปร่างผอมเพรียวนั้นเป็นที่ต้องการของปลาล่าเหยื่อมากกว่าเหยื่อปลอมที่มีลำตัวค่อนข้างหนา ส่วนเหตุที่เป็นเช่นนั้นเพราะอะไรหรือครับเหยื่อหรือปลาเล็กที่มีรูปร่างผอมและยาวนั้นมันกินและกลืนได้ง่ายกว่านั่นเองครับเพราะปลาเล็กส่วนใหญ่ที่มีรูปร่างเช่นนี้ยกตัวอย่างง่ายๆปลาช่อนอ่ะ มันไม่มีครีบตรงกระโดงที่แข็งและคมซึ่งสามารถทำร้ายลำคอของปลาล่าเหยื่อต่างๆได้ผิดกับปลาลำตัวกว้างอย่างปลานิลหรือปลาหมอเจ้าปลาลำตัวกว้างเหล่านี้การกลืนพวกมันไม่ใช่เรื่องง่ายๆครับตำคออยู่พักใหญ่เลยแหละผมว่า ด้วยเหตุนี้ปลาใหญ่ๆหรือปลาที่มีอายุเยอะจึงมักชอบอะไรที่มันลื่นๆคอมากกว่าปลาอย่างปลาหมอหรือปลานิล ซึ่งนี้ก็เป็นอีกสาเหตุซึ่งทำให้พักนี้เราเห็นมีแต่เหยื่อปลอมตัวยาวๆออกวางขายกันมาก
2 -สีของเหยื่อปลอมที่เป็นธรรมชาติ และสีที่ออกเงาๆ เหยื่อตามธรรมชาติของปลาล่าเหยื่อต่างๆมักจะมีสีที่กลมกลืนไปกับสภาพแวดล้อมที่พวกมันอยู่อาศัยอย่างเช่นพวกที่อยู่อาศัยบริเวณท้องหรือก้นแหล่งน้ำก็มักจะมีสีออกคล้ำๆ น้ำตาลๆ หรือไม่ก็เขียว ส่วนหากเป็นพวกที่หากินอยูบริเวณผิวน้ำอย่างเช่นปลาเล็กปลาน้อยต่างๆก็มักจะมีสีออกเงินๆแววๆซึ่งใช้ในการพรางตัวของมันได้อย่างดีเมื่อต้องอยู่ไกล้กับบริเวณที่มีการสะท้อนของแสงแดดกับผิวน้ำ เหยื่อปลอมส่วนใหญ่จึงถูกออกแบบมาให้มีสีไปในสองแนวทางที่ว่านี้คือไม่สีออกตุ่นๆคล้ำๆก็ออกเงาๆแววๆไปเลย
3 - การเคลื่อนที่หรือแอ็คชั่นที่ไม่สามารถคาดเดาได้หรือแบบสุ่ม ทำไมปลาล่าเหยื่อขนาดใหญ่ๆหรือการที่จะให้ตกปลาได้เป็นจำนวนมากๆเราถึงต้องมีการสร้างแอ็คชั่นให้กับเหยื่ออย่างเช่นกระตุกไปกระตุกมาบ้างล่ะหรือลากๆหยุดๆ เหตุที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะว่าในโลกกลมๆใบนี้ไม่มีปลาเล็กๆหรือสิ่งมีชีวิตเล็กๆตัวไหนว่ายน้ำเป็นเส้นตรงไปตลอดและด้วยความเร็วสม่ำเสมอครับ การเคลื่อนที่ของพวกสัตว์น้ำเล็กๆเหล่านี้เป็นไปโดยการสุ่มครับเดี๋ยวซ้ายบ้างขวาบ้างแล้วแต่อารมณ์มันครับเบื่อๆก็ว่ายถอยหลังซะอย่างนั้นปลาล่าเหยื่อต่างคุ้นเคยกับอาการเอาแน่เอานอนไม่ได้ของเหยื่อมันมากกว่าที่จะมาว่ายเป็นเส้นตรงทื่อๆอย่างที่เราพยายามทำให้มันคุ้นเคย