หน้าแรก|กระดาน|รีวิว|ประมูล|ตลาด|เปิดท้าย

ท่านผู้รู้ช่วยหน่อยครับ

โหผมว่าการเรียนสำคัญที่สุดนะครับ
คุณครูต้องคุยกับพ่อแม่ของเด็กก่อนนะครับ
ว่าการเรียนยังไงก็สำคัญที่สุดถึงแม้จะชอบตกปลาแต่อนาคตก็เปลี่ยนแปลงได้
ตลอดเวลาถ้าเกิดน้องเขาเบื่อตกปลาหละครับจะทำมาหากินอะไร
เรื่องนี้ต้องคุยกับพู้ปกครองครับตามใจลูกมากมันก็ไม่ดีครับ

ขอบคุณครับ คุณ chowwart
ผมลองมาแล้ว แต่ก็อย่างที่น้าบอก พ่อแม่เขาตามใจ ตอนนี้ถ้าลูกไปโรงเรียน มีข้อแม้ว่าแม่ต้องซื้อคันเบ็ดใหม่ให้ จนเดี๋ยวนี้มีเป็น 10 คันแล้สครับ

จะให้เด็กไปเกเลที่ใหน ละครับไปตกปลานะดีแล้ว ปลูกฝังให้รู้จักปลา ไม่ใช่เอาแต่เล่นเกม รักธรรมชาติ แต่ว่าบอกให้รู้จัก
แบ่งเวลา ครับ จะไปตกปลาอย่างเดี่ยวก็ไม่ได้ ต้องบอกเค้าว่า ให้แบ่งเวลา ถ้าไม่เรียน ก็โง่ มีรอกตัวใหม่ๆมาก็อ่านไม่ออก
เล่นยังไง ก็ไม่รู้ ผมก็มีลูก ผมก็บอกเค้าว่า ให้แบ่งเวลา แล้วก็พูดกันดีๆนะครับ เด็กเค้าฟังผู้ใหญ่ที่พูดดีๆกับเค้าครับ

  หวัดดีคับ คือผมว่านะ เด็กคนนี้อาจจะหลงไหลในการตกปลาในช่วงแรกๆมั่งคับ เราต้องหาอะไรสักอย่างมาจูงใจให้เด็กสนใจการเรียนควบคู่กับการตกปลา อย่างเช่น หลอกเค้าว่าที่โรงเรียนมีอินเตอร์เน๊ตเล่นฟรีก้อบอกให้เค้าเข้าไปดูเวปตกปลา เพือเอามาศึกษาตกปลาของเค้า หลังจากนั้นก้อหาวิธีอื่นๆเข้ามาช่วยให้เค้ารักการเรียนพร้อมกับการตกปลา 

เหมือนใครแถวๆน้เลยจริงไหมนังติม

ถ้าคิดแบบเศรษฐกิจพอเพียงก็ขุดบ่อปลาไปเลย
ตกได้เอามาเลี้ยงไว้ขายยามเมื่อเลิกเรียน
ได้ตังเอาไปซื้อคันเบ็ดจะทำให้เด็กรู้จักการเก็บออมด้วยครับ
ไม่ใช่จ้างให้ไปเรียนมันเสียนิสัย
หากหนีเรียนก็ต้องถูกตีตามปรกติ
เพราะกฏหมายไทยบังคับให้เด็กเรียนอย่างต่ำป.6
ผมก็ตกปลามาแต่เด็ก
จนปัจุบันหากเป็นช่วงน่ากุ้งผมก็เอากุ้งไปขาย
ตลาดปลาหมอสีวายผมก็ตกปลาหมอสีที่เขาเอาไปปล่อยนั่นแหละมาขายเป็นอาชีพสำรองจากการทำงานศิลปะของผม
ในมุมมองของผม
การตกปลาไม่ใช่สิ่งที่ผิด
เพราะเมื่อโตขึ้นหากหลงป่าหลงเขาจะหากินยังไง
ในตำราไม่มีนะครับวิธีเอาตัวรอดในป่าอ่ะ
มันต้องใช้ประสบการณ์ตั้งแต่เด็กๆนี่แหละ
แต่สิ่งที่ผิดคือการไม่บังคับเด็กให้ไปเรียน
จะตามใจอยู่แบบนี้ไม่ได้แล้วนะครับเด็กยังแยกแยะสิ่งถูกผิดไม่เป็น ผู้ใหญ่ถึงต้องให้คำแนะนำว่ากล่าวตักเตือนหรือไปจนถึงการมีบทลงโทษบ้าง ตามโทษที่ลูกหลานได้กระทำ

