สยามฟิชชิ่ง
หน้าแรก|กระดาน|รีวิว|ประมูล|ตลาด|เปิดท้าย
login | สมัครสมาชิก | วิธีสมัครสมาชิก | ลืมชื่อ/รหัส | login ไม่ได้? | 23 ธ.ค. 67
@เรื่องเล่าในการตกปลาแบบที่เจอสยองๆของน้าๆป้าๆครับ@: SiamFishing : Thailand Fishing Community
หน้าที่:< 1 | 2 | 3 | 4 | 5 >
 กระดาน > อื่นๆ
ความเห็น: 120 - [4 ธ.ค. 53, 16:34] ดู: 26,185 - [23 ธ.ค. 67, 02:07]  ติดตาม: 1 โหวต: 43
@เรื่องเล่าในการตกปลาแบบที่เจอสยองๆของน้าๆป้าๆครับ@
กระทู้: 87
ความเห็น: 15,712
ล่าสุด: 12-11-2567
ตั้งแต่: 01-12-2549
ความเห็นที่ 76: 18 พ.ย. 53, 21:49
สวัสดีครับป้าหนิง iron_rose  ขอบคุณครับ

สวัสดีครับน้า faroขอบคุณครับ

สวัสดีครับน้า  เก๋_โขทัย ขอบคุณครับ

สวัสดีครับน้า Naeng ขอบคุณครับ

สวัสดีครับน้า FF_driftking ขอบคุณครับ ที่เล่าสู่กันให้ทราบครับ...เป็นผมก็คงต้องวิ่งเข้าไปหาเพื่อนก่อนและครับไปตั้งหลักก่อนแล้วค่อยวิ่งไปดูอีกทีให้แน่ใจครับ....เอาไป4กระโหลกครึ่งครับ

สวัสดีครับน้า cutebank ขอบคุณครับน้าทีเล่าสู่กันฟัง...วิญญานที่นุ่งกางเกงแดง...แล้วเหมือนนักรบโบราณ...เป็นเจ้าพ่อเขาใหญ่ท่านมาเตื่อนลูกน้องท่านไม่ให้หลับหรือเปล่าครับ...ทหารก็คือลูกน้องเจ้าพ่อเขาใหญ่ครับสมัยก่อนเลยมาเตือนว่าภัยกำลังจะมาถึงครับ.......เอาไป4กระโหลกครับ

สวัสดีครับน้า แอบอัด ขอบคุณครับไม่มีเรื่องเล่าสู่กันให้ทราบพาหรือครับ...ผมเวลาไปเข้านอนในป่าที่ไหนก่อนนอนต้องไหว้....หรือเปิดชาเขียวแล้วต้องเซ่นเจ้าที่เจ้าทางเสมอเลยครับ
กระทู้: 107
ความเห็น: 59,725
ล่าสุด: 09-12-2567
ตั้งแต่: 16-08-2544
A21(2434 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
ความเห็นที่ 77: 18 พ.ย. 53, 21:51
ตามอ่านชมรมหัวลุกกกกกกกกกกด้วยครับน้าเหลือง....
กระทู้: 131
ความเห็น: 18,073
ล่าสุด: 03-01-2567
ตั้งแต่: 25-02-2550
khainui2511(8093 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
ความเห็นที่ 78: 18 พ.ย. 53, 22:00
มั่งจิคร๊าบบบบ....

  เรื่องที่ไปตกปลาเนี่ยแหละครับ...

  เมื่อเดือนกันยายน 2543 ผมกับเพื่อนไปตกปลากดตอนกลางคืนกัน 2 คนที่ลำห้วยแกว แถวฝายน้ำล้นรอยต่อระหว่าง อ.ทรายมูล จ.ยโสธร กับ อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด
วันนั้นน้ำเยอะมาก ปกติจะนั่งอยู่ฝั่งยโสธรเนี่ยแหละครับ แต่วันนั้น ปลาไม่ยอมกินเบ็ดเลย ผมกับเพื่อนก็เลยชวนกันข้ามไปฝั่งร้อยเอ็ด (โห...ดูเหมือนไกลมากเลย... )
นั่งตกได้สักพัก ผมก็เห็นมีเงาคนมานั่งข้าง ๆ เพื่อน    "เจ๊ยยยยย!!!...."    ผมร้องด้วยความตกใจ จนเพื่อนก็ตกใจด้วย
"อะไรเหรอ.?"
"อ๋อ..เห็นเงาต้นไม้ไกล ๆ นึกว่ามีคนมานั่งข้าง ๆ "    ผมคิดแบบนั้นจริง ๆ และก็ไม่ได้กลัวด้วย
  เราตกปลากันต่อไป อีกประมาณ 10 นาที มีชายคนหนึ่งขับรถยนต์เก๋งเก่า ๆ ประตูข้างคนขับไม่มีมาถามหาเส้นทางจะไปฝั่งยโสธร
"อ้าย ๆ รู้จักบ้านครูคิงส์บ่ บ้านสร้างแต้นั่นแหม"  แกถาม
ผมกับเพื่อนก็บอกไม่รู้จัก แล้วผมก็นั่งตกปลาต่อ ชายคนนั้นก็คุยกับพวกผมไปเรื่อยเปื่อย ประมาณซัก 5 นาที แกก็ลงมาตรงสันฝายน้ำล้น
ปกติถ้าหน้าแล้งรถจะใช้สัญจรไปมาได้ เนื่องจากเป็นฝายลาดไม่ใช่ฝายตั้ง ผมเข้าใจว่าแกคงจะลงไปหยั่งดูน้ำว่าที่ล้นว่าลึกมากไหม? เพื่อจะดูว่ารถยนต์แกจะผ่านได้ไหม..
  "ต๊าบบบบ...."  เสียงที่ดังขึ้น ทำให้ผมกับเพื่อนที่ปิดไฟจากแบตเตอรี่ แต่ยังมีแสงจากดวงจันทร์ส่อง พอให้มองเห็นว่า แกลื่นสันฝาย อาจจะด้วยตะไคร่น้ำก็เป็นได้
เห็นแกล้มนอนคว่ำเงยหน้าขึ้นโดนน้ำพัดลงไปตามความลาดของฝาย....ไม่มีเสียงของชายคนนั้น ขณะที่ผมกับเพื่อนยังอึ้งอยู่..
  พอพ้นบริเวณที่ลาดของฝาย น้ำที่แรงทำให้แกจมลงไปกับสายน้ำพร้อมกับหายไปเลย ผมกับเพื่อนก็เปิดไฟส่องตาม...
เงียบ...ประมาณเกือบสองนาที แกโผล่พรวดพร้อมกับร้องโฮกฮากเหมือนเสือ พร้อมกับจมลงไปอีก ผมกับเพื่อนรีบเก็บเบ็ดทันที
เพื่อนบอกว่าช่วงนั้นเหมือนสายเอ็นจะโดนชายคนนั้น เขาจึงกระชากอย่างแรงจนเอ็นขาด ด้วยกลัวว่าเบ็ดจะเกี่ยวชายคนนั้น
  เสียงโฮกฮาก 3 ครั้งติดกัน ทำผมกับเพื่อนก็ยิ่งตกใจกันใหญ่ ทำอะไรไม่ถูกเลย...ครั้งที่ 4 แกโผล่พรวดอีกครั้ง...
"พี่........................"
แกร้องแบบนี้อยู่ 2 ครั้ง พวกผมก็บอกให้ว่ายเข้าฝั่ง พร้อมกับวิ่งไปด้านล่างของฝายเพื่อจะหาไม้ให้แกจับ แต่ไม่ถึงแก...
"พี่.........................."
ครั้งสุดท้ายที่แกร้อง....พร้อมกับจมหายไปกับสายน้ำ...........
  ผมกับเพื่อนมองหน้ากันด้วยความตระหนกพอจะเดินขึ้นฝั่งก็พึ่งรู้ว่า ไม่ได้ใสรองเท้า  เท้าทั้งสองข้างของพวกผมทั้ง 2 คน เต็มไปด้วยหนาม
แต่ตอนที่ลงมาไม่รู้สึกอะไรเลย.....

      แล้วผมกับเพื่อนก็เลยค่อย ๆ พากันขึ้นบนฝั่ง ก่อนจะค่อย ๆ จับมือกันเดินข้ามกลับฝั่งยโสธร น้ำสูงระดับหัวเข่า แต่เชี่ยวมาก...
ตอนไป ต่างคนต่างไป...ขากลับ ค่อย ๆ จูงกัน....

      จากนั้นผมกับเพื่อนก็ไปบอกกำนันให้ชาวบ้านมาช่วยกันค้นหา...ส่วนผมกับเพื่อนก็กลับบ้าน ตอนนั้นตี 2 กว่า ๆ แล้ว และก็เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้ชาวบ้านฟัง.....
"พวกเจ้าไปตกตรงไหน...."
"อ๋อ..พวกผมข้ามไปฝั่งเสลภูมิ..." พวกผมตอบ
"ตรงนั้นเป็นศาลเจ้าปู่เก่าเด้(นะ)นั่น.."     