เหยื่อปลอมที่มีคุณลักษณะในข้อนี้มากที่สุดเห็นจะหนีไม้พ้นพวกเหยื่อยางและเหยื่อประเภทจิ๊ก เพราะแอ็คชั่นที่เหยื่อพวกนี้สร้างออกมานั้นมันไปเกี่ยวเนื่องกับสภาพใต้น้ำซึงแน่นอนครับอะไรบ้างก็ไม่รู้และเมื่อหัวจิ๊กต้องขึ้นเนินใต้น้ำบ้างตกหลุมใต้น้ำบ้างไปชนกันไอ้โน่นกับไอ้นี่ใต้น้ำบ้างแอ็คชั่นที่ออกมามันนก็จะคนละเรื่องกับเหยือปลั๊คซักตัวที่ถูกลากผ่านน้ำที่ไม่มี่อุปสรรคไดๆ
4 - เสียงตามธรรมชาติ ว่าไปแล้วตามธรรมชาติจริงๆของสัตว์ทั้งหลายที่รู้ตัวว่าวันนึงมันจะต้องถูกชาวบ้านเข้าจับกินเป็นอาหารมันจะไม่พยายามสร้างเสียงไดๆขึ้นมาเพื่อให้ตัวของมันกลายเป็นแฮ๊ปปี้มิลก่อนเวลาอันควรหรอกครับหรือถ้าในบางตัวที่อดกับเข้าไม่ได้จริงๆก็อาจจะมีเสียงเล็ดลอดออกมาบ้างนิดหน่อยซึ่งแน่นอนว่าเสียงที่เจ้าสิ่งมีชีวิตที่อยู่แถวล่างๆของห่วงโซ่อาหารนี้ทำขึ้นมามันต้องเป็นไปในรูปที่ไม่เป็นแบบแผนหรือแบบสุ่มหรือตูนึกอยากจะส่งเสียงก็ส่งเสียง ซึ่งผิดกับเสียงที่ได้จากเหยื่อปลอมครับที่มันจะดังอยู่ตลอดและไม่เปลี่นแปลงหากเราไม่เปลี่นจังหวะหรือความเร็วในการลากเหยื่อ เพราะฉะนั้นถ้าเทียบกันแล้วระหว่างเหยื่อปลอมที่สามารถสร้างเสียงได้กับเหยื่อปลอมที่ไม่สามารถสร้างเสียงได้ปลาล่าเหยื่อจะเกิดอารมณ์อยากจะงับเหยื่อที่ไม่มีเสียงมากกว่าครับ(แต่อย่าลืมว่าเสียงเป็นตัวเรียกร้องความสนใจนะครับเดี๋ยวเรามาสรุปกันตอนท้าย)
5 - การกรอสายหรือลากเหยื่อด้วยความเร็วสูง เหยื่อปลอมที่เคลื่อนที่ผ่านหน้าปลาล่าเหยื่อไปด้วยความเร็วสูงมีความหมายแค่เพียงประการเดียวครับสำหรับเจ้าปลาล่าเหยื่อ มันกำลังจะหนีแว๊วววต้องจัดการ
เป็นไงครับ Attracting และ Triggering ไม่ต้องพิจรณาให้มันมากมายแต่ประการไดอ่านมาแค่นี้ท่านนักตกปลาทั้งก็คงจะเริ่มทราบกับแล้วใช้มั๊ยครับว่าไอ้เจ้าปัจจัยทั้งสองที่ผมว่ามานี้นั้นมันคนละเรื่องเดียวกันเลยประมาณว่า Attracting ว่าขาว ไอ้เจ้า Triggering ก็จะว่าดำไปซะซึ่งนี่แหละครับที่ผมเอามันมาเปรียบกับไม้กระดกหากเราเลี้ยงให้ไม้กระดกสมดุลย์มันก็จะไม่เอนไปข้างไดข้างหนึ่งเปรียบได้กับหากเราเลี้ยง Attracting และ Triggering ซึ่งอยู่กันคนละปลายของไม้กระดกให้มันสมดุลย์ผลที่ได้ก็คือความสำเหร็จในการตกปลาของเราครับ เหยื่อปลอมที่เพียบพร้อมไปด้วยคุณลักษณะ Attracting ก็จะไม่มีคุณลักษณะในเรื่องของ Triggering เลย เรียกร้องความสนใจจากปลาได้ดีจริงครับแต่พอปลาเข้าไกล้แล้วก็สะบัดหางหนีเพราะมันคิดว่าไม่น่าจะกินได้อันนี้ก็ใช้ไม่ได้ ส่วนเหยื่อที่เพียบพร้อมไปด้วยคุณลักษณะในเรื่องของ Triggering ปลาเห็นแล้วอยากจะงับใจแทบขาดก็จริงครับแต่มันจะมีประโยชน์อะไรหากเจ้าปลาล่าเหยื่อเหล่านั้นหาเจ้าเหยื่อปลอมที่ว่านี้ไม่เจอซักที มาถึงตอนนี้ก็เป็นหน้าที่ของท่านนักตกปลาทั้งหลายและล่ะครับว่าจะผสมผสานปัจจัยต่างๆให้เข้ากันได้อย่างไรจึงจะบังเกิดผลซึ่งเป็นที่น่าพอใจที่สุดกับตัวท่านเอง ยกตัวอย่างประสพการณ์ตรงของผมเองเลยแล้วกันนะครับเพื่อจะทำให้ท่านนักตกปลาทั้งหลายเข้าใจภาพรวมและการนำเอาแนวคิดที่ว่านี้ไปใช้ได้ง่ายขึ้นครั้งหนึ่งผมไปตกปลากะพงกับเค้านี่แหละที่บ่อพี่หนุ่มไม้แรกของผมเป็นปลายางยอดฮิตสีเขียวปี๋ลากไปมาอยู่นานทุกอย่างเงียบครับซึ่งเท่ากับว่าทั้ง Attracting และ Triggering ของเจ้าปลายางตัวนี้ยังไม่เข้าขั้นทั้งคู่ผมจึงมีความคิดที่จะเพิ่มคุณลักษณะทางด้าน Attracting ให้กับเหยื่อผมก่อน(ซึ่งควรเริ่มที่เจ้านี้แหละครับอย่าเพิ่งไปเพิ่มที่ Triggering ก่อน) ผมจัดการเปลี่ยนจากปลายางสีเขียวเป็นกรั๊บ(หนอนหางโค้งตัวสั้นๆ) นั่นคือยังคงคุณลักษณะเหยื่อตัวเล็กตามแบบคุณลักษณะที่ดีทางด้าน Triggering ไว้แต่ผมเพิ่มคุณลักษณะทางด้าน Attracting เข้าไปครับโดยคราวนี้ สีเป็นสีชมพูสด ได้คะแนนทางด้าน Attracting ไปเต็มๆ ลากไปลากมาอยู่สองสามรอบมีความรู้สึกว่ามีปลาให้ความสนใจเหมือนกันครับนุงๆกระตุกกระตุกที่ปลายสายแต่ไม่ยอมงับซักที ซึ่งอันนี้เป็นไปตามตำราเป๊ะผมใช้เหยื่อสีผิดธรรมชาติเพื่อเรียกร้องความสนใจจากปลาผมทำสำเหร็จในเรื่องเรียกร้องความสนใจครับแต่ขณะนี้ไม้กระดกของผมเอียงมาทาง Attracting เต็มๆเลยมันเลยแค่เอาจมูกมาดุนๆเฉยๆเพราะด้วยความที่ผมใช้สีที่ผิดธรรมชาติเยอะปลาเลยไม่กล้างับเหยื่อซึ่งตอนนี้น้ำหนักทาง Triggering