ลำนี้ของทั่นกุ๊กไก่โปรสายล่อฟ้ามากับสอง สามสิบเมตร ทีมนี้มีกันแค่2คนเท่านั้นและไม่รับสมาชิกคนที่สามเพื่อให้ครบทีมเหมือนลำอื่นๆ ประมาณว่ากูจะไปกันแค่สองคนใครจะทำไม???
ผมไปเจอเรือแกจอดแอบอยู่ข้างเกาะในตอนกลางคืน มีม่านสีชมพูกั้นไว้รอบลำอย่างมิดชิด มีแสงสว่างจากเทียนเล่มน้อยลอดออกมาจากชายผ้าม่านรำไรๆ คลื่นลูกเล็กๆสาดซัดเรือลำน้อยกระเพื่อมเบาๆอย่างเป็นจังหวะจะโคน ลมทะเลที่แสนจะเย็นยะเยือกพัดแทรกตัวผ่านม่านสีชมพูเข้าไปทำให้ทั้งคู่หนาวสั่นมือเย็นเฉียบ เหมือนโชคชะตาจะซ้ำเติมฝนเจ้ากรรมดันตกลงมาในเวลานั้นพอดี บรรยากาศรอบตัวทำให้ทั้งคู่ยิ่งทวีความหนาวเหน็บมากขึ้นไปอีก ม่านผ้าชีฟองสีชมพูบางจ๋อยผืนนั้นไม่อาจที่จะกั้นความหนาวเย็นที่คุกคามเข้าไปในเรือได้เสียแล้ว
นาทีนั้นทั้งคู่เริ่มขยับมานั่งไหล่เบียดกันด้วยกายที่สั่นเทา โปรกุ๊กไก่ค่อยๆหันไปสบตาเพื่อนร่วมทีม เมื่อตาประสานกันทันใดนั้นเองฟ้าก็เริ่มแลปแปร๊บปร๊าบ คลื่นลมเริ่มรุนแรง ทะเลกำลังจะคลั่ง!!!
ท่ามกลางพายุฝนที่ถล่มลงมาอย่างหนัก โปรกุ๊กไก่รวบรวมความกล้าเผยอริมฝีปากที่แห้งเผือดและสั่นระริกเอ่ยกับสอง สามสิบเมตรว่า... สอง เมิงรีบๆเก็บคันเบ็ดรอบเรือให้หมดเลยนะ เด๋วฟ้าผ่ากรูอีก กรูกลัว กรูไม่กล้าออกไปเก็บ..
โฮแมนติกค่อดๆ...