สยามฟิชชิ่ง
หน้าแรก|กระดาน|รีวิว|ประมูล|ตลาด|เปิดท้าย
login | สมัครสมาชิก | วิธีสมัครสมาชิก | ลืมชื่อ/รหัส | login ไม่ได้? | 8 พ.ย. 67
-- ทะเลไทยในอนาคต - ปูปลาที่หายไป -- : SiamFishing : Thailand Fishing Community
หน้าที่: 1 | 2 | 3 >
 กระดาน > ทะเล
ความเห็น: 54 - [11 พ.ค. 55, 14:57] ดู: 8,988 - [7 พ.ย. 67, 19:40]  ติดตาม: 1 โหวต: 29
-- ทะเลไทยในอนาคต - ปูปลาที่หายไป --
กระทู้: 125
ความเห็น: 5,443
ล่าสุด: 25-09-2567
ตั้งแต่: 30-07-2552
Beethoven(2077 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
ตั้งกระทู้: 6 พ.ค. 55, 03:02
--  ทะเลไทยในอนาคต - ปูปลาที่หายไป  --

วันที่ จันทร์ มกราคม 2551

โดย ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์



ทะเลไทยในอนาคต - ปูปลาที่หายไป

คงไม่มีใครปฏิเสธว่าปีนี้เรื่องสิ่งแวดล้อมมาแรงเป็นพิเศษ กลายเป็นประเด็นใหญ่ของโลก ที่ไม่จำกัดเฉพาะนักวิทยาศาสตร์หรือผู้สนใจ แต่กลายเป็นหัวข้อสำคัญสำหรับทุกวงการ ไม่เว้นแม้แต่การประชุมด้านเศรษฐกิจหรือสังคมระหว่างประเทศ มีเรื่องราวปรากฏอย่างต่อเนื่องในสื่อหลายฉบับ กล่าวถึงเหตุการณ์ร้ายแรงที่จะเกิดในวันหน้า โลกร้อน น้ำแข็งละลาย ภัยแล้ง ฯลฯ รวมความแล้วคือมนุษย์อยู่ไม่เป็นสุข เพราะมนุษย์เปลี่ยนให้โลกกลายเป็นเช่นนี้ นักวิทยาศาสตร์บางท่านถึงขยับเวลาใกล้สิ้นโลกเข้ามา พาให้ทุกคนตระหนก

ผมไม่กล่าวไปไกลถึงขนาดนั้นหรอกครับ มาดูเรื่องใกล้ตัวกันดีกว่า เมื่อไม่นานมานี้ข่าวเรื่องปลาจะหมดโลกภายในห้าสิบปี โดยมีนักวิทยาศาสตร์ต่างชาติบางท่านทำนายไว้ เมื่อมีสื่อมวลชนบางท่านสอบถามมา ผมได้แต่ยิ้มแป้น บอกว่าพวกเราคนไทยไม่ต้องกลัวหรอก เพราะปลาหมดทะเลไทยไปเรียบร้อยแล้ว

คำว่า "หมด" ในที่นี้ คงไม่ได้หมายถึงหมดสิ้นเผ่าพันธุ์ทุกตัว แต่หมดหมายถึงไม่เพียงพอให้พวกเราใช้เป็นอาหารกินกันอย่างเปรมปรีดิ์เหมือนครั้งกระโน้น ผมมีข้อมูลล่าสุดจากกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) ที่จะมายืนยันความคิดเห็นของผม เราลองมาดูข้อมูลกันครับ

เริ่มต้นจากการจับปลา เดิมทีเราทำประมงแบบพอเพียง หาเช้ากินค่ำ เหลือบ้างนำไปขายไปแลกเปลี่ยนเป็นสินค้าดำรงชีวิต แต่เมื่อ พ.ศ.2503 เราได้เทคโนโลยีใหม่ เรียกว่า "อวนลาก" จากนั้นการจับปลาในทะเลไทยเปลี่ยนไป กลายเป็นการจับเพื่อขาย การทำประมงพาณิชย์ไม่ได้ผิดอะไรหรอกครับ เพียงแต่ทำกันแบบเลยเถิด กฎหมายที่มีไม่สามารถใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เราจับกันบันเทิงเริงใจ ไม่คิดว่ากุ้งหอยปูปลาจะหมดทะเลได้ แต่มันก็หมด


มันหมดและหมดมานานแล้ว ผู้เชี่ยวชาญคำนวณว่า ทะเลไทยผลิตสัตว์น้ำได้ปีละ 2.5 ล้านตัน แต่เราจับสัตว์น้ำเกินศักยภาพการผลิตของทะเลบ้านเรา มาตั้งแต่ปี พ.ศ.2535 ติดต่อกันมา 15 ปี แล้วมันจะไม่หมดได้ไง

คุณคงสงสัย ก็ยังเห็นมีปลาขายอยู่ในตลาด แต่ลองเทียบราคาดูสิครับ ปลาเก๋าสมัยก่อนแทบไม่มีคนกิน ปัจจุบันเนื้อปลาเก๋าที่มีอยู่ในทะเลบ้านเราแท้ๆ ราคาแพงกว่าเนื้อปลาแซลมอนที่ข้ามโลกมาจากทะเลนอร์เวย์ ไม่เรียกว่าหมดแล้วควรเรียกว่าอะไร?

นั่นคือการจับปลาโดยตรง มาดูทางอ้อมบ้าง กุ้งหอยปูปลาต้องมีบ้านให้พวกเค้าอยู่ให้ลูกเค้าโต ทุกคนทราบดี ป่าชายเลนคือบ้านของสัตว์น้ำ แต่เราทำอะไรกับบ้านของเขา เริ่มต้นที่ปี 2504 เรามีป่าชายเลนกว่า 2.3 ล้านไร่ อยู่ไปอยู่มา ตัดทิ้งบ้าง ทำถนนบ้าง ทำนากุ้งก็เยอะนะ ท้ายสุดเราเหลือป่าชายเลนแค่ 1.5 ล้านไร่

โอ้โฮ...ยังเยอะนี่นะ แต่ตัวเลขนี้มีเสียงกระซิบครับ เพราะตัวเลขป่าสมบูรณ์ของจริง ไม่รวมเสื่อมโทรมหรือมีแค่สีเขียวเฉยๆ ในภาพดาวเทียม เรามีป่าที่เป็นป่าอยู่แค่ 750,000 ไร่ แม้ระยะหลังจะมีการปลูกป่าโกงกางเพิ่มขึ้น ได้มาตั้งหลายหมื่นหรือเกือบแสนไร่ แต่ก็มีเสียงกระซิบอีกนั่นแหละ (ข้อมูลในเมืองไทยมี 2 แบบ อย่างแรกคือข้อมูลในกระดาษ อีกแบบคือในกระดาษที่มีเสียงกระซิบด้วย)

เสียงกระซิบครั้งนี้บอกว่า ป่าโกงกางที่เราปลูกกันนั่นน่ะ นักวิทยาศาสตร์ไทยติดตามมาตั้งแต่เริ่มปลูก จนถึงปัจจุบัน กินเวลาร่วมสิบปีแล้ว แต่ความหลากหลายทางชีวภาพ หรือพูดจาประสาชาวบ้าน จำนวนชนิดของสัตว์ที่พบในป่า มีแค่ 10-20 เปอร์เซ็นต์ของป่าตามธรรมชาติ หมายถึงป่าปลูกมาแล้วสิบปี ยังสู้ของจริงตามธรรมชาติไม่ได้ ผมไม่ได้หมายความว่า เราไม่ควรปลูกป่านะครับ แต่ความหมายจริงจังคืออย่าไปฝากความหวังจากการปลูกป่าให้มากเกินเหตุ ธรรมชาติไม่ใช่ทำลายให้แหลกได้ ปลูกขึ้นใหม่ได้ มันไม่ง่ายเช่นนั้นครับ

มาถึงตัวเลขของแนวปะการัง เรามีอยู่ 90,000 ไร่ สภาพเปลี่ยนแปลงไปมาในระดับไม่เท่ากัน คงต้องยอมรับว่า ข้อมูลการสำรวจและการศึกษาด้านนี้ยังไม่มากพอชี้ชัดฟันธงได้ แต่ผมพอบอกจากประสบการณ์ เคยเห็นแนวปะการังเสียหายมาหลายแห่ง เช่น โดนตะกอนจากการพัฒนาชายฝั่ง การขุดลอกร่องน้ำ แต่ผมยังไม่เคยเห็นแนวปะการังในทะเลไทยโผล่ขึ้นมาใหม่ ที่มีข่าวคราวว่าพบที่โน่นที่นี่ เป็นแนวปะการังที่มีมานานแล้ว แต่ไม่มีใครไปเจอ หรือเจอแล้วไม่เป็นข่าว ไม่ใช่เพิ่งเกิดขึ้นมาใหม่ แนวปะการังไม่ได้เกิดกันง่ายๆ ครับ