นั้นเบามากผมต้องหาทางเพิ่มน้ำหนักทางด้านนี้เข้าไปครับ ผมลองเปลี่ยนความเร็วในการลากเหยื่อให้เร็วขึ้นซึ่งนี่เป็นคุณลักษณะข้อหนึ่งของทาง Triggering ครับและมันได้ผลทันทีเลยทีเดียวปลากะพงฉวยเหยื่อเข้าเต็มปากและเพื่อเป็นการยืนยันทฤษฏีก็ต้องมีตัวที่สองและสามตามมาเพื่อความแน่ใจ สรุปเลยคือครั้งแรกผมเพิ่มสีเพื่อเรียกร้องความสนใจจากปลาซึ่งได้ผลในระดับที่ดีเยี่ยมสำหรับในแง่ของการเรียกร้องความสนใจแต่ก็อย่างที่ว่าไว้ในตอนต้นแหละครับเมื่อด้านไดด้านหนึ่งมากไปมันก็เสียสมดุลย์ผมเลยต้องชดเชยด้วยการลากเหยื่อให้ไวขึ้นเพื่อเพิ่มคุณลักษณะในการที่จะทำให้ปลากะพงตัดสินใจงับเหยื่อโดยทำเหมือนว่าเหยื่อกำลังจะหนีและปิดโอกาศในการตัดสินใจของปลาให้น้อยลง ซึ่งนั้นเป็นการเพิ่มน้ำหนักของไม้กระดกอีกข้างให้มากขึ้นจนมันสมดุลย์พอดีผลที่ออกมาก็คือปลากะพงที่อยู่ที่ปลายสายครับ
เป็นไงครับอ่านแล้วอาจงงๆนิดนึงผมเขียนเองบางบรรทัดผมยังงงๆเองเลยการไล่เหยื่อหรือไล่รูปแบบของการใช้เหยื่อปลอมในลักษณะนี้ผมว่ามันใช้งานได้ดีจริงๆครับถ้าท่านนักตกปลาท่านไดอ่านแล้วยังไม่ค่อยเข้าใจรบกวนให้อ่านอีกรอบครับโดยเฉพาะอย่างยิ่งนักตกปลาที่อายุยังอยู่ในช่วงเยาวชนของชาติ ค่อยๆอ่านค่อยๆทำความเข้าใจเสียเวลานิดนึงแต่คุ้มครับ และต้องขออภัยสำหรับภาษาอังกฤษในฉบับนี้ที่พ่นเอาไว้ซะเพียบเลยคือให้เขียนเป็นภาษาไทยมันจะยาวซะเปล่าๆน่ะครับเลยต้องขออภัยเอาไว้ด้วย อ่านแล้วก็ลองไล่เหยื่อเอาตามแบบที่ว่านี่แหละครับไล่โดดไปโดดมาระหว่างสองข้างของไม่กระดก เหยื่อปลอมประเภทนึงเรามีครบไม่ทุกสีไม่เป็นไรครับหาคุณลักษณะด้านอื่นทดแทนเอา ก่อนจากกันในฉบับนี้ก็ตามธรรมเนียมครับ WWW.NCBF.COM มีเรื่องราวดีๆให้ท่านนักตกปลาทั้งหลายได้เข้าไปแสวงหาอ่านกันเหมือนเช่นในทุกฉบับสำหรับฉบับนี้ขอบคุณท่านนักตกปลาทั้งหลายที่ติดตามอ่านจนจบและสวัสดีครับ
มันดีจริงๆนะครับท่านม่ายได้โม้
การเลียนแบบปลาที่มีสีสันน่าสนใจและบาดเจ็บ (Fat Rapping)
วิธี Fat Rapping ใช้ในการล่าปลาที่เคลื่อนที่ไปมาอย่างรวดเร็วอยู่ตามชายฝั่ง เช่น ตามพงหญ้า กอบัว พืชลอยน้ำชนิดต่าง ๆ ซึ่งสามารถใช้เป็นที่หลบซ่อนตัวของเหล่าปลานักล่า
