นายสุพจน์ จันทราภรณ์ศิลป์ ผู้เชี่ยวชาญฯ สถาบันวิจัย และพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งและป่าชายเลน กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กล่าวว่า ขี้วาฬชนิดนี้เป็นวาฬหัวทุยขนาดลำตัวยาว 20 - 25 เมตร น้ำหนัก 20 - 30 ตัน ซึ่งจะชอบกินอาหารประเภทปลาหมึกเป็นพิเศษ สาเหตุสำคัญของการเกิดขี้วาฬ เนื่องจากส่วนของอาหารที่กินเข้าไปยังย่อยไม่ได้ที่จะสะสมอยู่ในกระเพาะอาหาร ในรูปของไขมัน เมื่อสะสมนานเข้าจะจับตัวเป็นก้อนไขมัน เรียกว่า อำพัน ซึ่งมีขนาดใหญ่มากอยู่ในกระเพาะ และจะถ่ายออกมาเรื่อย ๆ พร้อมกับขี้ ซึ่งส่วนที่เป็นขี้จริง ๆ จะสลายไป ส่วนที่เป็นไขมัน หรือที่เรียกว่าอำพันยังจับเป็นก้อนลอยอยู่ตามผิวน้ำในทะเล ซึ่งมักจะพบอยู่ในวาฬตัวใหญ่ ๆ ส่วนประโยชน์นั้น สามารถนำไปสกัดเป็นหัวน้ำหอมที่มีราคาแพงมาก ซึ่งปกติจะมีไม่มากขนาดนี้ แต่ที่ชาวบ้านไปพบในครั้งนี้มีมากกว่าปกติทั่วไป ซึ่งเป็นเรื่องที่แปลก

          นายสมชาย บุญเทียม อายุ 40 ปี อาชีพประมงพื้นบ้านเจ้าของขี้วาฬ อยู่ 83/25 บ้านหินลาด ม.3 ต.คุระ อ.คุระบุรี จ.พังงา กล่าวว่า ขณะตนเองออกเรือหาปลาบริเวณใกล้เกาะระ - เกาะพระทอง ได้มองเห็นวัตถุเป็นก้อนสีเหลืองขนาดต่าง ๆ เป็นจำนวนมากลอยปริ่มน้ำอยู่กลาง ทะเล จึงเก็บขึ้นมาดู พบว่าเป็นขี้วาฬ ซึ่งตนเองเคยเก็บมาได้แล้วครั้งหนึ่งเมื่อก่อนเกิดเหตุคลื่นยักษ์สึนามิ จึงทำให้ทราบว่าสามารถนำไปขายเป็นราคาได้ จึงเก็บมาไว้ที่บ้าน เพื่อเตรียมนำไปขายให้กับพ่อค้าที่มารับซื้อ โดยครั้งก่อนเคยนำไปขายให้กับพ่อค้าที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลาในราคากิโลกรัมละ 3,000 บาท แต่มาทราบในภายหลังว่าขี้วาฬดังกล่าวมีราคาซื้อ - ขาย กันกิโลกรัมละนับหมื่นบาท