      เช้าวันต่อมาถึงรู้ว่าชายคนนั้น เป็นอาจารย์สอนพละอยู่ที่ ร.ร.โพธิ์ทองพิทยาคม ต.โพธิ์ทอง อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด  ญาติๆ ช่วยกันงมศพแต่ก็หาไม่เจอ.....
  ในที่สุดตอนบ่าย 2 จึงได้ให้ "หมอธรรม" (คงคล้าย ๆ หมอผีมั้งครับ) มาทำพิธีให้พ่อแม่บอกกล่าว....แล้วร่างแก็ค่อย ๆ ลอยขึ้นมา โดยเอามือขึ้นมาก่อน....ไม่รู้ชี้หน้าพวกผมหรือเปล่า...
 
          ผมแปลกตรงที่ว่า ครูพละ ทำไมว่ายน้ำไม่เป็นเนี่ยแหละ...หรือมีเหตุอะไรที่ทำให้ว่ายไม่ได้ และสิ่งที่ผมเห็นมานั่งข้าง ๆ เพื่อน ชาวบ้านบอกว่า "ขวัญ" ออกจากร่างมาก่อนแล้ว  ( "ขวัญ" ในภาษาอีสาน คงจะเป็นวิญญาณหรือเปล่าครับ...)

  ผมนั่งพิมพ์ไป...ขนลุกไป....บรึ๋ยยยยยยยยยยย.....  นี่คือเหตุการณ์จริงครับ...
แล้วผมก็มีหมายให้ไป สภ.ต.โพธิ์ทอง (สมัยก่อนจะเป็น สภ.อ.(อำเภอ) และ สภ.ต.(ตำบล) ปัจจบันจะเหลือเพียง สภ.)  เพื่อให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่บ้านเมือง....

จบครับ....
กระทู้: 1
ความเห็น: 45
ล่าสุด: 27-01-2566
ตั้งแต่: 25-10-2553
nongkarn01(14 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
ความเห็นที่ 79: 18 พ.ย. 53, 22:10
แต่ล้ะเรื่องอ่านแร้วนอนไม่หลับเลย
กระทู้: 42
ความเห็น: 2,035
ล่าสุด: 15-01-2567
ตั้งแต่: 20-06-2552
XsteaM(1031 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
ความเห็นที่ 80: 18 พ.ย. 53, 22:58
เรื่องเกิดขึ้น เมื่อไม่กี่เดือนมานี่เอง

ตอนไปเกาะขาม  น้าๆหลายๆท่านอาจได้อ่านกระทู้มาบ้าง

พักที่บ้านพัก (ไม่บอกว่าอะไร)

ประมาณ ตี 2 แนนนอนในห้องพักกับลูก( 2 ขวบกว่า) กัน 2 คน เอ็กซ์กับน้องที่ไปด้วย ไปตกปลาปลายสะพาน

น้าที่ไปด้วยอีกคน หลับอยู่อีกหลัง

หน้าระเบียงห้อง มีโมบายเปลือกหอย อยู่หลายอัน  อยู่ๆ ก็ได้ยินเสียงก๊อกแก๊กๆ  เดินรอบๆบ้าน แต่ก็ไม่เท่าไหร่  โทรจิกเอ็กซ์ตลอด แต่ไม่กล้าบอก

สักพัก โมบายที่ห้อยอยู่ตามหลังคาหน้าระเบียง เสียงดังมากก  ลุกขึ้นไปยืนดู แต่ไม่ได้ออกไปนอกห้อง มันแกว่งอันเดียว  แกว่งแรงมาก  เหมือนมีคนจับแกว่ง  อันที่อยู่ข้างๆ  ไม่มีอันไหนแกว่งเลย นิ่งสนิท

เอาแล้ว ทำไงดี  โทรหาเอ็กซ์อีก  ได้ปลายัง  ได้ปลายัง  กลัวแต่ก็ไม่กล้าบอก

สักพักก็เงียบ 

แล้วมันก็มีความรู้สึกว่า บ้านสะเทือนเบาๆเหมือนมีคนเดินขึ้นมาหน้าระเบียง ใจก็ดีใจ คิดว่า เอ็กซ์กลับมาแล้ว

ปล่าวเลย  ลุกขึ้นไปดู มีแต่ความว่างเปล่า  แล้วใครมาเดินมะกี๊ล่ะนั่น  หยิบโทรศัพท์มาโทรหาเอ็กซ์อีก

เค้าบอกว่ากำลังเดินกลับมา  ใจชื้นเลย  เปิดประตูออกไปรอหน้าระเบียง  พร้อมกับความ  งง 

เมื่อกี๊  อะไรอ่ะ  ทุกอย่างเป็นปกติมาก  ยังคลุมเคลืออยู่เลย

สงสัยอย่างแรง  อะไรอ่ะ
กระทู้: 8
ความเห็น: 412
ล่าสุด: 08-03-2566
ตั้งแต่: 03-09-2552
ความเห็นที่ 81: 18 พ.ย. 53, 23:35
พรุ่งนี้มาอ่านต่อดีกว่า ขนหัวลุกแล้วครับ น่ากลัวทุกเรื่องเลย 
กระทู้: 0
ความเห็น: 182
ล่าสุด: 27-01-2566
ตั้งแต่: 16-07-2550
ความเห็นที่ 82: 18 พ.ย. 53, 23:49
เสียวทุกเรื่อง  อย่าลืมปิดหน้าต่างก่อนนอนนะครับ 
กระทู้: 50
ความเห็น: 2,638
ล่าสุด: 19-12-2567
ตั้งแต่: 21-08-2550
SR20DET(647 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
ความเห็นที่ 83: 19 พ.ย. 53, 00:01


กระทู้: 10
ความเห็น: 4,566
ล่าสุด: 08-09-2567
ตั้งแต่: 13-01-2553
pomkorat(711 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
ความเห็นที่ 84: 19 พ.ย. 53, 00:14
++++  สวัสดีครับน้าผู้การเสือ

      ผมเองก็เคยเจอครับ ถึงไม่เห็นตัวแต่ก็เห็นวิ่งไปเป็นทางเลยครับ

                  เรื่องมีอยู่ว่า  ทีม 100 โล นัดเจอกันที่  ลำแซะ  เรือ 2 ลำ 4  คน
ลงเรือเลาะตีปลาตามตอไม้ และโขดหิน มาเรื่อยๆ  จนบ่ายจึงเข้าไปตีในหุบ เข้าไปกลางๆหุบ
มีก้อนหินใหญ่ๆหลายก้อน ฝั่งซ้ายมือมีร่มเงา  จึงชวนกันขึ้นฝั่งนั่งพักบนชานหิน ทั้ง 4 คน
นั่งคุยกันก็ได้ยินเสียงปลาช๊าดเหยื่อ  อยู่ฝั่งก้อนหินอีกด้าน ผมถือคันเบ็ดมาด้วย กระโจนก่อนเลยครับ
                กระโดดลัดเลาะตามก้อนหินมาอีกทาง เอี้ยวตัวข้ามชานหินมาอีกด้าน เห็นน้ำขึ้นวง
ห่างไปประมาณ 5 เมตร จากขอบฝั่ง เงื้อเบ็ดจะตีเหยื่อ แล้วก็ต้องค้างครับ เพราะห่างผมไม่ถึงเมตร
มีบางอย่างพุ่งลงน้ำระหว่างผมกับก้อนหินซึ่งกว้างแค่เมตรเศษๆ น้ำกระจายเป็นวง แหวกเป็นทาง
ไปกลางน้ำที่มีสันเนินดิน  ห่างไปประมาณ 10 เมตร สิ่งที่ทำให้ผมต้องอึ้งก็คือ ผมมองไม่เห็นสิ่งที่ทำ
ให้น้ำกระจายเป็นวง และแหวกเป็นทางเหมือนมีอะไรสักอย่างเลียดไปบนผิวน้ำ พอถึงชายเนินกลางน้ำ
ก็หาย และ มีรอยน้ำแหวกด้านฝั่งตรงข้ามของเนินอ้อมไปทางด้านขวาอีกประมาณ  20  เมตร แล้ววิ่งตัดหาย เข้าฝั่งด้านกองหินริมน้ำฝั่งขวามือของผม รวมเวลาไม่น่าจะเกิน 6-8 วินาที
              ทุกวันนี้ผมก็ยังหาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้ ว่าเกิดอะไรขึ้น  ลมก็ไม่มี น้ำก็นิ่ง แล้วที่ผมเห็นมันคืออะไร    ที่วิ่งเลียดน้ำไปเป็นทางแต่ไม่เห็นตัว หรือโชคดีที่ไม่เห็นตัวแต่เห็นเป็นทางแทน