เหยื่อที่ใช้ในการนี้อาจแบ่งแยกได้เป็น 3 ชนิด คือ
เหยื่อชนิดดำตื้น
ส่วนมากแล้วมักจะใช้ในขณะที่พระอาทิตย์กำลังจะตกดิน เพราะเหยื่อชนิดนี้จะ เพราะเหยื่อชนิดนี้จะมีสีสันกระจ่างเป็นมันวาว ลองทดสอบดูก่อนว่าบริเวณดังกล่าวที่จะหย่อนเหยื่อมีที่กำบังใต้น้ำชายฝั่งหรือไม่
จากนั้นทำการหย่อนเหยื่อลงไปในทุก ๆ ซอก และทุก ๆ ช่อง ที่คิดว่าอาจจะมีปลานักล่าซ่อนตัวอยู่ ต่อจากนั้นก็กู้สายเบ็ดขึ้นจะด้วยวิธีการใดก็ตาม เช่น สาวสายที่มีเหยื่อ Shallow Runner Fat Rap กลับมาหาตัวอย่างรวดเร็ว การกระทำอย่างรวดเร็วเช่นนี้สามารถก่อให้เกิดแสงวาบขึ้นมาทำให้ปลาสนใจ หากว่าพื้นน้ำอยู่ในสภาพเรียบสงบก็จงปล่อยให้เหยื่อลอยอยู่อย่างน้อย 2 - 3 วินาที จึงค่อยกรอสายเบ็ดเข้ามา
เหยื่อชนิดดำลึก
ส่วนมาแล้วจะใช้เหยื่อชนิดนี้ในเวลาที่พระอาทิตย์เริ่มขึ้นสูงจากขอบฟ้า เพราะเหยื่อชนิดนี้จะมีสีสันที่ออกจะทึบ เมื่ออยู่ในน้ำจะดูเป็นเงาดำ เหยื่อ Deep Runner Fat Rap จะมีตัวถ่วงในตัวเหยื่อเอง และเหยื่อจะจมลงไปอย่างรวดเร็วได้ 10 - 12 ฟุต
วิธีใช้ก็ควรจะลากเหยื่อให้ช้าลงกว่าแบบแรกโดยการกระตุกสายที่ปลายคันเบ็ดเรื่อย ๆ และพยายามปล่อยสายให้ยาวพอที่เหยื่อจะจมอยู่ในระดับใต้พื้นน้ำ
เหยื่อชนิดที่มีขนาดจิ๋ว
เหยื่อชนิดนี้ส่วนใหญ่จะมีสีสันลวดลายที่แพรวพราวหรือเรียกอีกอย่างว่าสีสันที่ฉูดฉาดเกินความเป็นจริง แต่ที่สำคัญคือมีขนาดที่เล็กจึงเหมาะสมที่จะใช้อุปกรณ์ขนาดเล็ก สายเบ็ดเล็ก
เป็นเหยื่อที่นักตกปลาส่วนใหญ่จะมีไว้สำรองในกรณีที่เหยื่อที่กล่าวข้างต้นทั้งสองชนิดใช้ไม่ได้ผล อาจเป็นเพราะว่าปลานักล่ามีขนาดเล็กและเหยื่อที่ใช้มีขนาดใหญ่โตจนดูน่ากลัวมากกว่าน่ากิน เหยื่อชนิดนี้จึงเหมาะสมและมีผลเต็มที่เพราะมันมีลักษณะรูปร่างคล้ายคลึงกับที่ปลาส่วนมากมักใช้เป็นอาหาร เหยื่อชนิดนี้รู้จักกันในชื่อ Mini Fat Rap
ที่กล่าวมาทั้งหมดเป็นตัวอย่างการใช้งานของเหยื่อปลาปลอมในเงื่อนไขต่าง ๆ กัน ส่วนองค์ประกอบในการนำไปใช้งานจริง ๆ นั้น เมื่อเพื่อน ๆ นักตกปลาแต่ละคนได้นำไปใช้แล้วอาจจะได้ผลลัพธ์ที่แตกต่างกันไป
ปลามองเห็นเหยื่อได้อย่างไร?