ผมว่าคุณครูต้องคุยกับเด็กและกับเพื่อนๆของเด็กแบบใช้จิตวิทยานะครับต้องหากิจกรรมในการเรียนการสอนให้สนุกกว่าก่อนแล้วหลังเลิกเรียนค่อยไปตกปลาก็ได้หรือเสาร์-อาทิตย์ก็ดีคุณครูต้องเข้ามาคุกคีกับเด็กให้มากขึ้นแล้วค่อยๆสอนไปและทำเป็นตัวอย่างก่อนว่าเรียนก่อนค่อยเล่นแล้วจะรู้สึกว่าภูมิใจกว่านะพยามหาเพื่อนๆทำแบบนี้มากแล้วตัวเด็กก็จะตามเพื่อนๆเองเพื่อนเรียนเราก็เรียนเพื่อนไปตกปลาเราก็ตกปลา
ช่วงนี้เด็กกำลังติดเพื่อนครับคุณครูหรือพ่อแม่ต้องใช้กลยุทในการสอนเด็กครับผม

มีเหตุผล ครับน้า ผมจะลองคุยผู้ปกครองเขาดู ผู้ปกครองบอกว่า ความใฝ่ฝัน อยากเจอน้าติ่ง ในสารคดีตกปลา( vcd ) มากที่สุด

พ่อ แม่บังคับให้ไปเรียน มาส่งที่ ร.ร. บ้างครั้งก็ตี  ตอนนี้ย้ายจาก ร.ร. เรียนที่ผมสอน ไปอีก ร.ร.หนึ่งที่เพื่อนเขาเรียนอยู่ ก็เรียนได้ไม่ถึงเดือน ตอนนี้แม่เขาย้ายให้ไปอยู่กับย่าที่ จ.เชียงราย ลงทุนซื้อชุดนักเรียนให้ใหม่หมด แต่เรียนได้ 2 วัน ก็ไม่เรียนอีก ตอนนี้ผู้ปกครองจะย้ายกลับมาเรียนที่ ร.ร.ที่ผมสอนอยู่อีก

ผมว่ายังไงก็ต้องบังคับให้เรียนครับ
พยายามกล่อมให้ได้ว่าการเรียนสำคัญอย่างไร
อย่างน้อยก็จะได้มีความรู้เอาไว้พัฒนาตัวเองอ่ะครับ
บอกเด็กว่าเก็บเกี่ยวความรู้ไปเรื่อยๆ อย่างน้อยก็จะได้อ่านออกเขียนได้มีความรู้ดีกว่าไม่มีครับ
ในอนาคตอาจจะเปิดร้านขายอุปกรณ์ตกปลา หรือเปิดบ่อตกปลา
ตัวเด็กจะได้มีความรู้ในด้านธรุกิจด้วยครับ ค่อยๆกล่อมไปเด็กน่าจะเข้าใจครับ

ลำบากครับ ถ้าพ่อแม่ตามใจอย่างนี้ มันเหมือนเป็นการจ้างลูกไปเรียนด้วยอุปกรณ์ตกปลา คุณครู ต้องคุย ทำความตกลงกับ พ่อแม่เด็กก่อน ว่าจะเอายังไง เรื่องเรียนต้องช่วยกันครับ ทั้งพ่อแม่ ผู้ปกครอง และ ครู/ทางโรงเรียน  เด็กนักเรียน มีหน้าที่เรียน ผมไม่ได้แอนตี้เรื่องเด็กตกปลานะครับ มันดีกว่าที่เด็กจะไปมั่วสุมอย่างอื่น คิดว่าพ่อแม่เด็กก็น่าจะคิดแนวนี้เหมือนกัน เลยตามใจ..แบบ..เกินขอบเขต  ลองคุยดูครับ คุณครู เอาใจช่วยครับ  ปล.ตอนเด็กเคยโดดเรียนไปตกปลา กลับมาโดนตียับ เกือบได้กินคันเบ็ดแทนข้าว

อ่านๆดูแล้ว ถ้าผู้ปกครองของเด็ก(ป.5) ไม่พูดคุยกับตัวเด็กให้รู้เรื่อง ชี้แนะให้เค้าเห็นว่าการเรียน สำคัญมากกว่าการตกปลา เอาแต่ตามใจคอยแต่จะแก้ปํญหาที่ปลายเหตุโดยการย้ายโรงเรียน มันจะเข้าตำรา พ่อแม่รังแกฉัน
อย่าลืมนะครับเค้าเป็นเด็กเรียนแค่ ป.5 ความคิดความอ่านจะมีขนาดไหน ทั้งผู้ปกครองและโรงเรียนต้องช่วยกันแก้ไขครับ