                            สถานที่เหตุการณ์  เขื่อน ลำแซะ อ.ครบุรี โคราช




  :
กระทู้: 2
ความเห็น: 160
ล่าสุด: 21-05-2567
ตั้งแต่: 04-03-2552
ความเห็นที่ 85: 19 พ.ย. 53, 00:42
ผมเจอบ่อยครับ (แล้วแต่ความเชื่อของแต่ละท่านครับ) แต่ประมาณ2ปีที่ผ่านมานี่ไม่เจอ เอาเรื่องที่เกี่ยวกับปลาแล้วกัน
เมื่อก่อนตอนเด็กๆ บ้านนอกอ่ะน๊ะ อายุน่าจะประมาณ 12-13 (ผ่านมา20 กว่าปีแล้ว) ข้างบ้านเค้าชวนบ้านผมไปครอบปลา(เอาแหครอบตามริมตลิ่งตามกอหญ้าแล้วงมเอา) ตอนนั้นน่าจะราวๆ 5 ทุ่มได้ครับ ครอบไปเรื่อยๆ ตามขอบบ่อ ซึ่งน้ำบ่อนี้มันก็ลึกมากในความรู้สึก ประมาณหัวไหล่จนถึงมิดหัว ก็พอได้ปลาบ้างพวกปลานิล ปลาหมอ ปลาช่อน ปลาดุก พอใกล้ๆ เที่ยงคืนก็จะกลับกันแล้ว ก็เลยครอบครั้งสุดท้ายกัน ทีนี้ครอบไปแล้วแหมันกระตุกค่อนข้างแรงเลยครับ ก็ช่วยกันกดตีนแหก่อน เดินย่ำและดำงมไปเรื่อยหาตัวปลา เจอครับปลาช่อนตัวใหญ่น่าจะโลหรือโลกว่า แล้วเราก็กลับบ้านกันเดินกันไม่ไกลครับ 20 นาที น่าจะได้ ถึงบ้านเราก็แบ่งปลากัน พ่อผมก็จะทำปลาเลยเพราะมีปลาบางส่วนตายแล้วจะได้ทำทีเดียว ด้วยอาการที่เป็นเด็กก็สนุกไม่ง่วง เลยนั่งดูพ่อทำปลา พ่อก็ทำปลาที่ตายก่อน ตัวเล็กๆ ก่อน ทีนี้พอมาถึงปลาช่อนตัวใหญ่สุดท้ายผมก็ยังจับยังเอานิ้วไปจิ้มๆ มันเล่นอยู่ ตัวมันก็เนื้อตึงๆเพราะมันยังสดอยู่ แต่น้าๆ เชื่อมั๊ยครับ (ผมนั่งดูอยู่ตลอด) พอเริ่มขอดเกล็ดปลาหนังปลาที่ขอดน่ะครับมันยุ่ยๆ ยังไงก็ไม่รู้เหมือนมันตายมานานจนเริ่มเน่า ขอดเกล็ดไปเรื่อยๆ หนังมันก็เหลวๆ น่ะครับน้า เริ่มมีกลิ่นแล้วด้วย พอผ่าท้องปลาครับ น้าครับข้างในปลามันเน่าแล้วครับแต่ไม่มีหนอน ปลาก่อนขอดเกล็ดน๊ะสดๆ เนื้อแข็งๆตาใสๆ โหผีหลอกเด็กตอนนั้นพ่ออยู่ด้วยครับเลยไม่กลัวและที่ทำปลาก็ไฟสว่าง พ่อก็เอาปลาตัวนี้ไปทิ้งในสวนไกลๆ ครับกลัวเหม็น จบแล้วครับน้าๆ
ส่วนเรื่องอื่นๆ ขอไม่เล่าน๊ะครับ แต่จะขอเกริ่นให้ฟัง (จะเกริ่นให้อยากทำไมว้า ผมเพียงต้องการจะบอกไว้เผื่อมีใครเคยเจออย่างผม) -ผีอำเคยเจอครับ เด็กสายวิทย์บอกนอนทับเส้นกดเส้น ผมก็เด็กวิทย์ครับต้องเจอกับตัวเองครับ คนที่อำก็ไม่ใช่ใครญาติผู้ใหญ่สุดที่รักครับและท่านก็คงรักผมมากเช่นกันเลี้ยงผมมาตั้งแต่เด็กท่านเสียได้ไม่นาน เล่นมานอนอยู่ข้างๆ ผมเลยครับแต่นอนต่ำกว่าผมน่าจะระดับเอวขยับตัวไม่ได้หรอกครับหันคอยังไม่ได้เลยสวดครับ หลายบทสวดทั้งพุทธสวดทั้งคริสต์ ไม่ไปครับหายไปเอง(เรื่องนี้ขอเล่าเลยแล้วกันไม่เกริ่นแล้ว) ท่านเป็นยายผมเองครับ ผมรักยายผมมาก ยายผมก็คงรักผมมากเช่นกัน ท่านเป็นโรคชราครับ อายุเยอะ วันที่ยายเสียเป็นวันที่น้องชายผมบวชผมกลับมาของที่บ้านเพื่อไปช่วยงานบวช พ่อกับแม่ก็อยู่ที่งานญาติกับเพื่อนบ้านก็มาดูยาย ผมมาถึงบ้านยายก็อาการไม่ดี หายใจขาดเป็นช่วงๆ ผมก็เข้าไปพยุงยาย ผมก็เรียกยาย ยาย ยายก็จากไปอย่างสงบในอ้อมกอดผม(ฉากนี้มันคงไปเหมือนกับหนังหลายๆ เรื่องแต่มันเป็นเรื่องจริงสำหรับผมครับ) ยายก็นั่งไป น้ำตาผมไหลครับ มันไหลเองไม่มีเสียงร้องไห้ ไม่มีเสียงสะอื้นมีแต่น้ำตาเยอะมากๆ (ตัดบทเลยแล้วกันงาน 2 งานในวัดเดียวเหนื่อยสุดๆ) หลังจากเผายายเสร็จก็กลับบ้าน ผมมารอที่บ้านก่อนแล้ว(เตรียมของ)พอเอารูปยายขึ้นบ้าน ผมก็มองญาติผมคนนึง(เค๊าเป็นร่วมกตัญญู) ผมถามเขาว่ารู้ไหมเขาบอกรู้แล้ว(กลิ่นมาเลยครับ ขอโทษน๊ะครับอาจจะน่ากลัวไปนิดกลิ่นตอนเปิดฝาโลงครับ หมอมาฉีดฟอมารีนให้ช้าฟอมารีนจึงไม่ค่อยเข้า) ผมก็ไม่ได้กลัวอะไร เพราะผมไม่ใช่คนกลัวผี ผมนอนคนเดียวทุกคืนที่บ้านที่ยายตาย จนถึงวันเผาเพราะคนอื่นเตรียมงานบวชและเฝ้าศพ(ญาติเยอะมากกกกกจริงๆ) เอารูปมาไว้บ้านก็ไม่มีอะไรผ่านไปได้ประมาณ 3 เดือนครับ นอนอยู่ตอนกลางคืน(ผมเป็นคนติดผ้าห่มหน้าร้อน ฝน หนาว ผมห่มผ้าตลอด) มันพลิกตัวลำบากเหมือนมีอะไรอยู่ทางด้านซ้าย จึงลืมตาดู ตั้งใจจะผงกหัวขึ้นมาดูมันทำไม่ได้ ได้แต่ลืมตา น้าครับนี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ผมกลัวผี ผมเห็นยายของผม(ในสภาพดีน๊ะครับ)มานอนเบียดอยู่ข้างๆ (ผมนอนกับยายมาตั้งแต่เด็กจนถึงอายุ 12-13 น่าจะได้) โอยยยย ตายยยยย งานเข้า มันเหมือนจะร้องไห้แต่ไม่ออก จะเรียกพ่อมันก็อ้าปากไม่ขึ้นทั้งๆ ที่ผมนอนอยู่หน้าห้องพ่อ ผมเริ่มสวดมนต์ นะโมก็แล้ว บทอื่นๆ ก็แล้ว ผมสวดได้หลายบท(เพราะผมเรียนโรงเรียนวัดต้องสวดมนต์ทุกวันศุกร์) ยายก็ไม่ไป ผมก็สวดแบบคริสต์ วันทามารีอาฯ ท่านก็ยังอยู่ ท่านยังอยู่อีกพักใหญ่ แล้วก็หายไปเอง ผมขยับตัวได้เป็นปกติ กำลังจะตะโกนเรียกพ่อ แต่ในใจคิดว่าไม่เกิดประโยชน์เพราะยายไปแล้ว(คิดแบบมีสติ) ผมนอนคลุมโปงถึงเช้าเลยครับ น้าๆ เชื่อไหมครับเหงื่อผมออกจนผ้าห่มผมชื้นเลย เช้ามาผมก็เล่าให้พ่อกะแม่ฟัง จบ..........
- ผีตามข้างทางก็เคยเจอ - ผีเด็กก็เคยเจอ - ผีเด็กผู้หญิงมากระโดดบนเตียงนอนก็เคยเจอ - แบบเสียงมาร้องไห้ตอนดึกๆ ก็มี - กุมารกับนางตะเคียนก็มี (ที่วัดแห่งหนึ่งใน อ.นครชัยศรี) มาหาผมก่อนไปวัดแห่งนี้1 วัน นางตะเคียนสูงสวยสง่ามากครับชุดไทยยืนอยู่โคนต้น มาหาผมตอนกลางคืนในฝัน เล่าให้ฟังนิดนึง หลับสนิท ฉากโดยรอบผมจำไม่ได้ จำได้ว่ามีต้นไม้ใหญ่อยู่ห่างจากผมไม่มาก มีผู้หญิงชุดไทย มีสไบข้างสวยมากยืนอยู่โคนต้น มีเด็กผม จุกวิ่งมาจับมือผมแล้วบอกว่าอยากมาอยู่ด้วย รู้สึกว่าผมก็ไม่ได้ตอบอะไรไป แล้วเขาก็วิ่งไปหาผู้หญิงชุดไทยที่ยืนอยู่โคนต้นไม้(ผมก็ไม่รู้หลอกครับว่าเป็นต้นตะเคียน) แล้วผมก็จำอะไรไม่ได้อีกเลย พอรุ่งเช้าญาติผมก็มาจากรังสิตเพราะเป็นวันเสาร์อาทิตย์ จะมาชวนยายผมไปวัด (เรื่องนี้เกิดขึ้นก่อนที่ยายจะเสียไม่เกี่ยวเนื่องกัน) ผมก็ไปด้วย วัดนี้ตั้งอยู่ อ.นครชัยศรี (น่าจะใช่) ก็เข้าไปปิดทองไหว้พระกัน  พอไหว้เสร็จแล้วก็จะไปกินก๋วยเตี๋ยวกันที่ท่าน้ำของวัด กำลังเดินไปท่าน้ำของวัด ผมก็เหลือบไปเห็นสิ่งที่อยู่ด้านซ้ายมือของผม ทำให้ผมขนลุก(แต่ยิ้มน๊ะครับ)เพราะตกใจวันมันเป็นจริงได้อย่างไร ผมสะกิดแม่ผม แล้วบอกแม่ว่าเมื่อคืนนางตะเคียนต้นนี้ไปหาพร้อมกับกุมาร ผมก้เข้าไปไหว้แล้วอ่านประวัติมานิดหน่อย เป็นตะเคียนจมน้ำนานนนนนนนมากแล้ว ชาวบ้านพึ่งพบ หรือผุดขึ้นมาเองจะไม่ได้ แล้วจึงลากขึ้นมาไว้บนบกที่นี่ ชักยาวเกินไปแล้ว เอาเป็นว่าเจอมาเยอะ ทั้งในและนอกสถานที่ เจอจนชิน จนเลิกกลัวมั๊ง แต่ไม่ลองของ และไปไหนมาไหนผมไม่เคยลบหลู่สถานที่ใดๆ เพียงบอกว่า ถ้าใครเดือดร้อน ใครต้องการอะไร บอกผมได้แต่ให้มาดีๆ ช่วยได้จะช่วย แม่เป็นคนกลัวผีครับ เลยบอกว่าเจอบ้างสิ เจอบ่อยๆ เดี๋ยวก็ชิน 555  โดนสวดยับเลย
เป็นคนดีครับน้าสบายใจ พระอยู่ในใจครับขอให้มีศรัทธาและความเชื่อ แต่มีพระอยู่ที่คอก็อุ่นใจดีครับเคยออกนอกสถานที่เจอครับมาดีเด็กผู้หญิงราว6-7 ขวบแต่ก็กลัวๆนิด ไม่มีพระค้นได้เหรียญบาทมา1 เหรียญอุ่นใจขึ้นเยอะเพราะมีรูปในหลวง (ทั้งหมดเป็นเรื่องจริง 100% สำหรับผม ไม่ต้องการให้ใครเชื่อ แล้วแต่ความเชื่อส่วนบุคคลครับน้า)
นี่มันสยามฟิชชิ่งหรือชมรมขนหัวลุกหว่า 
กระทู้: 5
ความเห็น: 470
ล่าสุด: 27-01-2566
ตั้งแต่: 14-11-2551
taz117(23 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
ความเห็นที่ 86: 19 พ.ย. 53, 00:56
หวัดดีครับน้าผู้การเสือ
ผมมีเรื่องเล่าเหือนกันครับ เรื่องนี้เกิดขึ้นหลายปีแล้ว มันเกิดขึ้นกับคนรู้จักครับ คือว่าผมไม่ขอเอ่ยชื่อคนที่เล่าให้ผมฟังนะครับ เพราะว่าถ้าเอ่ยชื่อแล้วคนที่เคยไปตกปลาที่สถานที่นั้นต้องรู้แน่ว่ามันคือที่ไหนทุกวันนี้สถานที่นั้นก็ยังเปิดให้บริการอยู่ครับ
เข้าเรื่องเลยดีกว่าครับ คือเรื่องมันมีอยู่ว่า พี่คนที่ผมรู้จักเค้าเป็นหลานเจ้าของบ่อตกปลาใน กทม.ครับ เค้าเล่าให้ผมฟังว่ามีอยู่คืนหนึ่งพี่เค้าเดินตรวจบ่อตอนกลางคืนครับเค้าต้องตรวจบัตรลงเวลาครับ คืนนั้นเค้าก็เดินตรวจตามปกติครับ พอพี่เค้าเดินมาถึงมุมบ่อตรงบริเวณนั้นเมื่อก่อนมีศาลเพียงตาตั้งอยู่ครับแต่ตอนนี้ไม่แน่ใจว่าลื้อศาลไปรึยังเพราะว่าไม่ได้เข้าไปนานแล้ว พี่เค้าเดินฉายไฟตรวจไปเรื่อยๆแล้วพอดีพี่เค้าส่องไฟไปเจอคนนั่งแกว่งขาเล่นน้ำอยู่ครับตอนนั้นดึกมากแล้วประมาณตีหนึ่งแล้วครับ พี่เค้าก็เดินไปหาเพื่อที่จะขอตรวจบัตร แต่พอเข้าไปใกล้ๆพี่เค้าถึงเห็นว่าคนที่นั้งแกว่งเท้านั้นไม่มีหัวครับ บ่อนี้มีคนเจอหลายคนแล้วครับ บ่อตกปลาที่ว่านี้อยู่ใน กทม.นะครับ ยังมีอีกหลายเรื่องนะครับที่บ่อนี้ รุ่นน้องผมก็เคยเจอ เด็กบ่อที่ทำงานรู่นก่อนก็เจอกันหลายคยครับ ผมขอเล่าแค่นี้ก่อนนะครับ
กระทู้: 48
ความเห็น: 3,335
ล่าสุด: 13-12-2567
ตั้งแต่: 16-09-2550
ความเห็นที่ 87: 19 พ.ย. 53, 01:32
หวัดดีค่ะ  ท่านผู้การ  เสือออออออ 