ท้ายสุดคือแหล่งหญ้าทะเล เรามีอยู่ 90,000 ไร่เช่นกัน เนื่องจากแหล่งหญ้าทะเลบางส่วนอยู่ใต้น้ำ การสำรวจทำได้ยาก ข้อมูลในอดีตจึงไม่ค่อยมี จึงบอกได้ยากว่าในภาพรวม แหล่งหญ้ามีมากขึ้นหรือน้อยลง แต่เอาเป็นว่า มีแหล่งหญ้าทะเลหลายแห่งได้รับผลกระทบ จากการสร้างท่าเรือ (เกาะพะงัน - สูญเสียถาวร) จากผลของตะกอน (หลายแห่งในอันดามัน) ฯลฯ

จากการกระทำของพวกเรา ทั้งจับสัตว์น้ำจนเกินทะเลรับได้ ทั้งจากการถล่มบ้านของกุ้งหอยปูปลา ทำให้เรามีวันนี้ วันที่หลายคนอาจคิดว่าไม่เห็นจะเดือดร้อนอะไร ก็ไม่กินซีฟู้ดเท่านั้น แต่หากคิดให้ลึก ซีฟู้ดกลายเป็นของแพงไปแล้วสำหรับคนไทย ทั้งที่กุ้งหอยปูปลาก็เกิดเองในทะเล หากเราใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืนหรืออย่างพอเพียง ปลาทูอาจตัวละห้าบาท เนื้อปลาเก๋ากิโลละไม่กี่สิบบาท คนไทยมีโปรตีนราคาถูกให้บริโภค วันนั้นคนไทยจะมีความสุขแค่ไหน

ความสูญเสียที่มองไม่เห็น ทำให้หลายคนมองข้ามไป หลายคนอาจหัวเราะ คิดว่าเป็นไปไม่ได้ อาจารย์สร้างโลกแห่งความฝัน

หากใครอายุสักสี่สิบหรือประมาณนั้น คงจำกันได้ เราเคยมีวันที่เนื้อปลาเก๋าถูกกว่าเนื้อหมูเนื้อไก่ในตลาด ปูทะเลตัวละไม่กี่สิบบาท แต่วันนี้...ไม่

ทะเลในอนาคต คือทะเลที่คนไทยต้องซื้อปลาเก๋ากิโลกรัมละพันบาท ซื้อปูทะเลตัวละพันบาท ไม่ต้องรออีกนานถึงห้าสิบปี อีกห้าปีมีให้เจอแน่ครับ...



ที่มา ..... หนังสือพิมพ์มติชน
กระทู้: 125
ความเห็น: 5,443
ล่าสุด: 25-09-2567
ตั้งแต่: 30-07-2552
Beethoven(2077 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
ความเห็นที่ 1: 6 พ.ค. 55, 03:19
อวนลากคู่ หมายถึง อวนลากที่ใช้เรือสองลำช่วยถ่างปากอวน

อวนลากชนิดนี้ใช้เรือยนต์สองลำ ทำหน้าที่ลากอ
อวนลากคู่ หมายถึง อวนลากที่ใช้เรือสองลำช่วยถ่างปากอวน

อวนลากชนิดนี้ใช้เรือยนต์สองลำ ทำหน้าที่ลากอวนและถ่างปากอวนโดยการรักษาระยะห่างและความเร็วเรือขณะลากให้เท่ากัน ใช้ลูกเรือ 18-22 คน ส่วนใหญ่ใช้จับปลาหน้าดิน ปลาผิวน้ำและหมึก ยังไม่พบว่าใช้เครื่องมือชนิดนี้จับกุ้งโดยเฉพาะ  จังหวัดที่นิยมใช้กันมาก ได้แก่ จังหวัดสมุทรปราการ สมุทรสาคร สมุทรสงคราม จันทบุรี สงขลาและภูเก็ต

          เครื่องมือและอุปกรณ์ เรือประมง มีขนาด 14-25 ม. ส่วนใหญ่ใช้ขนาด 18-25 ม. ขนาดเครื่องยนต์ 60-550 แรงม้า เรือ 2 ลำ อาจมีขนาดเท่ากันหรือไม่เท่ากันก็ได้ ในกรณีที่ไม่เท่ากัน ลำที่มีขนาดใหญ่ทำหน้าที่กู้อวนคัดเลือกและเก็บรักษาสัตว์น้ำนิยมเรียกว่า เรือปลา หรือเรืออวน อีกลำหนึ่งช่วยลากอวนเรียกว่า เรือหู ส่วนใหญ่ติดตั้งเครื่องหาที่เรือจากดาวเทียม เรดาร์ เอคโคซาวเดอร์และวิทยุสื่อสาร

