เกิดเป็นกระแสฮือฮาขึ้นในโลกอินเทอร์เน็ต เมื่อผู้ใช้ชื่อว่า @ทรงวุฒิ_พัฒแก้ว ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว กล่าวถึงการพิจารณาร่างกฎหมายประมงในสภาผู้แทนราษฎร ที่เตรียมจะออกกฎให้คนที่จะจับสัตว์น้ำต้องขึ้นทะเบียนชาวประมง หากไม่ทำตามถือว่าผิดกฎหมายคดีอาญา และถูกจับปรับเป็นเงินไม่เกิน 5,000บาท โดยระบุว่า
วันที่ ๒๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖
คุณวิโชคศักดิ์ รณรงค์ไพรี แจ้งว่า
ใครเป็นคนจับปลา เป็นชาวประมง ฟังทางนี้ครับ
เอาไม่อยู่แล้วครับ
การพิจารณาร่างกฎหมายประมงในสภาผู้แทนราษฎรฯเพิ่มความยุ่งยากและชักจะทำให้ประชาชนเมาหมัด มากขึ้นเรื่อยๆ วันนี้มีการประชุมเรื่องสำคัญหลายเรื่องครับ และเกี่ยวกับชาวประมงโดยตรง
หากท่านที่เกี่ยวข้องเริ่มอ่านแล้วปวดหัวแล้วตัดสินใจไม่อ่าต่อ ขอบอกว่าท่านอาจเสียใจไปนาน ทีเดียว
(๑)
เรื่องแรกครับ กฎหมายประมงใหม่จะนิยาม ผู้ประกอบการประมง หมายถึงอะไร คำศัพท์นี้เดิมกฎหมายประมงไม่มีระบุไว้ เพราะถือว่าประชาชนทุกคนเป็นผู้ประกอบการประมงได้ ตราบเท่าที่ประชาชนต้องการจะจับปลา และไม่ทำผิดกติกาหรือระเบียบที่วางไว้
ปรากฏว่าในร่างกฎหมายประมงฉบับใหม่มีความพยายามผลักดันหลักการใหม่ ทั้งกรมประมง และคณะกรรมาธิการเสียงส่วนใหญ่ โดยอ้างหลักการว่า ต้องการรู้ว่าผู้ประกอบการประมงมีจำนวนเท่าไหร ที่ไหน แต่เมื่อถึงเวลา กลับไปเพิ่มนิยามศัพท์ ผู้ประกอบการประมง ขึ้นมาใหม่ เขาจึงให้ความหมายว่า ผู้ประกอบการประมง หมายถึง บุคคล คณะบุคคล และนิติบุคคล ซึ่งมีอาชีพเป็นผู้ประกอบการประมงปกติ
แต่เดิมนั้น ชาวประมงแต่ละคน แต่ละลำ จะต้องมีใบอนุญาต(อาชญาบัตร) ประจำตัวประจำเรือ ๑ คน ๑ ลำ ๑ผู้ประกอบการ เวลากระทำความผิดละเมิดกฎหมายก็ลงโทษผู้นั้น หรือ หากมีการแอบอ้าง สวมอาชญาบัตรก็ถือว่ากระทำผิด แต่ตาหลักการใหม่ เป็นไปไอย่างมากที่ ต่อไปนี้ผู้ประกอบการประมง หมายถึง บริษัท ด้วยนะสิครับ
เป็นไปได้ว่า บริษัทอาจเป็นผู้ขออาชญาบัตร ทำการประมง หรือทำการเพาะเลี้ยง เอง แต่ตัวบริษัทไม่ได้เป็นคนลงเรือทำประมงเอง กลายเป็นว่า เวลาลูกเรือทำผิดกฎหมาย ก็เป็นเรื่องของลูกเรือ ไม่เกี่ยวกับบริษัท ซึ่งเป็นผู้ประกอบการประมงที่ได้อาชญาบัตรทำการประมง ลำนั้น จะหาคนติดคุก หรือลงโทษใครไม่ได้เลย ก็ยุ่งยากมากขึ้น ว่าใครเป็นผู้ทำผิด เวลามีผิดโทษจำคุก จะจำคุกใครกลายเป็นต่อไปนี้ เละตุ้มเป๊ะ
ละคราวนี้
(๒)
บังคับให้ผู้ที่จะทำการประมง ต้องมาจดทะเบียนเป็นชาวประมง โดยอ้างว่าเป็นการจัดเก็บสถิติการประมง แถมตัวยกร่างตอนแรกยังกำหนดโทษทางอาญาแก่ผู้ที่ทำการประมงโดยไม่ได้แจ้งไว้ด้วย (ปรับไม่เกินห้าพันบาท) แปลความว่าหลังจากนี้ ประชาชนทุกคนก็เสียสิทธิในการทำประมงไปโดยสิ้นเชิง
ทั้งที่มีหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการออกใบอนุญาตกำกับอยู่แล้วชั้นหนึ่ง แต่ต้องใบลงทะเบียนแจ้งเพิ่มอีก ถ้าบุคคลใดไม่แจ้งรัฐ แล้วไปหาหอย จับปลา ตามวิถีชีวิต กลายเป็นผู้กระทำผิดกฎหมายทันที
.แถมเป็นความผิดอาญาแผ่นดินด้วย มันชักจะไปกันใหญ่แล้วครับ
เราต้องคำนึงถึงข้อเท็จจริงของสังคมไทยว่า เราจะประกอบอาชีพอะไร ไม่จำเป็นต้องไปแจ้งรัฐ จะขับแท็กซี่ จะกรีดยางพารา จะทำนา ถ้าเราทำถูกต้องกระบวนการไม่ละเมิดบุคคลอื่นเราก็สามารถทำได้ แต่ร่างกฎหมายประมงกำลังจะบอกว่า พวกคุณจะมีวิถีชีวิต จับปลาหาหอยเป็นอาชีพ ไม่ได้ ถ้าคุณไม่แจ้งฉันก่อน
พี่น้องชาวลำมูน แม่น้ำสงคราม ชาวประมงทะเล ก็จะประสบกับชะตากรรมเดียวกันคือ แย่แน่ๆ ยังมิพักต้องนึกถึงตอนที่ประชาชนยากจนเดินทางไปประมงจังหวัดเพื่อแจ้งประกอบอาชีพประมงว่ามันจะสนุกสนานแค่ไหน ว่ามันจะกลายเป็นขั้นตอนหาเงินเข้ากระเป๋าของใคร หรือไม่..???>>
ทั้งนี้เมื่อข้อความดังกล่าวได้เผยแพร่ออกไป ก็ทำให้มีคนเข้าไปแสดงความเห็นมากมาย โดยส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับมาตราการดังกล่าว
ทั้งนี้ @ทรงวุฒิ พัฒแก้ว ได้ขยายความเห็นต่ออีกว่า เสียงส่วนใหญ่ของกรรมมาธิการ เห็นแบบนี้ครับอ้างว่า ชาวประมงต้องมีสถิติ ต้องมีการจดทะเบียน และกฎหมายดังกล่าวได้ประกาศใช้ไปแล้วด้วย