น้องมู๋อยากเล่ามั่งอ่ะค่ะ.....เรื่องของ    พี่คนนั้น

เรื่องที่มู๋เจอมา  มันเกิดมาเกือบ  2  ปี  ได้แล้วหล่ะค่ะ  ทุกคนที่เคยเจอกับมู๋น่าจะรู้ว่ามู๋เป็นคนชอบตีเหยื่อแนวป๊อบเปอร์  และเวลาเข้าบ่อก็จะเทคแคร์ตัวเองตลอด  ก่อนเกิดเหตุเรื่องนี้ก็เหมือนกันค่ะ  วันนั้น  ที่บ่อหนุ่ม....อากาศก็เริ่มเย็นๆเหมือนต้นหนาวแบบนี้แร่ะค่ะ  พอดีคืนนั้น  มีพี่ๆตั้งวงกินเหล้ากันที่ซุ้มหลายกลุ่ม  ทางบ่อก็เลยปิดดึก  พี่เหลียวก็นั่งคุยกะพี่ๆที่รู้จักที่ซุ้มรอมู๋เหมือนทุกครั้ง  ....ส่วนมู๋เองเดินไปท้ายบ่อคนเดียว  แถวๆ  ฝั่งหน้าบ้านพักน้องเด็กบ่อที่ชื่อลานั่นแร่ะค่ะ....มู๋ก็ตีป๊อบเปอร์  ปลาก็กัดเรื่อยๆ  ปลากัดที  มู๋ก็กรี๊ดกร๊าด  ตะโกนอวดพวกพี่ๆที่นั่งกินเหล้ากันอยู่เป็นระยะๆ
....พอเวลาประมาณ  เกือบๆ  3  ทุ่ม  พี่เหลียวเริ่มตะโกนเรียกมู๋กลับบ้าน
แต่มู๋  มองเห็น...พี่คนนั้น ?  ยังยืนตีเหยื่ออยู่ตรงแถวๆที่ตั้งเสาไฟกังหันท้ายบ่อ  มู๋ก็เลยยังส่งเหยื่อต่ออีก  สองสามไม้ค่ะ....แล้วปลามันก็กัดอีก 
ตอนมู๋อัดปลาอยู่  ก็หันไปมอง...พี่คนนั้น  เป็นระยะว่ายังอยู่ที่เดิมมั๊ย  เพราะเกรงใจเด็กบ่อถ้าเรากลับช้ากว่าคนอื่น
ตอนอัดปลาอ่ะ  พี่เค้ายังยืนอยู่ที่เดิมค่ะ  มองเห็นไม่ชัดว่าเป็นใคร  .... แต่ใส่เสื้อลาย  ขาวสลับแดง  แขนยาว  ....ซึ่งตอนนั้นมู๋คิดว่าเป็นพี่ต้น  ร้านแตงโม
ซึ่งสนิทกะมู๋ดี ... วันนั้นยังโมโห  ตะโกนถามอะไรพี่คนนั้นก็ไม่ตอบ.
...ต่อค่ะต่อ...พอมู๋อัดปลาที่ตั้งใจเป็นตัวสุดท้ายจนยอมแล้ว  กำลังจะก้มคีบปลาขึ้นมาปลดเหยื่อ  มู๋ ก็มองไปที่พี่คนนั้นอีกที  ตั้งใจว่าจะอวดค่ะ
แต่ว่าเค้าไม่อยู่ตรงนั้นแล้ว....พอมองทางโน้นว่าไม่มีก็เลยหันมาข้างหลัง  ....  ก็เจอค่ะ  ...พี่คนนั้นเดินผ่านไปในความมืดเกือบถึงโค้งบ่อทางไปห้องน้ำแล้ว
...ผู้ชายที่สูง  เกือบ  2  เมตรคนนั้นหยุดตรงซุ้มโค้งๆก่อนทางแยกห้องน้ำแป๊บนึง  ..มู๋รีบปลดปลาปล่อยแล้วปล่อยลงน้ำ...มองอีกทีก็ไม่เจอแล้ว
...แต่นาทีนั้นยังไม่กลัวนะคะ  มู๋ก็เดินชิวๆ กลับมาจนถึงซุ้ม...ซึ่งอยู่กันหลายคน  ทั้งน้องๆเด็กบ่อ  พี่เหลียว และใครมั่งจำไม่ได้แต่มีพี่ต้นนั่งอยู่ด้วย 
...มู๋  ก็รีบต่อว่าพี่ต้นทันทีเลย....  ว่าเดินซะไวถามอะไรก็ไม่ตอบ  ไม่รู้จักห่วงน้องมั่งไม่รอเลยอ่ะ  ก็แบบขำๆค่ะ....แต่ทุกคนที่นั่งอยู่  พากันมองมู๋แล้วหาว่ามู๋ประสาท  พี่ต้นนั่งอยู่นี่ยังไม่ลุกไปไหนเลย.................
.....ตอนนั้นมู๋คิดว่าทุกคนอำค่ะ  ยังโทษว่า  ถ้าไม่ใช่พี่ต้น  ก็ต้องเป็นเจ้าลาเด็กบ่อเพราะลายเสื้อคล้ายกันสองคน แต่มู๋ว่าไม่น่าใช่เจ้าลาเพราะว่าที่มองตอนเค้าเดินผ่านหลังไป  สูงกว่าเจ้าลาแน่ๆ    วันนั้น...ทุกคนก็ยืนยันคำเดิม  ว่าไม่มีใครเดินมาจากท้ายบ่อ  และทุกคนนั่งอยู่ตรงนี้  ไม่มีใครเดินไปท้ายบ่อมาแน่นอน...นอกจากมู๋ 