            เครื่องมืออวน ความยาวคร่าวบนรอบปากอวน 40-47 ม. และความยาวคร่าวล่าง 36-46 ม. ความยาวปลายปีกอวนถึงก้นถุง 48-55 ม. ขนาดตาปีกอวนเริ่มที่ขนาดตา 200 หรือ 180 มม. ขนาดตาอวนส่วนที่ถัดมาลดลงตามลำดับ ได้แก่ ขนาดตา 160, 120, 80, 60, 40 มม. ส่วนที่เป็นก้นถุงขนาดตาเล็กที่สุด 20, 25 หรือ 30 มม. คร่าวบนใส่ทุ่นขนาด 14-20 ซม. จำนวน 25-50 ทุ่น ขึ้นอยู่กับความยาวรอบปากอวนและขนาดทุ่น ชนิดเนื้ออวนที่นำมาประกอบใช้เนื้ออวนโปลีเอทธีลีน ขนาดเบอร์ 700/21 ปลายสุด ของปีกอวนทั้งสองข้างต่อเข้ากับเชือกปลายปีกหรือเรียกว่า ปีกฟรี ซึ่งส่วนนี้ไม่มีเนื้ออวนยาว 36-90 ม. โดยเส้นบนผูกทุ่น หรือไม่มีทุ่น ส่วนเส้นล่างประกอบเหมือนคร่าวล่างรอบปากอวน คือ มีลูกกลิ้งไม้และยางร้อยผ่านลวดสลิง ปลายสุดของปีกฟรีทั้งสองข้างต่อเข้ากับเหล็กสามเหลี่ยม หรือเรียกว่า จิ้งจก บางรายใช้ท่อนเหล็กแทน ส่วนที่ต่อเข้ากับจิ้งจก คือ สายกวาด หรืออ้ายเหลือม ยาว 50-60 ม. จากนั้นจึงต่อเข้ากับสายลากซึ่งเป็นลวดสลิงยาว 400-600 ม.

              วิธีทำการประมง ส่วนใหญ่ทำประมงในเวลากลางวัน ตั้งแต่เช้ามืดถึงพระอาทิตย์ตกดิน แต่จะพบทำการประมงเวลากลางคืนเป็นครั้งคราว โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงเดือนหงาย แหล่งทำการประมงตั้งแต่บริเวณที่มีน้ำลึก 5-60 ม. โดยเริ่มจาก เรือหูฉุดอวนจากเรือปลาลงน้ำทางท้ายเรือ แล้วกลับลำตั้งหัวเรือไปในทิศเดียวกับเรือปลาพร้อมทั้งปล่อยสายลากจนได้ระยะที่เหมาะสมแล้วเร่งเครื่องยนต์เต็มที่เพื่อทำการลากอวน ความเร็วเรือขณะลากอวนประมาณ 4-5 น๊อต หรือ 7.4-9.3 กม./ชม. ขึ้นอยู่กับขนาดเรือและเครื่องยนต์ การลากอวนแต่ละครั้ง (รอย) ใช้เวลา 3-4 ชม.ในรอบหนึ่งวันจะลากอวนและกู้อวน 3 ครั้ง วิธีกู้อวนเรือทั้งสองจะหันหัวเรือกลับในทิศตรงข้ามกับแนวที่ลาก แต่ละลำกว้านสายลากเก็บ จากนั้นเรือหูจะปลดสายลาก และสายกวาดออกจากตัวอวนแล้วส่งให้เรือปลาทำหน้าที่กู้อวนต่อ พร้อมทั้งคัดเลือกและเก็บรักษาสัตว์น้ำในเรือต่อไป

              สัตว์น้ำส่วนใหญ่ที่จับได้ เช่น ปลาทู ปลาลัง ปลาสีกุน ปลาอินทรี ปลาดาบลาว ปลาทรายแดง ปลาปากคม ปลาตาหวาน ปลาจวด หมึกกล้วย หมึกกระดอง ปูม้า และปลาเป็ด (ใช้ทำอาหารสัตว์)
กระทู้: 125
ความเห็น: 5,443
ล่าสุด: 25-09-2567
ตั้งแต่: 30-07-2552
Beethoven(2077 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
ความเห็นที่ 2: 6 พ.ค. 55, 03:23

