ขอความกรุณาช่วยอ่านข้อความด้านล่างให้จบหน่อยนะครับ หากเห็นด้วยและอยากช่วยพวกเราชาวปากน้ำปราณ ช่วยค้นหาคำว่า " ร่วมแรงร่วมใจร่วมทวงคืนพื้นที่งอก24ไร่ไว้ใช้เพื่อส่วนรวม " ในเฟสหน่อยนะครับ ขอบคุณล่วงหน้านะครับ ( ขอนุญาติน้าเวบครับ หากผิดกฎเวบยินดีรับโทษตามดุลยพินิจขิงทางเวบครับ)
เคสที่ดินงอก 24 ไร่ ริมชายหาด ต.ปากน้ำปราณ อ.ปราณบุรี จ.ประจวบฯ พื้นที่ที่ชาวบ้านปากน้ำปราณ ร่วมแรงร่วมใจกันเพื่อขอให้หน่วยงานราชการช่วยออกเอกสารให้เป็นพื้นที่สาธารณะประโยชน์ เพื่อให้ส่วนรวมได้ใช้พื้นที่นี้ร่วมกัน เพื่อให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมในการดูแลและจัดการ ในการใช้พื้นที่ให้เป็นไปในทางที่ถูกต้องและเหมาะสม และเพื่อให้พื้นที่นี้ได้เป็นสถานทพักผ่อนหย่อนใจของคนในพื้นที่และนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาท่องเที่ยวที่ ปากน้ำปราณ บ้านของพวกเราครับ ขอย้อนกลับไปประมาณเดือน พ.ย.2554 มีชาวบ้านประมาณ 85 คน รวมตัวเพื่อคัดค้านการทำรังวัดที่ดินของกรมธนารักษ์ ที่ต้องการรังวัดที่ดินงอกบริเวณศาลาเขียว ติดกับเขื่อนปากคลองปราณ (บริเวณพื้นที่กรอบสีเขียว) ชาวบ้านทั้งหมดเดินทางไปยื่นหนังสือ ณ ศาลากลางจังหวัดประจวบฯ เพื่อขอให้ทางจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมธนารักษ์ กรมเจ้าท่า ซึ่งอ้างถึงสิทธิ์ในการครอบครองที่ดินพื้นนี้ทั้งสิ้น โดยคำร้องที่ชาวบ้านต้องการนั้นก็คือ ขอให้พื้นที่ แปลงนี้ทั้งหมดเป็นที่สาธารณะประโยชน์เพื่อให้ชาวบ้านปากน้ำปราณได้ใช้ประโยชน์ร่วมกัน โดยไม่มีการจัดสรรหรือแบ่งส่วนใดๆให้ใครครอบครองโดยเด็ดขาด ทั้งนี้ได้เสนอให้ทุกหน่วยงานได้มีส่วนร่วมในการบริหารจัดการดูแลพื้นที่ร่วมกัน โดยให้เทศบาล ต.ปากน้ำปราณ เป็นหน่วยงานหลักในการดูแล และทำการแต่งตั้งคณะกรรมการจากหลายๆหน่วยงาน ไม่ว่าจะเป็นกรมเจ้าท่า กรมธนารักษ์ อำเภอ และ ประชาชนส่วนหนึ่ง ให้เข้าไปมีส่วนร่วมในการดูแลพื้นที่นี้ให้เป็นไปในทางที่ถูกต้องและเหมาะสม ผ่านมาจนถึงวันที่ 6 พ.ค. 2558 ล่วงเลยมาเกือบ 4 ปี ได้มีการประชุมกันที่อำเภอ ระหว่างชาวบ้านและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ถึงกรณีที่ 24 ไร่ (ปัจจุบันไม่ต่ำกว่า30ไร่) เนื่องจากมีประเด็นเรื่องที่ทางจังหวัด มีข้อเสนอแนะให้กรมธนารักษ์ ทำการรังวัดที่แปลงนี้ เพื่อที่จะใช้พื้นที่บางส่วนนำไปช่วยเยียวยา ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากโครงการจัดการพื้นที่ชายหาด ที่ต้องทำการรื้อสิ่งปลูกสร้างออกจากพื้นที่ที่เคยทำมาหากินมาหลายสิบปี ซึ่งชาวบ้านกลุ่มที่ได้ทำเรื่องคัดค้านเมื่อปี2554 ไม่เห็นด้วยในข้อเสนอดังกล่าว เนื่องจากจุดประสงค์หลักที่มีการยื่นคำร้องไปเมื่อเกือบ4ปีที่แล้ว คือ ต้องการให้เป็นที่สาธารณะประโยชน์เพื่อให้ทุกคนได้ใช้ร่วมกัน อีกทั้งเสนอให้จังหวัดพิจารณาพื้นที่อื่นหากต้องการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบทั้งหมด ล่าสุด วันที่ 14 พ.