....มู๋  ถามจนครบทุกคน  ถามถึงกระทั่งลูกค้าคนอื่น  ว่ามีใครใส่เสื้อแบบเดียวกับพี่ต้น  และตัวสูงพอๆกันรึป่าว...ทุกคนรวมทั้งมู๋ด้วยก็เห็นอยู่ว่าทั้งวันมีแค่พี่ต้นที่ใส่เสื้อสีนี้...และเจ้าลาเพิ่งไปเปลี่ยนมาตอนหัวค่ำ....แล้วพี่คนนั้นหล่ะคะ...เค้าเป็นใคร?

จนถึงทุกวันนี้...พอตกเย็นต่อให้ปลากัดดีขนาดไหน  อยากไปท้ายบ่อแค่ไหน  ถ้าไม่มีเพื่อนไปด้วย  มู๋จะหยึดแค่โค้งหน้าบ่อเป็นฐานที่มั่นค่ะ....เวลามีใครแซวใครถามว่าไม่ย้ายที่บ้าง....มู๋ก็จะบอกว่า...ไม่อยากเจอพี่คนนั้นอีก....ถ้าไม่มีใครสารภาพว่าเป็นคนแกล้งมู๋....มู๋ก็ยังยืนยันคำเดิมค่ะ....ว่าไม่อยากเจอพี่เลยจริงๆนะ



.....จบข่าว....น้าท่านใดอ่านแล้ว  สงสัยว่าแค่เรื่องแกล้งกันหรือว่าของจริง...ก็ช่วยไปสืบให้มู๋หน่อยนะคะ...เจ้าลา กับ  เจ้าพร  น้องที่บ่อมันจะได้เลิกแซวเรื่อง...พี่คนนั้นของมู๋ซะที  อีกอย่าง  ถ้ารู้ว่าแกล้ง  ขฃจะได้เช็คบิลด้วยเลย 
กระทู้: 216
ความเห็น: 37,215
ล่าสุด: 27-01-2566
ตั้งแต่: 23-07-2551
ความเห็นที่ 88: 19 พ.ย. 53, 07:20
+1
กระทู้: 8
ความเห็น: 404
ล่าสุด: 27-01-2566
ตั้งแต่: 19-12-2551
ความเห็นที่ 89: 19 พ.ย. 53, 22:32
แวะมาเล่าสู่กันฟัง 

ส่วนตัวผมไม่มี "จิตสัมผัส" ทางด้านนี้  จึงไม่เคยเห็น และไม่เคยเจอเรื่องแบบนี้แบบต่อหน้า ต่อตา...
จะมีบ้าง ก็แค่รู้สึก "วูบวาบ"  หนาวขนลุก ขึ้นมาเฉยๆ  แต่ก็ไม่ "เห็น....."

ถ้าเอาเรื่องที่ว่า  ไปตกปลาแล้วเจอ  ก็เคยครับ  เพื่อนร่วมทริปที่ไปตกปลาด้วยกัน  "เจอ" ครับ ขอเล่าสู่กันฟังซะหน่อยนะครับ

จำได้ดีเลยครับ  ย้อนรอยไป 20 ปีที่แล้ว  ตอนนั้นผมอายุ 15 
คุณพ่อผมและเพื่อนๆ อีก 2 คน รวมถึงผมด้วย เป็น 4 คน ได้มีโอกาสไปตกปลาที่  "ทะเลตราด"

จำความได้ว่า  ขับรถกันไปตั้งแต่หัวค่ำ 1 ทุ่ม  ถึงตราดประมาณตี1  (ถนนในสมัยนั้น ไม่สะดวกสบายเหมือนสมัยนี้ จึงใช้เวลาเดินทางนานครับ)  ไปถึงที่ตัวเมืองตราด กะว่า วนหาโรงแรมนอนก่อน เพราะนัดไต๋เรือ ลงเรือตกปลาตอนเช้า..

ผมจำความได้ว่า  เพื่อนคุณพ่อผม โทรถามเพื่อนที่เมืองตราด เค้าแนะนำโรงแรมที่พักให้  พวกเราได้เข้าพักในโรงแรมอะไร ผมจำชื่อไม่ได้นะครับ  แต่จำได้ว่า  โรงแรมเป็นตึก 2 ชั้น เหมือนโรงแรมต่างจังหวัด เป็นโรงแรมเก่าๆ ห้องพัดลมนะครับ

พวกเราทั้ง 4 เปิดห้องนอนรวมกัน  เข้าห้องได้ก็จัดเตียงต่อกัน  ล้างหน้า ล้างตา แล้วก็นอนกันเลยครับ  เพราะเดินทางกันมา เหนื่อยเหมือนกัน 

พวกเราทั้ง4  นอนโดนปิดไฟในห้องนอน แต่เปิดไฟในห้องน้ำไว้  ซึ่งไฟในห้องน้ำเป็นแบบหลอดกลมสีเหลือง ค่อนข้างจ้า  ผมนอนหลับกันไป  ได้สักพัก อยู่ดีๆ เพื่อนคุณพ่อผม  ก็ลุกขึ้นมา พร้อมกับบอกว่า  "เฮ้ยย กูโดนดีว่ะ..."  คุณพ่อผม และ เพื่อนพ่อผมอีกคน รวมถึงผม ก็เลยตื่นขึ้นมากลางดึก ทั้งหมด.............

เพื่อนคุณพ่อผม เล่าให้ฟังว่า  เค้านอนหลับเหมือนครึ่งหลับครึ่งตื่น  อยู่ดีๆ ก็รู้สึกเหมือนมีคนมา "กระตุกขา"  เค้าทีนึง  พอเค้ารู้สึกตัว ลืมตามองไปที่ปลายเท้า  เค้าเห็น "เงาคน"  วิ่งหายเข้าไปในห้องน้ำ ที่เปิดไฟทิ้งไว้อยู่!!!! 

พอเพื่อนคุณพ่อผม ที่โดนดีกลางดึก  เล่าเหตุการณ์ที่เจอ  เท่านั้นแหละครับ  ไม่เป็นอันนอนกันเลยครับ 

พวกเราทั้ง 4 ก็เลยสวดมนต์ พร้อมกล่าวขอขมาเจ้าที่ เจ้าทาง  พร้อมกับบอกกล่าวว่า จะทำบุญไปให้  จากนั้น ก็เปิดไฟนอน  ผมก็ "กลัวนะครับ"  แต่ไม่เป็นไร  มีกันอยู่ 4 คนนี่นา  จากนั้น เพื่อนคุณพ่อผม คุณพ่อผม และ ผมก็นอนหลับไป ก็ไม่เจอเหตุการณ์แปลกๆ อีก

ตื่นมาช่วงเช้ามืด  เพื่อนคุณพ่อผมคาใจ  ก็เลยไปถามที่เค้าเตอร์ ว่า ห้องนั้นมีอะไรหรือเปล่า  แต่เจ้าของโรงแรมกลับบอกว่า  "ไม่มี........คุณละเมอไปเองป่าว......"   