นักตกปลาหลายคนถือว่า การใช้เหยื่อปลอมนั้นท้าทายมากกว่าเหยื่อจริง บางคนก็บ่นว่ามันแพงเกินไป และส่วนใหญ่ที่สุดแล้วก็ใช้เหยื่อทั้งสองประเภทสลับกันไม่ว่าอย่างไรก็ตาม เหยื่อปลอมนับเป็นอุปกรณ์ตกปลา อย่างหนึ่งที่เราคงปฏิเสธได้ยาก อย่างน้อยที่สุดมันก็สะดวกในการพกพา ยังไม่ต้องพูดถึงว่ามันอาจมีประสิทธิภาพ เหนือกว่าเหยื่อสดหรือเหยื่อหมักในบางสถานการณ์
ปัญหาใหญ่อย่างหนึ่งในเรื่องนี้ก็คือนักตกปลาน้อยคนนักจะมีหลักเกณฑ์ในการเลือกซื้อเหยื่อปลอมอย่าง แท้จริง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลักเกณฑ์ในการเลือกสีสันของเหยื่อ ไม่ว่าจะเป็นปลั๊ก สปูน สปินเนอร์ จิ๊ก หรือพวกเหยื่อยาง ส่วนมากแล้วจะซื้อตามใจชอบ หรือไม่ก็ว่าตามกันไป หากสีไหนได้ผลขึ้นมาก็จะมีการเลื่องลือกันอย่าง ไม่มีที่สิ้นสุด จนทำให้เหยื่อแบบนั้นสีนั้น ขาดตลาดอยู่เนืองๆ
อันที่จริงการปรากฏของสีของเหยื่อที่อยู่ใต้น้ำ แตกต่างจากสีที่เราเห็นบนบกมาก น้ำเป็นตัวกรองแสงที่มี ประสิทธิภาพยอดเยี่ยม และคลื่นแสงของดวงอาทิตย์จะเจาะทะลุทะลวงน้ำได้ไม่เท่ากัน แสงอาทิตย์ประกอบด้วยสี 7 สีอย่างที่รู้กันคือม่วง คราม น้ำเงิน เขียว เหลือง แสด แดง ในบรรดาคลื่นแสง เหล่านี้สีแดงเจาะทะลุน้ำได้น้อย ที่สุดไม่ว่าน้ำจืดหรือน้ำเค็ม และในความลึกเกินร้อยฟุตลงไปก็จะมีเพียงคลื่นแสงสีน้ำเงินกับเขียวเท่านั้นที่ลงไปถึงสภาพดังกล่าว มีผลต่อสีของวัตถุใต้น้ำมาก สีของเหยื่อปลอมจะไม่เหมือนสีที่เราเห็นในร้านขายอุปกรณ์ตกปลา เมื่อมันอยู่ในน้ำ
นักวิทยาศาสตร์ได้ค้นพบว่า สีแดงนั้นจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลในความลึกแค่สิบฟุตอันเป็นความลึกที่เหยื่อตกปลาน้ำเค็มเกือบทุกชนิดร่อนลงถึง ฉะนั้นถ้าใครคิดว่าเหยื่อของตนเย้ายวนใจปลาเพราะมันมีหัวแดงโร่ ก็ต้อง ปรับความเข้าใจเสียใหม่ ในระดับยี่สิบฟุตนั้นสีแดงกลายเป็นสีดำสนิทไปเลย ในขณะที่สีส้มกลายเป็นสีน้ำตาลเข้มเป็นที่แจ่มชัดว่าจิ๊กสีจัดจ้านทั้งปวงไม่มีความหมายในความลึกระดับนี้ เลยระดับหกสิบฟุตไปแล้ว แม้แต่สีส้มก็ กลายเป็นสีดำ สีเหลืองกลายเป็นสีขาว ส่วนสีน้ำเงินและเขียวจะเปลี่ยนไปเพียงเล็กน้อย
