หน้าแรก|กระดาน|รีวิว|ประมูล|ตลาด|เปิดท้าย

ดำน้ำดูปลาแล้วก็ตกปลาขึ้นมาดู ณ. เสม็ด

มาถึงบ้านเพตอนช่วงเที่ยง ๆ รอไม่นานเรือจากที่พักก็มารับ ที่ตลกของทริปนี้ก็คือ แต่เดิมตั้งใจว่าจะไปพักที่อ่าวช่อ ซึ่งผมก็ได้จองที่พักไว้เสร็จเรียบร้อย โอนมัดจำเป็นครึ่งนึงของค่าห้องไปเรียบร้อยแล้วด้วย มีอยู่วันนึง ผมโทรถามที่พักว่ามีเรือรับส่งจากบ้านเพถึงที่พักโดยตรงไหม ทางที่พักบอกว่ามี ผมลองย้ำถามไปว่า "ก็คือถึงที่อ่าวช่อเลยใช่ไหมครับ" ทางที่พักตอบ "ก็มาถึงเสม็ดแกรนด์วิวเลยล่ะค่ะ" เอ้ะ... ยังไง ก็เลยลองเสิชร์ในกูเกิลแมปตรง ๆ เพื่อดูว่า ตกลงที่พักเรามันอยู่อ่าวช่อจริง ๆ ใช่ไหม และให้ตายเถอะ.... ผมจองที่พักผิดครับ ที่พักที่จองไว้อยู่หาดทรายแก้ว แต่ก็ไม่เป็นไร เพราะเดี๋ยวเราก็เช่ามอเตอร์ไซค์ขับเที่ยวรอบเกาะได้ แถมคราวนี้เราอยู่ใกล้แหล่งของกินด้วย อย่างน้อยก็เดินหาซื้ออะไรกินเล่นได้ ถือซะว่าเปลี่ยนบรรยากาศจากคราวที่แล้ว

มาถึงวันแรก ยังไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอันนัก หลังจากเดินหาร้านอร่อยแถว ๆ ที่พักก็ลงเล่นน้ำกัน ซึ่งก็ถือเป้นโอกาสดีในการทดลองอุปกรณ์กันน้ำระดับโลก ไม่ใช่เฮาส์ซิ่งกล้อง แต่เป็นถุงแกงครับ ถุงแกง + หนังยางวง และนี่ก็คือภาพถ่ายใต้น้ำภาพแรกของผม

พอตกเย็นก็คว้าคันเบ็ดไปเดินดุ่ม ๆ อยู่แถว ๆ โขดหินสุดขอบหาด ได้เวลาลุยแล้ว

ผลก็คือกินแห้วตามระเบียบครับ เสียเหยื่อจิ๊กไปหนึ่งตัว เห็นว่ามีปลาเล็กปลาน้อยอยู่ริมโขดหิน ก็ลองเอาเบ็ดโสกลงไป เบ็ดโสกก็ยังติดหินขาดไปอีก

เช้าวันที่สอง วันนี้เราไปดำน้ำกันครับ มีคลิปมาให้ชมกันด้วยแหละ

กลับมาจากดำน้ำ หลังจากล้างตัวเสร็จ แม่ผมหลับปุ๋ยอยู่ในห้อง ส่วนผมคว้าคันเบ็ดชุดเล็กที่ปลายสายผูกเบ็ดตัวจิ๋วขนาดพอ ๆ กับตัวเบ็ดของเบ็ดโสก ประกอบชุดสายหน้าแบบทุ่นลอย(ไม่ได้ถ่ายมาครับ)แล้วก็คว้าถุงกุ้งสดที่หั่นเตรียมไว้เมื่อคืน เมื่อวานเย็นตอนตีเหยื่อปลอม เห็นปลาเล็กอยู่ในน้ำหลังดำ ๆ ดูขนาดไซส์มันสามารถฮุบเบ็ดโสกได้ แต่มันไม่ฉวยเลย แบบนี้ต้องเจอเหยื่อสด

รับชมครับ 

มาแล้วครับ ปลาทะเลตัวแรกในรอบหลายปีของผม ไม่ใช่เก๋า ไม่ใช่กระพง เพราะมันคือปลาสลิดหิน

