อันที่จริง ถามว่า"บาปไหม"กับเกมส์(กีฬา)ตกปลา ถ้าถามคนร้อยคนก็คงตอบเหมือนกันว่า "บาป" แต่คำว่าบาปนั้นเราต้องรู้ก่อนว่ามันมาจากไหน....ร่ายยาว......บาปมาจากการผิดศีล อย่างเราเป็นคฤหัสถ์ รักษาศีล5 อันได้แก่
๑. ปาณาติปาตา เวรมณี งดเว้นจากการทำชีวิตสัตว์ให้ตกล่วงไป
๒. อทินนาทานา เวรมณี งดเว้นจากการถือเอาของที่เจ้าของมิได้ให้
๓. กาเมสุ มิจฉาจารา เวรมณี งดเว้นจากการประพฤติผิดในกาม
๔. มุสาวาทา เวรมณี งดเว้นจากการกล่าวเท็จ
๕. สุราเมรยมัชชปมาทัฏฐานา เวรมณี งดเว้นจากการดื่มสุราและเมรัย
ดูแค่นี้ก็ไม่น่าจะเป็นคำตอบที่ยากที่จะตอบ เพราะเรารู้อยู่เต็มอกอยู่แล้วครับว่ามันบาป แล้วยังไงต่อ คนที่ถาม หรือคนที่อยู่ระหว่างกลางระหว่างบุญและบาปอย่างเราๆท่านๆ จะตกปลา ไม่สบายใจใช่ไหม? บาปใช่ไหม? ร้อยแปด บราๆๆ ที่จะเป็นคำถามให้จิตฟุ้งซ่าน เอาแบบนี้สิครับ ถ้ามันรักษาศีลข้อ1ไม่ได้ตลอดเวลา ก็คิดแบบนี้
1. ในวันที่จะออกบ้านไปตกปลา ก็ให้อธิษฐานว่า วันนี้ตั้งแต่ กี่โมง ถึง กี่โมง "ฉันจะยอมตายดีกว่าศีลข้อที่1ขาด" สักวันละ 1-2ชั่วโมงในช่วงที่ยังไม่ได้จับคันเบ็ดก็ได้ อย่างน้อย1วัน ตกปลาแค่4ชั่วโมง อีก20ชั่วโมงเรายังได้รักษาศีลขอ1โดยไม่ได้เบียดเบียนหรือฆ่าชีวิตใดๆ (ส่วนช่วงเวลาที่เราถือเบ็ดตกปลาของวัน ศีลมันจะขาด-จะด่าง-จะทะลุอะไร ก็อย่าไปกังวลให้มาก คนเราพลาดบ้างเป็นของธรรมดานะ)
2.วันปกติ วันที่เราไม่ได้ทำกิจกรรมอะไรเกี่ยวกับการตกปลาใดๆเลย ตื่นเช้ามาก็นึกว่า "วันนี้ฉันจะเมตตาสรรพสัตว์ไม่มีประมาณ" แล้วพยายามทรงอารมณ์นี้ไปเรื่อยๆทั้งวัน ทำได้บ้าง ไม่ได้บ้างก็ไม่เป็นไร แต่ทำทุกวันในวันที่ไม่ได้ตกปลาก็แล้วกัน
3.หมั่นกรวดน้ำให้สัตว์พวกนั้นบ่อยๆ ขอให้เขาอโหสิกรรมให้
ทำแบบที่ว่ามานี้ทุกวันๆ สุดท้ายใจมันก็ทรงตัวในเมตตา+ศีล(ที่พอจะมีในชีวิตปกติ)เต็มที่ได้
(แบบว่า.....ไม่ต้องเครียดกับการใช้ชีวิตในความคงไว้ซึ่งพื้นฐานของชาวพุทธไงล่ะ)