บริษัทผลิตเหยื่อรู้เรื่องนี้มานานหลายปีแล้ว จึงหันมาใช้สีสะท้อนแสงหรือที่เรียกว่าฟลูออเรสเซนต์มาทา เหยื่อบางรุ่นจากนั้นก็ขายให้นักตกปลาในราคาที่แพงกว่าเหยื่อที่ทาสีธรรมดา สีฟลูออเรสเซนต์นั้นสามารถคงสีเดิม ได้ถึงในระดับความลึก 150 ฟุต อย่างน้อยนักวิทยาศาสตร์ก็ลงไปพิสูจน์มาแล้วด้วยตาตัวเอง
การใช้เหยื่อฟลูออเรสเซนต์นั้นทำให้ปลาเห็นเหยื่อง่ายขึ้นอย่างแน่นอน แต่ต้องอยู่ในระยะที่ไม่ไกลเกินไปนัก นักวิทยาศาสตร์ได้ค้นพบอีกว่าน้ำนั้นไม่ได้กรองแสงในแนวดิ่งอย่างเดียว แม้แต่ในแนวราบก็กรองแสงและ ลบสีชนิดต่างๆทิ้งไปด้วย พูดอีกนัยหนึ่งก็คือ ยิ่งเหยื่ออยู่ไกลสายตาเท่าใด สีของมันก็ยิ่งถูกบิดเบือนเท่าน้น ข้อนี้บริษัทผลิตเหยื่อไม่เคยเอ่ยถึง
มีการทดลองในเรื่องนี้กับเหยื่อปลอมสีส้มสะท้อนแสง ซึ่งเป็นสีที่นิยมกันมากสีหนึ่ง เมื่อมองจากระยะประมาณ 50ฟุต สีของมันกลายเป็นสีน้ำตาลเข้มแบบช็อกโกแลต ใกล้เข้ามาในระยะ15-20 ฟุตเหยื่อจึงเปลี่ยนเป็นสีส้ม ตามเดิม และสว่างขึ้นเรื่อยๆเมื่อใกล้เข้าไปอีก สภาพเช่นนี้เกิดขึ้นในความลึกทุกระดับและเหมือนกันทั้งน้ำจืดและน้ำเค็ม
หลายคนคงเคยพบสภาพที่ปลาตามเหยื่อมาจากมุมไหนก็ไม่รู้ แต่พอเข้ามาถึงระยะ 4-5 ฟุต ก็แฉลบหนี ออก ไปทันทีเป็นไปได้ไหมว่าตอนที่ปลาเห็นเหยื่อครั้งแรกจาก ที่ไกลนั้น มันเห็นเป็นสีดำหรือน้ำตาล พอไล่กวด มาจะทันดันกลายเป็นสีแสดส้มสว่างโร่ จึงตกใจเผ่นหนีเกือบไม่ทัน
ในทางตรงกันข้าม ลักษณะเช่นนี้จะไม่เกิดขึ้นกับเหยื่อสีคล้ำๆธรรมดา หรือเหยื่อที่ไม่สะท้อนแสงทั้ง หลาย แม้ว่าในระดับความลึกเกิน10 ฟุตไปแล้วสีของมันจะเปลี่ยนไป แต่ไม่ว่าปลาจะอยู่ไกลหรืออยู่ใกล้ก็จะ เห็นเหยื่อเป็นสีเดิม
ครั้งต่อไปลองใช้เหยื่อขี้เหล่ดูบ้างสิครับ ท่านอาจจะตกใจและแปลกใจตัวเอง ที่ไม่เคยนึกชอบมันมาก่อนเลย แต่มันเวิร์คอย่างไม่คาดติด
ที่โพสต์มาทั้งหมดนี้คัดลอกมาจาก นิตยสาร "ตกปลา" ปีที่ 16 ฉบับที่ 53 เดือน พฤษภาคม-มิถุนายน 2545. เขียนโดย...พันศึก สู้ปันสิน ถ้าข้อความข้างต้นทั้งหมดนี้มีส่วนดีที่เป็น ประโยชน์กับส่วนรวม ผมผู้โพสต์ ขอมอบสิ่งที่ดีเหล่านั้นให้กับท่านผู้เขียนและหนังสือที่ตีพิมพ์ แต่ถ้าบทความข้างต้นมีข้อผิดพลาดประการใดผมผู้ โพสต์ขอน้อมรับและขออภัยมา ณ.ที่นี้ด้วยครับ.
ผมไปอ่านเจอมาครับ หวังว่าจะให้ความรู้กับน้าๆ ทุกท่านนะครับผม
เครดิต pla-game.com และ พี่บอย fishing4you