ตัวที่สองตามมาติด ๆ ครับ ปลาสลิดหินอีกเช่นเคย



ขอบคุณที่ตามชมครับผม

ตัวแรกเป็นปลาสลิดหิน ตัวที่สองก็ปลาสลิดหิน แน่นอนว่าตัวที่สามก็ยังเป็นปลาสลิดหิน สายพันธุ์ปลาที่เยอะที่สุดในทะเลไทย

เช้าวันที่สาม ออกลุยแต่เช้าครับเช้านี้

ลองดัดแปลงเอาเบ็ดโสกที่ไม่ได้ใช้แล้วมาทำเป็นสายหน้าดู ได้ผลทันทีกับปลาสลิดหินตัวแรกของเช้านี้

คราวนี้ลองเหวี่ยงเหยื่อออไปไกลจากแนวหินอีก ได้ผลทันทีกับปลาสลิดหิน เป็นคนละสายพันธุ์กับที่ได้เมื่อกี้นี้

หลังจากนั้นก็เก็บของกลับที่พัก วันนี้ขับมอเตอร์ไซค์เที่ยวรอบเกาะ

เช้าวันที่สี่ วันสุดท้ายของทริปนี้ เช้านี้คลื่นลมค่อนข้างแรง สงสัยว่าระแวกใกล้เคียงคงจะมีฝนตกแน่ ๆ

ตอนนี้รอกหมุนไม่ไปแล้วครับ สงสัยเจอไอน้ำทะเลแล้วลูกปืนขัดแน่ ๆ ก็เลยตัดสินใจเอารอกจุ่มน้ำ หมายถึงน้ำทะเลนั่นแหละครับ เพื่อจะได้หมุนได้ แต่เท่ากับว่า พอกลับไปแล้วต้องรับเอารอกไปล้างให้เร็วที่สุด ด้วยความที่วันนี้คลื่นลมแรงก็เลยต้องเหวี่ยงเหยื่อให้ไกลขึ้นไปอีกเพื่อจะได้ไม่ติดหิน ก็ยังได้ผลอยู่กับปลาสลิดหินอีกหนึ่งสายพันธุ์

ตัวที่สองของวันนี้ก็ยังคงเป็นปลาสลิดหินเช่นเดิม ตัวนี้เป็นสลิดหินสายพันธุ์ที่พบเห็นได้บ่อย ๆ

ปลาตัวทีสาม ตัวสุดท้ายของวันและเป็นตัวปิดทริป จะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากปลาสลิดหิน

หลังจากนั้นก็ได้เวลาเก็บของเตรียมตัวกลับบ้าน ปลาทุกตัวที่ได้ในทริปนี้ผมปล่อยหมดทุกตัว ถามว่าปลาสลิดหินกินได้ไหม กินได้ครับ แต่ไม่แนะนำ เพราะปลาสลิดหินโดยเฉพาะปลาสลิดหินแนวปะการังแบบที่ผมได้บางทีอาจจะมีพิษครับ เป็นพิษที่มาจากอาหารที่มันกิน ปลาสลิดหินเป็นปลาที่กินไม่เลือก แต่อาหารหลักของเขาคือสัตว์น้ำขนาดเล็กและสาหร่ายซึ่งสาหร่ายบางชนิดก็มีพิษ พิษไม่ทำอันตรายกับปลาแต่จะสะสมอยู่ในเนื้อและเครื่องใน เมื่อเรากินปลาเราก็จะได้รับสารพิษนั้น และอีกอย่างก็คือ ปลาพวกนี้อยู่ในจำพวกปลาสวยงามครับ กินได้ก็จริงแต่เนื้อน้อย ฉนั้นถ้าได้ตัวก็ปล่อยคืนทะเลดีกว่า ให้เขาอยู่คู่ทะเลไทยไปอีกนาน ๆ

    และแล้วทริปนี้ก็สมควรแก่เวลา แล้วพบกันทริปหน้าไม่นานเกินรอ ทริปนี้ สวัสดีครับ

พวกนี้ตัวเล็กๆแต่แรงดีมากครับ เคยเอาชิงหลิวไปตกสนุกมากๆ

ขอบคุณที่ตามชมครับผม



จริงครับ ผมใช้สาย 4lb วิ่งปรี้ดใช้ได้เลย แถมสู้แบบมีชั้นเชิงซะด้วย พอเข้าใกล้หินจะมุดหินอย่างเดียวเลย ขอบคุณที่ตามชมครับผม

หมายตรงนั้น มีแต่ปลาหมึกครับน้า.. ปลาน้อย..

อิอิ..