กำเนิดปะการัง 	

ปะการังกำเนิดมาบนโลกสีน้ำเงินใบนี้กว่า 500 ล้านปี ซึ่งถ้าเปรียบเทียบกับมนุษย์แล

กำเนิดปะการัง

ปะการังกำเนิดมาบนโลกสีน้ำเงินใบนี้กว่า 500 ล้านปี ซึ่งถ้าเปรียบเทียบกับมนุษย์แล้ว ถือว่าปะการังอยู่บนโลกใบนี้มานานกว่าพวกเรามากนัก ปะการังก็เหมือนกับสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ที่ พยายามจะดำรงเผ่าพันธุ์ตัวเองไว้ จากรุ่นสู่ร่นจากลูกสู่หลาน เมื่อปะการังเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ จากตัวเป็นกลุ่มก้อน (colony) ก่อเกิดแนวการังขึ้นมา แล้วกระจายตัวออกไปตามพื้นที่ต่างๆ จนในปัจจุบันเราสามารถพบเห็นแนวปะการังได้ทั่วไปโดยเฉพาะในเขตร้อนอย่างบ้านเรานั้นเอง

ประเทศไทยพบแนวปะการังได้ทั้งทะเลฝั่งอ่าวไทยและอันดามัน  มีปะการังกว่า 270 ชนิด จาก 1000 กว่าชนิดทั่วโลก ซึ่งเป็นที่อาศัยของปลากว่า 4,000 ชนิด รวมถึงสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ในทะเลมากมาย แนวปะการังโดยทั่วไปพบได้ตั้งแต่ผิวน้ำจนถึงประมาณ 30 เมตร หรือในบริเวณแสงอาทิตย์ส่องถึง อุณหภูมิประมาณ 20-32 องศาเซลเซียส และมักจะเจริญเติบโตได้ดีในบริเวณที่น้ำค่อนข้างใส แต่ก็มีบางชนิดที่ปรับตัวและอาศัยอยู่ได้ในบริเวณน้ำขุ่น

“ปะการัง” กล่าวถึงพระเอกกันสักนิด ปะการังเป็นสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังในทะเลที่สามารถดึงแคลเซียมคาร์บอเนตจากน้ำทะเลมาสร้างบ้านของตัวเองหรือโครงสร้างหินปูนได้สามารถสืบพันธุ์หรือเพิ่มจำนวนตัวได้ 2 แบบ คือโดยการอาศัยเพศและไม่อาศัยเพศ เช่นเดียวกับสัตว์หลายชนิดเช่น  ต่างกับคนเราที่สืบพันธุ์ได้แบบเดียวคือสืบพันธุ์แบบอาศัยเพศ การสืบพันธุ์แบบไม่อาศัยเพศในปะการังก็มีหลายแบบค่ะเช่น การแตกหักจากก้อนปะการังเดิม หรือการแตกหน่อ ส่วนการสืบพันธุ์แบบอาศัยเพศซึ่งมีทั้งแบบที่ปล่อยตัวอ่อนออกมาสู่มวลน้ำโดยตรงและแบบที่ปะการังปล่อยเซลล์สืบพันธุ์ (ไข่และน้ำเชื้อ) ออกมาผสมเกิดเป็นตัวอ่อนในมวลน้ำ หลังจากนั้นตัวอ่อนปะการังจะดำรงชีวิตเป็นแพลงก์ตอนคือล่องลอยไปตามมวลน้ำซึ่งใช้ระยะเวลาในมวลน้ำต่างกันไปในแต่ละชนิด เมื่อตัวอ่อนปะการังพร้อมก็จะเลือกลงเกาะในพื้นที่ที่เหมาะสม

ส่วนช่วงเวลานั้นปะการังเองก็มีช่วงเวลาการปล่อยเซลล์สืบพันธุ์ โดยมักจะอ้างอิงกับพระจันทร์แต่ก็แตกต่างกันไปบ้างในแต่ละชนิดและสถานที่ซึ่งอาจคลาดเคลื่อนไป 1-2 เดือน โดยมากปะการังจะปล่อยเซลล์สืบพันธุ์หลังจากพระอาทิตย์ตกดินประมาณ 2-3 ชั่วโมงในช่วง 3-4 วันหลังพระจันทร์เต็มดวง และมักเกิดปรากฎการณ์ที่พบว่าปะการังแต่ละชนิดในแนวปะการังแต่ละพื้นที่จะปล่อยเซลล์สืบพันธุ์พร้อมๆ กันในช่วงเวลาเดียวกันเพื่อเป็นการเพิ่มโอกาสให้ไข่และน้ำเชื้อที่ปล่อยออกมาจากปะการังแต่ละตัวจะเกิดการผสมพันธุ์กันมากที่สุด ซึ่งเป็นอีกหนึ่งช่วงเวลาที่หลายคนที่ทำงานเกี่ยวกับทะเลหรือปะการังเฝ้ารอที่จะมีประสบการณ์สักครั้งกับการพบเห็นการปล่อยเซลล์สืบพันธุ์ของปะการัง แต่เนื่องจากช่วงเวลาดังกล่าวค่อนข้างที่จะจำเพาะและอาจแตกต่างกันไปในแต่ละปีรวมถึงยังไม่มีการศึกษาให้รู้ถึงช่วงเวลาที่ชัดเจนทำให้พลาดโอกาสสำคัญนี้ได้ง่าย อย่างไรก็ตามจากข้อมูลที่ผ่านมาพบว่าปะการังฝั่งทะเลอ่าวไทยมีแนวโน้มที่จะปล่อยเซลล์สืบพันธุ์ในช่วงที่อุณหภูมิผิวน้ำทะเลเพิ่มสูงขึ้นหรือในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงเมษายนและฝั่งทะเลอันดามันพบปะการังหลายชนิดปล่อยเซลล์สืบพันธุ์ในช่วงเวลาเดียวกัน