ป๊าดดด  พอตอนเช้า ลงเรือตกปลา เพื่อนคุณพ่อผมก็เล่าเรื่องเหตุการณ์นี้ ให้ไต๋เรือฟัง  ไต๋เรือบอกว่า  "อ้ายโรงแรมที่พวกคุณไปนอนนั่นน่ะ  เคยมี คนตายในโรงแรม  แต่นานแล้วนะ........"  เท่านั้นแหละครับ  ผมถึงกับ "ขนลุก" เลย 

ก็จัดเป็นประสบการณ์เก่าๆ เล่าสู่กันฟังครับ

กระทู้: 8
ความเห็น: 792
ล่าสุด: 19-12-2567
ตั้งแต่: 15-09-2552
sinlipknot(109 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
ความเห็นที่ 90: 20 พ.ย. 53, 11:44
ผมมีอยู๋เรื่องนึง ที่เกิดขึ้นที่เขื่อนศรีนครินทร์ ซึ่งทุกวันนี้ก็ยังไม่รู้ว่า สิ่งที่เห็นนั้น คืออะไร

        เริ่มเรื่องเลยนะครับ น้าๆ เพื่อนๆ นักตกปลาทั้งหลายที่เคยไปตกปลาที่เขื่อนศรีนครินทร์ น่าจะเคยได้ยินชื่อ เกาะฟ็อกแลนด์ และอ่าวควาย นะครับ เรื่องนี้เกิดขึ้นมาประมาณ 6-7 ปีที่แล้ว พวกผมและทีมตกปลาได้ไปตั้งแคมป์กางเต๊นท์กันบนเกาะฟ็อกแลนด์(ตอนนั้นน้ำลด) ซึ่งก็ไม่มีอะไรบนเกาะนั้น แต่มีเรื่องเล่าจากลุงชเวงว่า เคยมีการขุดค้นพบวัตถุโบราณและซากโครงกระดูกบนเกาะนั้น พวกเราเองก็ทำพิธีขอมาพักผ่อนตามระเบียบ เรื่องที่เกิดขึ้นน่าจะเป็นวันที่ 3 หลังจากไปพัก(ไปค้าง 5 คืน) ผมกับเพื่อนได้ขับเรือเข้าไปในอ่าวควาย ซึ่งในนี้จะมีซอยเล็กซอยน้อยเยอะมาก ก็ขับเรือกันไปเรื่อยๆ จนเข้ามาในสุด เวลานั้นก็โผล้เพล้ น้ำนิ่งราวกับกระจก มีหมอกควันลอยเกาะบนผิวน้ำ(ผมยังนึกถึงหนังในนิยาย) เราก็ปล่อยเรือล่องมาเรื่อยๆ(ไม่ได้บิด แค่ใส่เกียร์เดินหน้า) จนมาถึงในสุด มีต้นไม้ใหญ่อยู่ข้างหน้า ห่างจากเรือประมาณ 50 เมตร ผมกับเพื่อนก็ตีปลาไปเรื่อยๆ(หันหลังให้ต้นไม้ ตีออกมาด้านนอก คงนึกภาพกันออกนะครับ) ตีไปซักพัก ผมรู้สึกมันเงียบมาก เงียบจนหูอื้อ ผมจึงมองไปรอบๆ ตัว ซ้ายขวา ไม่มีนก หรือ สัตว์บกใดๆ ที่จะส่งเสียงร้องเลย ทั้งๆ ที่เป็นเวลาโผล้เพล้ ควรจะมีเสียงนกร้องเวลากลับรังบ้าง ผมก็มองไปซ้ายทีขวาที จนหันกลับไปมองข้างหลัง ปรากฏมีผู้ชายคนนึง ใส่ชุดขาว(ภาพติดตาอยู่เลยครับ) นั่งยองๆ อยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ วูบแรกที่เห็นผมก็ไม่ได้คิดอะไร คิดว่าคงเป็นชาวบ้านเตรียมเอาควายที่มาเลี้ยงกลับบ้าน แต่จากที่ผมมองไปรอบๆ นั้น ไม่มีควาย หรือ วัว เลยแม้แต่ตัวเดียว ผมจึงบอกเพื่อน
"เฮ้ย มรึงหันไปมองดิ เห็นไรป่ะ"(ผมอยู่หน้าเรือ เพื่อนผมขับ)
"เออ เห็นแล้ว กลับเหอะ จะมืดแล้ว"
"ไปดิ" เราก็เลยสตาร์ทเครื่องเรือเพื่อจะมุ่งหน้าออกปากทางอ่าวควาย พอเพื่อนผมออกเรือห่างจากจุดที่จอดได้ซัก 50 เมตร ผมหันย้อนกลับไปดูที่คนๆ นั้น ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่เพื่อนผมเห็นว่าผมหันไป มันจึงหันไปดูด้วย ผมเห็นคนๆ ยังนั้นมองมาที่เราอยู่เหมือนเดิม พอเพื่อนผมหันกลับมา ผมก็หันกลับเหมือนกัน พอเราออกมาถึงเกาะฟ็อกแลนด์ ผมจึงถามเพื่อน
"ตอนมรึงหันไปดู พร้อม กรูอ่ะ มรึงเห็นมั้ย"
"ไม่เห็นแล้วว่ะ มรึงเห็นหรอ"
"เออ กรูยังเห็นนั่งอยู่"
ก็เลยไหว้เจ้าที่เจ้าทางกันอีกรอบ และเก็บความสงสัยนั้นมาจนบัดนี้ว่า คนๆ คือใคร
หลังจากนั้น ผมก็ไปที่ นั่นบ่อยๆ ก็ไม่เจออะไรอีก นอกจากความวังเวง ที่ยังมีเหมือนเดิม
จบแล้วครับ เรื่องยาวไปนิดและอาจไม่น่ากลัวนะครับ(ถ้าไม่อยู่ในสถาณการ์ณด้วยตัวเอง) อิอิ
กระทู้: 6
ความเห็น: 357
ล่าสุด: 27-01-2566
ตั้งแต่: 04-05-2552
ameson(59 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
ความเห็นที่ 91: 20 พ.ย. 53, 12:20
เรื่องที่ 1 : เป็นเรื่องที่ผมยังสงสัยอยู่จนถึงทุกวันนี้

ผมไม่เคยเจอจังๆ และก็ไม่ค่อยเชื่อ แต่ก็ไม่ลบหลู่  ตอนปี 1 อยากลองทำงานดูบ้างในช่วงปิดเทอม เพราะไม่เคยทำงาน
เลยไปสมัครทำงานที่โรงงาน มีอยู่วันหนึ่ง ต้องเข้ากะ ตอนตีสี่ครึ่ง ก่อนข้ามสะพาน ตรงบริเวณมุมมืด เจอครับ
ผู้หญิง ผมยาว ยืนตัวตรง ยกมือขึ้นสุด แล้วใช้มือโบกรถผม โดยไม่ยกท่อนแขนลงมา ประมาณว่า โบกเหมือนในหนังผีครับ
ยืนทื่อๆ โบกช้าๆ อ้าวละซิ ครายฟะ มายืนโบกรถตอนนี้ ขี่มอร์ไซต์คนเดียวด้วยสิ พอไปถึงโรงงาน เค้าบอกว่ามีผู้หญิงถูกข่มขืน
ตายใกล้บริเวณสะพานนั้นครับ แต่ผมก็ยังไม่แน่ใจจนถึงทุกวันนี้ว่า คนหรืออะไร เพราะผมก็ไม่ค่อยเชื่อซักเท่าไรครับ

เรื่องที่ 2 อันนี้หรือเปล่าที่เรียกว่าผีอำ

คนที่เล่าให้ผมฟังว่า โดนผีอำ ผมก็มักไม่ค่อยเชื่อครับ คิดว่า เวลานอน อาจจะมีการหยุดหายใจไปชั่วขณะ ตามหลักวิทยาศาสตร์
ช่วงนั้นผมเช่าห้องพักอยู่คนเดียว บริเวณรอบๆ มีวัดด้วยกันถึง 4 วัด ครับ แล้วหมาก็ชอบหอนด้วย ไม่รู้เป็นไร เข้าคอนเซ็ปหนังไทยเลย
แล้วมีอยุ่วันหนึ่งครับ ผมฝันว่า มีผู้หญิงผมยาว แต่งกายชุดขาว มานอนข้างๆ ผม แล้วเส้นผมของเค้าก็มาปิดจมูกของผม ผมก็หายใจไม่ออก
เลยนึกในใจว่า หรือนี่คือที่เค้าเรียกว่าผีอำ เลยด่าครับ เคยได้ยินมาว่าสวดมนต์แล้วไม่ออก ต้องด่า แต่ก็ไม่ออก ผมเหนื่อยมากครับ อึดอัด
เลยสวดมนต์ ถึงออกครับ พอออกปุ๊บ ลุกขึ้นมานั่งหอบ หายใจแฮ๊กๆ เลย

สองเรื่องนี้ ผมเจอด้วยตัวเอง แต่ก็ยังไม่แน่ใจนักว่า เป็นสิ่งลี้ลับอะไรหรือเปล่า เพราะผมเองก็ยังพิสูจน์ไม่ได้ 
กระทู้: 42
ความเห็น: 2,035
ล่าสุด: 15-01-2567
ตั้งแต่: 20-06-2552
XsteaM(1031 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
ความเห็นที่ 92: 20 พ.ย. 53, 12:39



สาวกพี่ป๋องมาเอง  มี ให้ กระโหลกด้วย


กระทู้: 13
ความเห็น: 2,863
ล่าสุด: 27-01-2566
ตั้งแต่: 13-03-2550
ความเห็นที่ 93: 20 พ.ย. 53, 12:54
อ๊ะ..จึ๋ย..กลัวๆๆๆๆ
กระทู้: 16
ความเห็น: 4,268
ล่าสุด: 21-12-2567
ตั้งแต่: 16-03-2552
boom_bass(396 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
ความเห็นที่ 94: 20 พ.ย. 53, 13:09
[q]อ้างถึง: แอบอัด posted: 18-11-2553, 10:40:02

