นางมาลี โชคล้ำเลิศ อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา กล่าวว่า ตั้งแต่วันที่ 4 ส.ค.นี้ เป็นต้นไป พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2558 เกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลการบริหารสิทธิ และกำหนดข้อยกเว้นการกระทำละเมิดลิขสิทธิ์และสิทธิของนักแสดง จะมีผลบังคับใช้ หลังจากที่ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเล่ม 132 ตอนที่ 6 ก เมื่อวันที่ 5 ก.พ. ที่ผ่านมา
“กฎหมายฉบับนี้ดึงให้ผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ต (ISP) เข้ามามีส่วนร่วมแก้ไขปัญหา เนื่องจากการละเมิดลิขสิทธิ์บนอินเตอร์เน็ตไม่สามารถแก้ไขได้เพียงความร่วมมือของเจ้าของลิขสิทธิ์หรือผู้บังคับใช้กฎหมายเท่านั้น แต่ต้องอาศัยความร่วมมือของผู้ให้บริการทางอินเตอร์เน็ตด้วย ซึ่งเมื่อเจ้าของสิทธิพบงานละเมิดลิขสิทธิ์บนระบบก็สามารถดำเนินการตามที่กฎหมายกำหนด และเมื่อดำเนินการตามที่กฎหมายผู้ให้บริการฯ จะไม่ถือว่าเป็นผู้ละเมิดลิขสิทธิ์อีกด้วย”
นอกจากนี้ในกฎหมายฯยังกำหนดถึง “ข้อมูลการบริหารสิทธิ” ซึ่งเป็นข้อมูลที่บ่งชี้ถึงผู้สร้างสรรค์ หรือข้อมูลเงื่อนไขการใช้สิทธิในงานนั้น ไม่ว่าจะเป็นชื่อจิตรกรหรือชื่อเจ้าของที่ติดอยู่ที่ภาพ หรือแม้กระทั่งลายน้ำที่แฝงอยู่ หากลบหรือเปลี่ยนแปลงจะถือว่าเป็นความผิดฐานใหม่คือละเมิดข้อมูลบริหารสิทธิ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในโลกโซเชี่ยลมีเดีย มักแชร์รูปภาพ หรือคลิปวิดีโอต่างๆ หากนำรูปภาพที่มีการลบลายน้ำนั้น ไปแชร์นอกจากจะผิดฐานเผยแพร่ลิขสิทธิ์โดยไม่ได้รับอนุญาตแล้ว ยังจะผิดฐานลบข้อมูลบริหารสิทธิอีกฐานหนึ่งด้วย ถึงแม้ว่าจะมีการอ้างอิงเจ้าของภาพนั้นๆ ก็ตามเพราะเป็นการนำภาพของผู้อื่นมาเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาต
นางมาลีกล่าวอีกว่ามีอีกหลายส่วนที่สำคัญที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันของประชาชนทั่วไป เช่น การกำหนดให้เกิดความชัดเจนว่าเมื่อผู้ซื้อได้ซื้องานลิขสิทธิ์ เช่น หนังสือมาอย่างถูกต้องตามกฎหมายแล้ว ผู้ซื้อสามารถนำหนังสือไปขายต่อได้โดยไม่เป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ (สินค้ามือสอง) ซึ่งการบัญญัติในลักษณะนี้น่าจะเป็นการสร้างความชัดเจนให้แก่ประชาชนโดยทั่วไปได้ แต่หากเป็นซีดี หรือดีวีดี จะขายได้ต่อเมื่อมีใบอนุญาตเท่านั้น
กฎหมายใหม่นี้ยังได้กำหนดถึงมาตรการทางเทคโนโลยี เช่น การตั้งรหัสในการเข้ารับฟังเพลงต่างๆ ผ่านทางอินเตอร์เน็ต คนไหนอยากฟังเพลงหรือดาวน์โหลดเพลงก็ต้องจ่ายเงินเพื่อให้ได้รหัส แต่ก็จะมีคนบางกลุ่มใช้วิธีการแฮ็ก จะถือเป็นความผิดใหม่เพิ่มขึ้นอีกฐานหนึ่ง คือ ละเมิดมาตรการทางเทคโนโลยี มีโทษปรับ 10,000-100,000 บาท หากการกระทำเพื่อการค้า จำคุกตั้งแต่ 3 เดือน-2 ปี หรือปรับตั้งแต่ 50,000-400,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
*****************
ที่มา ข่าวสด ออนไลน์