ผมว่าผมโดนหลอก แน่เลย อันที่จริงมันเป็นนิยายเรื่องยาวใช่มั้ยครับน้า
มันสั้นครับ
แต่ไม่ค่อยมีเวลาพิมพ์ เวลาคิด เลยออกมาทีละกระปิดกระปลอย ขอบคุณครับที่ยังผ่านมาลองอ่าน
ตามลุ้น เอื้อยป้าหนิงคับ ว่าจะตกมัย
รอดครับ แต่เหมือนๆจะเมารถไฟนะ
ต่อเลย แล้วกันนะครับ มีเวลานั่งพิมพ์อีกนิดหน่อย...............
----------------------------------------------------------------------------------------------------
ยังไม่ทันที่เอื้อยป้าหนิง จะลงจากหลังคารถไฟ รถไฟก็เริ่มขยับวิ่งออกจากสถานี แต่เอื้อยป้าหนิงก็คิดๆ ว่าพ่อให้ลงไปทำไม ก็จะให้ขี่รถไฟนี่ไปบางกอกไม่ใช่หรือ สักพักเอื้อยป้าหนิงต้องสะดุ้งตกใจ เมื่อมีเสียงดังปู๊น ปู๊น ออกมาจากทางหัวขบวนรถไฟ เห้ย...รถไฟนี่มันร้องดังกว่าไอ้ทุยเราอีกแหะ แถมวิ่งเร็วกว่าด้วยมิน่าล่ะ ถึงให้ขี่รถไฟไปบางกอก เพราะมันวิ่งเร็วกว่านี่เอง บนนี้ลมมันแรงจังเลย แล้วคนที่มารอจะขี่รถไฟที่สถานีมันหายไปไหนหมดนะ เห็นมายืนรอตั้งเยอะ แล้วทำไมมีเราขี่รถไฟไปคนเดียว จริงๆหลังรถไฟนี่ มันน่าจะขี่ได้เป็นร้อยๆคน ว่าแล้วป้าหนิงก็นั่งไปเรื่อยๆคิดอะไรต่อมิอะไรเรื่อยเปื่อย
ไม่นานนักเอื้อยป้าหนิงก็เกิดอาการเคลื่อนไส้ โอ้ย..ข้อยเป็นอะไรไปนี่ทำไมมันอยากจะอ้วกจังเลย ไม่นานนักก็อ้วกออกมาจนได้ นั่งหลังคารถไฟร้อนก็ร้อน อ้วกจนเพลีย แล้วป้าหนิงก็เผลอหลับไปบนหลังรถไฟ นาน...แสนนาน ปู๊นๆๆๆๆ ปู๊นนนน เอื้อยป้าหนิงมาสะดุ้งตื่น อีกทีเมื่อรถไฟมันร้อง ตอนนี้มันเริ่มจะมืดแล้ว นี่เราเผลอหลับไปนานขนาดนี้หรือนี่ แล้วนี่ที่ไหนกันนี่บริเวณด้านข้างรถไฟ มีแสงไฟเต็มไปหมด ดูๆแล้วมันเหมือนมีอะไร วิ่งกันไปมาเต็มไปหมด จะว่าไอ้ทุยก็ไม่ใช่ ก็ข้างหน้ามันมีแสงไฟ หรือนี่จะเป็นบางกอกนะ
และแล้ว รถไฟก็ค่อยๆวิ่งช้าๆลง และไปจอดหยุดนิ่งที่สถานีแห่งหนึ่ง และมีเสียงจากลำโพงดังมา ..ที่นี่ ที่นี่ สถานีหัวลำโพง ท่านผู้โดยสารก่อนลงจากขบวนรถไฟโปรดตรวจดูสัมภาระสิ่งของ ของท่านให้เรียบร้อยด้วย อ้าว..นี่ถึงแล้วสินะเห็นพ่อบอกไว้ว่ารถไฟจะมาจอดที่หัวลำโพง แล้วให้ลงจากรถ แล้วมายืนรอเอื้อยป้าแป้ง เดี๋ยวเอื้อยป้าแป้งจะมารับ ว่าแล้วป้าหนิงก็ปีนลงมาจากหลังคารถไฟ เห้อ....ถึงซะที