เมื่อปะการังกำลังจะปล่อยเซลล์สืบพันธุ์นั้นมันจะดันไข่พร้อมถุงน้ำเชื้อมาอยู่บริเวณด้านผิวของโครงสร้างหินปูนสักพักหนึ่งก่อนที่ก้อนเซลล์สืบพันธุ์ (bundel) จะถูกปล่อยออกมา  รูปร่างหน้าตาของไข่ปะการังนั้นส่วนมากมีลักษณะเป็นวงรีมีขนาดประมาณ 1-2 มิลลิเมตร สีส้ม แดงหรือเขียวแตกต่างกันบ้างเล็กน้อยในแต่ละชนิด ไข่ปะการังหลายชนิดมีขนาดใหญ่จนสามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า  ภายในของไข่ปะการังส่วนใหญ่ประกอบด้วยไขมันและน้ำเป็นส่วนประกอบหลักจึงมีพฤติกรรมลอยอยู่บริเวณผิวน้ำทำให้สามารถลอยไปในพื้นที่ต่างๆได้ไกลออกไป ซึ่งพื้นที่ที่ตัวอ่อนปะการังจะลงเกาะมักจะลงเกาะบนพื้นผิวที่แข็ง ในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตดังที่กล่าวมาแล้ว นอกจากนั้นสิ่งมีชีวิตอื่นบางชนิดยังเป็นตัวชักนำให้ปะการังลงเกาะอีกด้วย เช่นสาหร่ายสีแดงพวกที่สร้างหินปูนเป็นลักษณะเคลือบ  หลังจากที่ตัวอ่อนปะการังลงเกาะแล้ว พวกมันยังมีความสามารถพิเศษตรงที่ถ้าพบว่าพื้นที่นั้นไม่เหมาะสมก็สามารถที่จะปล่อยตัวเองให้หลุดออกจากพื้นผิวแล้วลอยไปตามน้ำเพื่อหาพื้นผิวใหม่ที่เหมาะสมต่อไปได้อีกด้วย และเมื่อพอใจกับบ้านที่เหมาะแล้วมันก็จะเจริญเติบโตขยายขนาดจนกลายเป็นแนวปะการังที่เราพบเห็นในปัจจุบัน
กระทู้: 125
ความเห็น: 5,443
ล่าสุด: 25-09-2567
ตั้งแต่: 30-07-2552
Beethoven(2077 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
ความเห็นที่ 3: 6 พ.ค. 55, 03:31


