เป็นที่รู้กันทั่วไปว่าสายหน้าตัดเล็กกว่านั้น ย่อมส่งเหยื่อที่มีน้ำหนักเท่ากันไปได้ไกลกว่า ** เอาว่าตีชะโด**
มันก็เลยเป็นจุดด้อยของสายโมโน ถ้าเราต้องการตีเหยื่อที่มีน้ำหนักมาก ๆ อย่างเช่นป็อบตัวโต ๆ
หรือ ริสโต้ 9 เซนต์ หากเอาสายที่มีหน้าแรงดึงสัก 8 ปอนด์ ( โมโน ) อาจตีได้ไกลโดยที่สายไม่ขาด
แต่ถ้าเกิดปลาชาร์จที่ระยะไกลล่ะ ความยืดตัวจะมีมากเท่าไหร่ ยิ่งยาวยิ่งยืด โอกาสที่เบ็ดจะฝังในปากนั้น
ก็น้อยลงไป ปลาล่าเหยื่อบ้านเราส่วนใหญ่ ในปากก็มักจะมีแต่กระดูก จริงอยู่อาจแย้งได้ว่า ก็ลับตัวเบ็ดให้คมสิ
เบ็ดจะคมแค่ไหนแต่ถ้าไม่มีแรงวัดมันก็ฝังคมยาก ด้วยที่ว่าปลากัดระยะไกล สายมันยืด แต่ถึงปลาจะเข้า
มากัดในระยะไกล้ ๆ ก็ตามด้วยสายหน้าตัดที่เล็ก แรงดึงก็เลยน้อยตามไปด้วย วัดโป้งอยู่ปลาลากสายเข้าตอ
มันไม่ได้วิ่งผ่านตอไปเฉย ๆ ส่วนมากจะพันเลยและหลายรอบด้วย บทสรุปก็คือ มันได้เหยื่อติดปากไป
แต่ถ้าจะเพิ่มเบรคให้หนักขึ้น สาย 8 ปอนด์จะไส่เบรคได้แค่ไหน ?? หรือถ้าจะแก้ด้วยไส่สายให้ใหญ่
ก็ต้องแลกมาด้วยระยะตีเหยื่อที่สั้นลงตามขนาดหน้าตัดสาย มันก็เลยมีพวกสายโหลดแรงดึงมากหน้าตัดเล็ก
ออกมาอุดช่องว่างของสาย โมโน แต่ก็ยังแก้ไม่หมด สายตีเกลียวล่ะ ขดเป็นวงล่ะ ผมลองมาแล้วครับ
สายโมโนยี่ห้อดี ๆ แพงระยับ ที่โฆษณาว่าไม่มีความจำ ยังไงมันก็เป็นวง ๆ ยิ่งสายด้านในหลอดยิ่งแล้วใหญ่
ทั้งนี้ ... ผมก็ไม่ได้ว่าสาย PE ดีกว่าสายโมโนเสมอไปนะครับ มันต้องว่ากันเป็นงาน ๆ ไป
อย่างงานจิ๊ก ถ้าสายโมโนดีกว่าจริงทำไมไม่เห็นมีไครไช้ แต่ถ้าอย่างลอยสายอินทรีสาย PE ก็จบ
** ผมเป็นแค่คนชอบตกปลาธรรมดาคนนึง ที่มีไช้ทั้งสาย PE / โมโน ความเห็นของผมอาจมีผิดบ้าง
ถูกบ้าง ยังไงก็ถือว่าแลกเปลี่ยนความรู้กันนะครับ **