ผมเข้าป่า....เที่ยวป่า.....ก่อนที่ทำอะไร..กินข้าว  ก็เรียกกินด้วย.......ถ่ายหนัก-เบา...ก็ขออนุ

ญาติ    ขอโทษเจ้าที่เจ้าทาง    เรื่องแบบนี้ทำให้สบายใจไว้ก่อนดีกว่าครับ...สิ่งที่เรามองไม่เห็น

อธิบายยากถ้าไม่เจอกับตัวเองครับ           

ผมก็เหมือนกันครับน้า
 
กระทู้: 28
ความเห็น: 3,217
ล่าสุด: 22-12-2567
ตั้งแต่: 31-07-2551
boll5555(1121 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
ความเห็นที่ 95: 20 พ.ย. 53, 14:43
++++หวัดดีครับน้าเหลืองขอตามอ่านครับบอ่านเรื่องของน้าเดียวกับน้าเก่งยังไม่หายกลัวเลย  อิอิ

 
กระทู้: 3
ความเห็น: 155
ล่าสุด: 01-08-2567
ตั้งแต่: 08-01-2551
ter_jd(17 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
ความเห็นที่ 96: 20 พ.ย. 53, 15:12
ไม่เกี่ยวกับตกปลานะ ประมาณ2ปี
เคยเจอที่บางแสนไปเที่ยวกับแฟนมาถึงประมาณทุ่มครึ่ง หาห้องพักเป็นตึก3-4ชั้นมั้งจำไม่ได้ล่ะได้ชั้นแรกห้องข้างๆบันได อาบน้ำแล้วออกไปกินข้าวกันกลับมานอนซักสี่ทุ่มได้แฟนนอนข้างผนังห้องเรานอนอีกด้าน นอนซักพักพลิกตัวหันหน้ามากลางห้อง เห้ยยย ใครว่ะ ผู้หญิงยืนอยู่กับเด็กผู้ชายข้างเตียง อึ้งสักพัก พลิกตัวกลับอย่างช้า ทำแบบว่าไม่รู่ไม่ชี้ ฉันไม่เห็นอะไรเลย แต่ในใจหวิวมากครับ นอนกอดแฟนแน่นเลย หลับตอนไหนไม่รู้ ตื่นมาไม่ได้เล่าให้ฟังมาเล่าตอนกลับบ้านแล้วแฟนเหวอเลย
จำจนตายเห็นจะจะแบบเผาขน ผู้หญิงสวมชุดนอนยืนด้านขวาเด็กผู้ชายอายุประมาณ3-5ขวบ(กะเอาจากความสูง)ยืนด้านซ้ายมือ ห้องเนี่ยมันรู้สึกแปลกตั่งแต่แรกแล้ว แต่ต้องอยู่เพราะมันเต็มหมดแล้ว เวลานอนก็ไม่ได้ไหว้พระด้วย
กระทู้: 87
ความเห็น: 15,712
ล่าสุด: 12-11-2567
ตั้งแต่: 01-12-2549
ความเห็นที่ 97: 20 พ.ย. 53, 15:47
เด๊วผมตอบน้าๆนะครับแต่ตอนนี้ขอเหล่าซักเรื่องก่อนเจอเมื่อ...เร็วนี้เลยครับยังไม่มืดเลยครับ....กำลังจะมืดแต่ยังมองเห็นชัดอยู่ครับ....
          เหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นที่เขื่อนศรีฯนี่และครับ...วันนั้นเป็นวันที่ผมออกตีปลากันตามปกติทั่วไปครับผมลงเรือกับ ไต๋วุฒิและ น้าเปิ้ลpondpond เราไปตีปลากันมาทั้งวันแล้วครับ...เจ้าไต๋วุฒิลูกพรานกล้วย...ก็พาเข้าหุบโน้นออกหุบนี้...ไปเรื่อยๆๆ...จนเย็นก็พาพวกผมเกือบจะเข้าแพพักอยู่แล้วครับ....เจ้าไต๋วุฒิบอกผม...น้าเหลืองๆเด๊วผมพาเข้าหมายข้างหน้านี้เด๊วไม่ได้เข้ามานานแล้วครับ...ผมเห็นใกล้จะถึงฝั่งแล้ว...และเรื่องของเรื่องยังมองเห็นกันอยู่ครับ...ในใจคิดว่าคงกลับไปไม่มืดแน่ๆเด๊วเรือจะชนหัวตอเข้าให้ได้ครับถ้ามืดแล้วจะมองไม่เห็น...เจ้าถิ่นอย่างเจ้าวุฒิพาผมเล่นหัวตอปริ่มน้ำมาหลายครั้งแล้วครับ.....และหมายนี้อยู่ตรงข้ามกับวัดวังผาแดงเลยครับ....คล้ายๆกับเป็นเกาะกลางน้ำอยู่ครับ....แล้วเป็นว้าวอ่าวเข้าไปลมเงียบสงบมากครับ

          มาถึงตอนนี้ผมก็ยังไม่คิดอะไรครับเพราะผมเป็นคนไม่กลัวผีเท่าไรครับ.....สมัยก่อนบ้านหลังเก่าผมเจ้าของบ้านเขาเลี้ยงผีมันเลยทำให้ผมชินครับแต่จะเสียวๆๆๆเวลาเจอศพคนตายแบบสยองๆเละพวกสมองไหลออกจากหัวจะเสียวๆ...เวลาเห็นครับ....จะตกใจก็แว๊ปแรกที่เจอเท่านั้นครับ...ถ้าผมรู้ตัวและตั้งสติทัน...ไม่ได้กินผมแน่ๆครับ...เรือก็พายมาเรื่อยๆน้าเปิ้ลก็ตีปลาไปเรื่อยๆผมสังเกตุดูมีปลาขึ้นจิบน้ำหลายตัวเลยครับตอนนั้นปลาใหญ่เช่นชะโด...สวาย...ยี่สกขึ้นให้เห็นกันหลายตัวเลยครับ...ผมเลยถามเจ้าวุฒิว่าทำไมปลาขึ้นเยอะจังแล้วไม่มีคนเข้ามาหาตีปลาเหรอเพราะมันใกล้หมู่บ้านจังฯ...เจ้าวุฒิบอกผมมีเข้ามีตีปลาเหมือนกันน้าเหลือง...แต่ไม่ค่อยได้กันหลอกแถวนี้...ผมก็คิดในใจว่าพวกที่มาตีคงไม่มีฝีมือแน่ๆเลยไม่ได้ปลา..โดยที่ไม่ถามเจ้าวุฒิเลยว่าเพราะอะไรเขาถึงไม่ได้ปลากันครับ....ในเวลานั้นกำลังโพ้ลเพ้ลแสงยังมองเห็นชัดอยู่ครับ....เรือก็พายมาถึงศาลาเก่าๆที่อยู่บนฝั่งริมตลิ่งสภาพ...ยังมีหน้าจั่วสามเหลี่ยมและมีหลังคาผุๆอยู่ให้เห็นครับ....เวลานั้น...ลมก็ไม่พัดเสียงแมลงก็ไม่กรีดปีกร้องให้ได้ยินในเวลาใกล้ค่ำแบบนี้มันผิดปกติครับในความรู้สึกของผม....

              มาถึงตอนนี้น้าเปิ้ลแกหยุดตีเหยื่อปลอมแล้วครับ....และในเวลานั้นเจ้าสายตาผมก็จับความเคลื่อนไหวบางสิ่งบางอย่างได้ครับเลยมองขึ้นไปดู....บนเขื่อบนหลังคาของศาลาร้างแห่งนั้นครับ...ผมเห็นจะๆเลยครับ...ว่าเป็นเด็กผู้ชายคนหนึ่งนั่งห้อยเขาแกว่งขาเล่นไปมาครับ...ผมเลยถาม...น้าเปิ้ลว่าพี่ๆเปิ้ล..เห็นอะไรหรือเปล่า...พี่เปิ้ลบอกผมไม่เห็น...ส่วนเจ้าวุฒิบอกผมว่าน้าเหลืองจะพูดทำไม...ก็ตรูรรรไม่รูนี่ว่าก็ถามซิว่ะวุฒิ...ผมก็คิดได้ว่าโดนเล่นแน่ๆแล้วตรูรรรร....ผมเลยพูดขึ้นดังๆเลยครับ...""ว่าทางใครทางมัน...อยู่กันคนละภพคนละมิติ.....อย่ามาทำความเดือดร้อนให้แล้วกัน...แล้วจะทำบุญไปให้""....แค่นั้นและครับ...เรือหันหลังให้ศาลาหลังนั้นก็มีเสียงเหมือนคนโดดน้ำ...ลงมาจากที่สูงเสียงดัง.......ตูม......ผมหันกลับไปมองไม่มีอะไรลอยอยู่ในน้ำเลยครับ..ตอนแรกคิดว่าปลาขึ้นโดดน้ำแต่วงพรายน้ำที่เป็นละลอกคลื่นไม่มีและคิดว่าต่อให้เป็นไอ้บึกใหญ่ๆเล่นน้ำก็คงไม่ดังขนาดนั้นแน่ๆครับ.....เจ้าวุฒิบอกให้ผมน้าเหลืองเก็บเบ็ดรีบสตาร์เรือออกจากที่นั้นเลยครับกลับแพมาเล่าให้เพื่อนๆที่ไปด้วยฟัง...มันดันหาว่าผมเมาอีก....แต่ดีที่ผมมีพยานไปกับผมด้วย2คนและโดนผีหลอกเหมือนกันมิเช่นนั้นเพื่อนๆผมคงคิดว่าผมเมาจนตาลายแล้วเห็นผีเลยครับ....ด้วยความสงสัยเป็นอย่างมาก....ผมเลยถามเจ้าวุฒิว่าที่....พาไปตกนั้นเป็นเกาะอะไรวะวุฒิ...ผีดุจัง...เจ้าวุฒิบอกผมที่ตรงนั้นมันเป็นวัดวังผาแดงเก่า...ก่อนที่จะถูกน้ำท่วมแล้วย้ายมาสร้างใหม่ที่เห็นในปัจจบันนี้ครับ....เวรกรรมจะไปโทษผีก็ไม่ได้...ต้องโทษเจ้าวุฒิที่พาผมและพี่เปิ้ลไปเจอผีหลอกมาเต็มๆ....ผมกระสวดพระคาถาหัวใจท้าวเวสสุวรรณให้มารับวิญาณเหล่านี้อยู่แล้ว....มิฉะนั้นบาปอีกผมดันไปบุกรุกที่ของเขาครับ....เจอสิ่งพวกนี้ห้ามสวดนะโมหรือ...คาถาแผ่เมตตา(พวกสัตเพสัตตา)เด็ดขาด....สิ่งลี้ลับพวกนี้ไม่กลัวคาถาพวกนี้ครับ...จะชอบเสียอีกที่พวกท่านแผ่เมตตาให้เขาเหล่านั้น...จะพากันมาตรึมมมมมมมกันและครับที่นี้