 [b]ปะการัง 

ปะการัง ปะการัง งามล้ำค่า ช่วยกันรักษา 
เจ้าไข่มุกเอเซีย ต้องเสียหาย 
โอ้ปักษ์


ปะการัง

ปะการัง ปะการัง งามล้ำค่า ช่วยกันรักษา
เจ้าไข่มุกเอเซีย ต้องเสียหาย
โอ้ปักษ์ใต้บ้านเรา นั้นแย่แล้ว
ใต้ทะเลไม่เหลือ ไม่เห็นแนว พังระเบิดเป็นแถว
ปะการัง อันดามัน หาดสวรรค์ หรือม้วยมอด
มีรีสอร์ท โฮเต็ล เห็นตำตา
เกาะภูเก็ตเปลี่ยนโฉม เป็นสินค้า
ทั้งลันตา พีพี นะพี่เอย
เอาคอนโดมาให้ ไม่เอาหรอก
เอาฮอทดอกคืนไป เราไม่สน
แกงไตปลาดีปลี ของคนจน เขาอยู่ทนมานาน
ลูกหลานหรอยรองแง็ง ลุงโนห์ราว่าออ ออ
ดังสลับเสียงซอ คงความหมาย ธรรมชาติให้คน
มามากมาย ธรรมชาติใกล้ตาย ลูกหลานเอย
ปะการัง ปะการัง งามล้ำค่า ช่วยกันรักษา... ปักษ์ใต้แย่แล้ว
กระทู้: 156
ความเห็น: 80,531
ล่าสุด: 08-11-2567
ตั้งแต่: 07-07-2545
BULINO(12950 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
ความเห็นที่ 4: 6 พ.ค. 55, 05:56
+1 
กระทู้: 49
ความเห็น: 4,196
ล่าสุด: 23-05-2566
ตั้งแต่: 17-09-2552
jakchai(1715 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
ความเห็นที่ 5: 6 พ.ค. 55, 08:23
กระทู้: 4
ความเห็น: 835
ล่าสุด: 07-03-2567
ตั้งแต่: 30-01-2553
chris(61 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
ความเห็นที่ 6: 6 พ.ค. 55, 08:58
กระทู้: 26
ความเห็น: 1,835
ล่าสุด: 01-11-2567
ตั้งแต่: 23-05-2553
safari01(945 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
ความเห็นที่ 7: 6 พ.ค. 55, 09:03
กระทู้: 1
ความเห็น: 56
ล่าสุด: 27-01-2566
ตั้งแต่: 27-03-2555
ความเห็นที่ 8: 6 พ.ค. 55, 09:26
กระทู้: 7
ความเห็น: 1,039
ล่าสุด: 06-11-2567
ตั้งแต่: 02-03-2550
E21RKF(34 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
ความเห็นที่ 9: 6 พ.ค. 55, 09:44
++++++1 ต้องขอขอบคุณเจ้าของกระทู้นี้มากนะครับที่นำมาเผยแผ่ให้เราๆได้รับรู้กันนะครับ ผมก็มีแนวทางแนวๆนี้เหมือนกันครับ แต่หนึ่งเสียงของผม
ก็อาจจะทำอะได้ขึ้นบ้างนะครับ สุดยอดมากครับ
กระทู้: 6
ความเห็น: 238
ล่าสุด: 27-01-2566
ตั้งแต่: 07-08-2550
ความเห็นที่ 10: 6 พ.ค. 55, 10:31
ขยะ  อวนรุน  การเบื่อปลา ระเบิดปลา สารพัดวิธี ทุกวันนี้ เราต้องนั่งเรือไปตกปลาทรายแดงกันแล้ว หากไปเล่าให้คนเก่าๆฟังคงขำกลิ้ง  แต่ความจริงมันเป้นอย่างนั้น 
กระทู้: 25
ความเห็น: 9,901
ล่าสุด: 27-01-2566
ตั้งแต่: 16-12-2554
wanna2940(1333 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
ความเห็นที่ 11: 6 พ.ค. 55, 12:26
กระทู้: 81
ความเห็น: 15,503
ล่าสุด: 08-11-2567
ตั้งแต่: 06-02-2551
saosin(2706 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
ความเห็นที่ 12: 6 พ.ค. 55, 12:29
เก็บเรียบยันลูกปลา
กระทู้: 2
ความเห็น: 93
ล่าสุด: 27-01-2566
ตั้งแต่: 29-04-2555
ความเห็นที่ 13: 6 พ.ค. 55, 12:41
แล้วลูกหลานจะเอาไรกินกัน
กระทู้: 2
ความเห็น: 301
ล่าสุด: 16-07-2567
ตั้งแต่: 31-05-2552
4sons(155 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
ความเห็นที่ 14: 6 พ.ค. 55, 13:30
มนุษย์เราทำกับธรรมชาติอย่างนี้นี่เอง มิน่ามันถึงได้เอาคืนกับมนุษย์อย่างสาสม สงสารก็แต่เพียงคนที่ไม่ได้ทำกลับต้องมาร่วมรับกรรมที่ตนเองไม่ได้ก่อ 
+++ ให้กับข้อความดีดีครับ 
กระทู้: 7
ความเห็น: 1,510
ล่าสุด: 29-09-2567
ตั้งแต่: 08-06-2551
mewkapang(244 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
ความเห็นที่ 15: 6 พ.ค. 55, 16:44
  เอาปลาคืนมาๆๆๆๆๆๆๆๆ
กระทู้: 3
ความเห็น: 113
ล่าสุด: 27-01-2566
ตั้งแต่: 06-12-2554
ความเห็นที่ 16: 6 พ.ค. 55, 17:13
เงินมันอยู่ เหนือ กฎหมายครับ น้า มีเงินอย่างเดียวก็จบครับ ไม่เหมาะสมลบได้นะครับ
กระทู้: 5
ความเห็น: 7,787
ล่าสุด: 22-08-2567
ตั้งแต่: 06-09-2549
pi621(27 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
ความเห็นที่ 17: 6 พ.ค. 55, 17:14
กระทู้: 60
ความเห็น: 7,841
ล่าสุด: 12-09-2567
ตั้งแต่: 14-09-2550
ความเห็นที่ 18: 6 พ.ค. 55, 17:22