ค. 2558 เวลา 17.30น. ได้มีการประชุมร่วมกันระหว่างประชาชนและปลัดจังหวัด พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ณ ศาลเสด็จเตี่ย โดยมีประเด็นสำคัญที่ทางจังหวัดอยากขอความร่วมมือจากชาวบ้าน จำนวน 85 คน ที่ได้ร่วมลงชื่อคัดค้านการรังวัดที่ดินของกรมธนารักษ์เมื่อปี 2554 ขอให้ช่วยลงชื่อถอนคำค้านนั้น เพื่อที่กรมธนารักษ์จะได้สามารถทำการรังวัดที่ดินแปลงนี้ และออกเอกสาร นสร. (หนังสือสำคัญสำหรับที่หลวง) เพื่อที่จะได้ดำเนินการจัดการปัญหาที่คาราคาซังมาเนิ่นนานในที่แปลงนี้ และเพื่อดูความเป็นไปในเรื่องการนำพื้นที่มาเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบต่างๆด้วย การพูดคุยได้ใช้เวลาพอสมควร สำหรับชาวบ้านก็ยังยืนยันคำเดิม ตามที่ได้แจ้งไปก่อนหน้านี้แล้ว กรมธนารักษ์ก็แจ้งว่ายินดีที่จะดำเนินการให้ที่แปลงนี้เป็นที่สาธารณะประโยชน์ แต่ต้องขอทำรังวัดพื้นที่ และออก นสร.ก่อน ชาวบ้านต่างได้เรียนรู้จากพื้นที่ 18+1 ที่กรมธนารักษ์ได้ทำการจัดสรรไป เมื่อ ปี 2554 และเกิดความระแวงและไม่ไว้วางใจ เนื่องจากมีเจ้าหน้าที่บางคนทำการจัดสรรที่ดินดังกล่าวให้กับพวกพ้องของตัวเองโดยไม่มีชาวบ้านปากน้ำได้ได้สิทธิ์ในพื้นที่ดังกล่าว มาวันนี้ถ้าชาวบ้าน 85คน ถอดคำคัดค้านเพื่อให้กรมธนารักษ์ออก นสร. แล้วอะไรคือความมั่นใจที่ชาวบ้านจะไม่ต้องเจอกับเหตุการณ์แบบ18+1อีกครั้ง .... ในการประชุมไม่มีหน่วยงานที่สามารถหาข้อสรุปในประเด็นนี้ได้ แล้วเรื่องนี้จะเป็นอย่างไรต่อไป... ผมคือ1ใน85คนที่ได้ร่วมลงชื่อไว้เมื่อปี2554 เชื่อมั่นว่า ทั้ง85คน คงไม่มีใครต้องการถอนชื่อแน่ๆ แต่ปัญหานี้ก็ต้องแก้ให้จบ ด้วยปัญญาอันน้อยนิดของผม หากกรมธนารักษ์สามารถออกเอกสารรับรองให้ชาวบ้านและเทศบาลฯ ได้ว่าหลังจากทำการรังวัดพื้นที่และออกเอกสาร นสร.แล้ว กรมธนารักษ์และหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้อง จะดำเนินการตามที่ชาวบ้านร้องขอไป ทั้งนี้เอกสารรับรองดังกล่าวต้องออกมาก่อนที่จะทำรังวัด ผมเชื่อว่าพี่น้องชาวบ้านทั้ง85คน คงจะมีความมั่นใจมากขึ้นและยินดีที่จะทำการถอนคำค้านให้ครับ แต่ถ้าให้ดียิ่งขึ้น นอกจาก 85 คนที่ร่วมกันคัดค้านแล้วนั้น ผมอยากขอให้พี่น้องชาวบ้านต.ปากน้ำปราณ ทุกคนช่วยกันร่วมลงชื่อ เพื่อยื่นคำขอให้หน่วยงานต่างๆได้เห็นถึงความต้องการที่ไปในทิศทางดังกล่าวนี้ร่วมกัน ให้เขาได้เห็นถึงความสามัคคีของพวกเราว่าไม่ใช่แค่85คน แต่มีเป็นพันที่จะร่วมลงชื่อในเรื่องนี้ ทั้งหมดเป็นความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ พี่น้องครับ ก่อนหน้านี้เผือกร้อนทั้ง2ลูกอยู่ในมือของทีมงานที่ต้องแก้ไขปัญหาในภาพรวมให้ได้ แต่" วันนี้เผือกร้อนทั้งสองลูกนั้นถูกจับมาวางไว้ในมือของพวกเราชาวปากน้ำปราณแล้วคับ พวกเราต้องช่วยกันแก้ปัญหานี้ครับ " ขอบคุณที่สละเวลาอ่านมาจนถึงตรงนี้ และขอขอบคุณในการสนับสนุนเรื่องนี้ด้วยนะครับ ขอบคุณครับ