*******หมายเหตุ....เป็นความเชื่อเฉพาะบุคคลครับ....แต่ผมเชื่อว่ามีอยู่จริง....โปรดใช้วิจารญาณในการเชื่อหรือไม่เชื่อครับ.....บางท่านอาจจะคิดว่าและศาสนาอื่นละเขาจะใช้คาถาอะไรสวดอันนี้ผมมิทราบได้ครับถึงสวดไปอย่างผีฝรั่งมันคงฟังคาถาบาลีหรือสันกฤตไม่ออกแน่ๆคงจะมีก็กระเทียมกับไบเบอรและไม้กางเขนครับ...ส่วนผีแขกๆไม่ทราบครับเพราะเขาไม่มีคำบรรญัติให้เชื่อในสิ่งเหล่านี้นอกจากต้องเชื่อพระเจ้าของเขาเท่านั้น...แต่ผมเห็นเพื่อนผมเป็นแขกเล่นสวด...คาถาพุทธเราเลยครับผมละงงกับให้เพื่อนผมเลยครับ...ส่วนพวกพราหมณ์เชื่อๆเต็มๆครับ....เป็นศาสนาที่เกิดมายาวนานก่อน...พุทธ..คริสต์...อิสลาม...ของเราหลายพันปี....เรื่องบ้างเรื่องจึงมิใช่เป็นเรืองเล่าในการจีบหญิงให้หญิงกลัวเวลาไปเที่ยวป่าหรือแค้มป์ปิ้งน่ะครับ....เอิ้กๆๆๆๆๆ







แล้วผมจะมาเล่าเรื่องที่2และ3ให้ชมกันอีกครับแต่รอไปก่อนครับ....เพื่อนผมโทรฯมาชวนไปทำธุระเด๊วกลับมาเล่าสู่กันฟังครับ

             
กระทู้: 2
ความเห็น: 14
ล่าสุด: 27-01-2566
ตั้งแต่: 26-02-2552
Bom22(9 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
ความเห็นที่ 98: 20 พ.ย. 53, 16:34
เรื่องนี้ของผมเกี่ยวกับการตกปลาครับ  เป็นอะไรที่ยังข้องใจไม่หายและหาคำตอบไม่ได้ แต่จริงๆก็แอบขนลุกนิดๆตอนเจอแบบนี้ ทั้งที่ก็ไม่ได้มีอะไรมากมาย  เรื่องนี้ผ่านมานานแล้วครับ  เรื่องมีอยู่ว่า ได้ไปตกปลาแถวเกาะสีชัง หมายยอดฮิตของคนในเวปนี้ที่ถ้าได้ไปลงเรือตกปลาที่เกาะสีชังเมื่อไหร่ น้าๆหลายๆท่านคงไม่พลาดที่จะไปกันอย่างแน่นอน "สัมพะยื้อ" ครับ ก็ไปทั้งไดน์หมึกแล้วก็ตกปลาในเวลาเดียวกัน  นั่งตกหมึกกันไปเรื่อยๆ แล้วก็ตกปลากันไปเรื่อยๆกับเพื่อน ทริปนั้นรวมไต๋กับพี่ๆเด็กเรือกับผมและเพื่อนรวมกันก็หกคนพอดีครับ  ก็กะว่าไดน์หมึกเสร็จก็ค่อยเข้าหมายตกปลาตอนเช้า  แต่ว่าตอนนี้ก็นั่งตกปลาเล็ก  ตกหมึกไปก่อน  ได้หมึกมาก็จัดการเกี่ยวหมึกปล่อยสายลอยไปเลย  จำได้แม่นครับ ทั้งขนาดหมึกที่เกี่ยวสายปล่อยลอยไป และเบรค ที่ปรับไว้ให้คันเซ็ทฮุคให้ทันทีในเวลาที่ปลาฉวย  ช่วงประมาณก่อนเทียงคืนผมได้ปลาสากมา 2-3ตัว ไซ้ส์งามๆเลยคับ แต่ที่เป็นประเด็นคือ สุดท้ายก่อนที่จะทำการครอบหมึกแล้วย้ายหมายไปตกปลา ผมปล่อยสายลอยโดยเกี่ยวหมึกเป็นตัวย่อมๆไปเป็นครั้งสุดท้ายกะว่าขอหนักๆอีกซักรอบ เพราะช่วงแรกที่ได้ปลามาเป็นปลาสากไซ้ส์ ห้าถึงหกกิโลขึ้น  ก็เลยกะว่าเอาน่าลองดู ขอหนักๆซักตัวเหอะ  และแล้วก็เป็นไปตามความคาดหมายครับ ลงสายไปพักเดียว รอก Penn senator ของเพื่อนผมก็ร้องออกมาดังสนั่น ปลายคันก็ถูกดึงไป เฮฮากันใหญ่คับว่าคันนี้มันหมานจิงๆ  แล้วขนาดของหมึกที่เกี่ยวไปก็ค่อนข้างใหญ่พอสมควรด้วย เพราะฉะนั้น เจ้าคัวที่อยู่ปลายสายนั่นก็คงจะตัวโตอยู่พอสมควร  ใชเวลาอยู่พอสมควรคับประมาณเกือบๆสิบนาที  กว่าจะเอาตัวเข้ามาได้  ไอ้เราก็ลุ้นๆกันว่ามันจะเป็นปลาอะไรวะ มีเถียงตลอด แถมพอมาไกล้ๆแล้วก็ไม่โดดเหมือนปลาสากตัวที่ได้ผ่านๆมา  บางคนก็ว่าช่อนทะเล บางคนก็ว่าอินทรีย์ใหญ่  เถียงกันไปต่างๆนานา  แต่สุดท้ายพอเข้ามาอยู่ในระยะแสงไฟที่เรามองเห็นได้  ทุกคนเงียบแล้วก็งงพร้อมๆกัน เพราะตัวปลายสายที่มีอยู่ ก็คือปลาหมึกที่เกี่ยวปล่อยไปตั้งแต่แรก ที่ยังไม่ตาย แถมไม่มีร่องรอยจากการโดนกัดอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว  งงคับงงจิงๆ ว่าแล้วไอ้ที่ลากสายออกไปยาวๆเนี่ยมันคือตัวอะไรกันแน่  ที่สำคัญมันต้องไม่ใช่ปลาหมึกตัวนี้อย่างแน่นอน เพราะขนาดสายกับกำลังเบรคที่เว็ทไว้ มันเป็นไปไม่ได้เลย  แต่มันก็เป็นไปแล้ว  เราทุกคนมองหน้ากัน ส่วนทางไต๋เรือก็พูดออกมาคำเดียวว่า  โดนเข้าแล้วล่ะ เรื่องแบบนี้มันทำให้ผมยังแปลกใจและยังงงอยู่จนถึงทุกวันนี้ครับ  ไม่ใช่เรื่องสยองอะไรนะครับ แต่เป็นเรื่องที่พิสูจน์ไม่ได้แค่นั้นเอง 
กระทู้: 2
ความเห็น: 160
ล่าสุด: 21-05-2567
ตั้งแต่: 04-03-2552
ความเห็นที่ 99: 20 พ.ย. 53, 23:32
จัดมาอีกครั้บน้าๆ อ่านตอนดึกๆ หนุกดีครับ ^^
กระทู้: 1
ความเห็น: 3,019
ล่าสุด: 16-05-2567
ตั้งแต่: 10-03-2553
Toey140(23 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
ความเห็นที่ 100: 21 พ.ย. 53, 00:32
หน้าที่:< 1 | 2 | 3 | 4 | 5 >
siamfishing.com © 2024
siamfishing.com/board/view.php?tid=626300&begin=75