+++++         
กระทู้: 11
ความเห็น: 1,325
ล่าสุด: 27-01-2566
ตั้งแต่: 09-06-2552
K_yong(282 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
ความเห็นที่ 19: 6 พ.ค. 55, 23:12
กระทู้: 38
ความเห็น: 2,112
ล่าสุด: 02-11-2566
ตั้งแต่: 05-11-2550
wanno(1353 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
ความเห็นที่ 20: 6 พ.ค. 55, 23:25
ที่แสมสาร , สีชัง  เรือลากขนาดใหญ่ เล่นซะหมดอ่าวเลยปลาเล็กปลาน้อง ปูตัวเล็กๆๆ แต่ชาวบ้าน ชาวประมงตัวเล็กๆๆตาดำๆๆ และใต๋เรือต่างๆๆทำอะไรไม่ได้เลย บ้าวบ้านเค้าไปแจ้งเรื่องกับเจ้าหน้าที่ก็ไม่เห็นทำอะไรเลย ต่อไปคงไม่มีปลาให้ลูกหลานดูแล้ว
กระทู้: 19
ความเห็น: 6,994
ล่าสุด: 27-01-2566
ตั้งแต่: 11-03-2552
tarseahunter(669 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
ความเห็นที่ 21: 6 พ.ค. 55, 23:35
กระทู้: 0
ความเห็น: 11
ล่าสุด: 27-01-2566
ตั้งแต่: 10-01-2554
ความเห็นที่ 22: 6 พ.ค. 55, 23:38
กลัวอย่างเดียวครับ ต่อไปเราจะไม่มีปลาได้ตกกันอีก แล้วอุปกรณ์เทพที่ซื้อมาเรือนหมื่นมัมจะไปมีค่าอะไร ที่สำมะคันลูกหลานเราคงไม่ได้กินปลาธรรมชาติกันคงได้กินแต่ปลาเลี้ยง ช่วยกันนะครับพี ป้า น้า อา ถ้าตกได้ตัวเล็กๆก็ปล่อยเขาบ้าง เราจะได้มีปลาไว้ให้ตกกันนานๆและจะได้ใช้อุปกรณ์เทพของเราๆทุกคน
กระทู้: 1
ความเห็น: 4,062
ล่าสุด: 31-05-2567
ตั้งแต่: 17-11-2553
kwong.ch99(54 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
ความเห็นที่ 23: 7 พ.ค. 55, 09:08
++++1 ++++
กระทู้: 16
ความเห็น: 3,253
ล่าสุด: 27-01-2566
ตั้งแต่: 14-03-2555
F24(1302 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
ความเห็นที่ 24: 7 พ.ค. 55, 09:16

Fishn2gthr4ever
กระทู้: 108
ความเห็น: 8,773
ล่าสุด: 19-10-2567
ตั้งแต่: 13-07-2548
ความเห็นที่ 25: 7 พ.ค. 55, 09:28
ทุกอย่าง กำหนดได้ด้วยผู้บริโภคครับ

กินน้อยช่วยโลก

ขับรถ/เรือน้อยช่วยโลก

อยู่มืดๆช่วยโลก

ทนร้อนช่วยโลก

แต่งหน้าน้อยช่วยโลก

ตกปลาน้อยช่วยโลก

ตัดผมสั้นช่วยโลก

อาบอบนวดน้อย ช่วยโลก

เดินห้างน้อย ช่วยโลก

สรุป ใช้สิ่งที่ต้องหาจากการทำลายธรรมชาติให้น้อยลง ช่วยโลกได้หมดครับ

กรณีนี้ หากคนเรากินปลาที่กลัวจะสูญพันธุ์ให้น้อยลง หรือ เลิกกินสัก 1 ปี

ผมว่าคงไม่มีเรือลำไหนออกไปหาแบบนี้ ทุกอย่างอยู่ที่ผู้บริโภคเท่านั้นครับ

*****ไม่มีคนกินคนใช้ ใครจะไปหาหรือผลิตมาขาย 

ว่าแล้วก็ไปทำต้มยำปลาทูแม่กลองกินดีกว่า 
หน้าที่: 1 | 2 | 3 >
siamfishing.com © 2024
siamfishing.com/board/view.php?tid=646255&begin=0