เป็นเรื่องที่น่าคิดหนักอยู่เหมือนกันครับ น่าเห็นใจครับ แต่ผมว่าน่าจะให้เด็กเขาสนใจเรียนเรื่องการเกษตรที่มีความรู้เกี่ยวกับปลาหรือสัตว์น้ำบ้างน่ะครับ แล้วค่อยๆสอนเขาไปเรื่อยๆ รวมถึงหลอกล่อเด็กว่าถ้ามาเรียนกับครู บางที ครูอาจจะแบ่งเวลาในวันเสาร์ หรือวันอาทิตย์ไปตกปลาเป็นเพื่อนก็ได้ โดยคุณครูก็ต้องทำการบ้านหนักซักนิดนึง เห็นใจคุณครูจริงๆครับ

ผมขอยกตัวอย่างของเด็กคนหนึ่งนะครับ  อยู่ทีม แสนสำราน ครับ  หัวหน้าทีมเขาสอนมาดีครับ  คือเฮียฮ้ง  และน้องโบ๊ตครับ

เฮียฮ้ง.....โบ๊ตเฮียได้ข่าวมาว่าเองเรียนต่ำมากเลยเหรอ
โบ๊ต........ครับเฮีย
เฮียฮ้ง.....ต่อไปนี้นะ  ถ้าเองไม่ตั่งใจเรียนหนังสือ  เองอย่ามาตกปลาทีมข้าเลย  เรื่องเรียนเป็นเรื่ยงสำคัญมากเรียนจบจะได้มีการมีงานทำที่ดี  จะได้มีเงินเก็บไว้ยามแก่เฒ่า  ถ้าเองไม่เรียนและไม่มีงานทำ  แล้วเองจะเอาเงินที่ไหนมาตกปลา

ทุกวันนี้ผมยังเห็นน้องโบ๊ตเรียนหนังสือ  ว่างก็มาตกปลา
ต้องขอบคุณเฮียฮ้ง  ที่ปั่นเด็กดีเหลือเกิน  ทุกวันนี้มีแต่คนชมว่าทีม แสนสำราน มารยาทดีกว่าเมื่อก่อนมากๆ  และมีดาวรุ่งมากมายเช่นน้องตั่ม น้องอั่น น้องโบ๊ต...เป็นต้น

ที่กล่าวข้างต้น เป็นการยกตัวอย่าวไห้เอาไปคิดและแก้ไขนะครับเพื่ออนาคตของเด็กๆ  ผมเห็นดัวยที่มีเด็กมาตกปลา  แต่...ไม่เห็นด้วยที่เด็กเอาแต่ตกปลาแล้วไม่ยอมเรียนหนังสือครับ

เห็นใจคุณครูครับ ผมก็เป็นครูเหมือนกันมีความเข้าใจเด็กแต่ละคนก็ต่างปัญหา อย่างกรณีที่ยกมาผมคิดว่ามันต้องใช้เวลาและความพยายามในหลายเรื่อง ขั้นแรกต้องพยายามทำตัวให้เป็นพวกเดียวกับเขาหรือเอาเขาเข้ามาเป็นพวกให้ได้ พยายามยกยอให้เขาเห็นว่าเราเห็นเขาสำคัญ (แต่ก็อยู่ในขอบเขตที่ยอมรับได้)เมื่อเขาไว้วางใจให้ความสนิทสนมคุยได้ทุกเรื่องแล้วค่อยๆดึงเขามาในเรื่องที่เราต้องการชี้นำ แต่ก็อย่างที่บอกนะครับว่ามันต้องใช้เวลาและความพยายามซึ่งครูหลายคนไม่มีจุดนี้ เพราะไหนจะปัญหาตัวเอง ครอบครัว จิปาถะ เลยทุ่มให้กับเด็กคนเดียวไม่ได้ ยิ่งที่ทราบมาเด็กก็ย้ายไปไหนต่อไหนแล้วจะตามเด็กหรือให้ผู้ปกครองเด็กย้ายกลับมาดูแลเอง คงยากและต้องเป็นภาระไปอีกนาน แต่สำหรับคนที่มีความเป็นครู ทั้งชีวิต จิตใจและวิญญาณก็คงไม่เกินความสามารถครับ
ขอเป็นกำลังใจให้กับครูทุกคน

ผมว่าการย้ายไม่ใช่ทางแก้ปัญหาน่ะครับ ผมว่าคนที่เป็นผู้ปกครองน่าจะหาทางออกได้ ในเมื่อห้ามไม่ได้ ทำไมไม่เป็นพวกเขาเลยล่ะครับ อย่างเช่น ไปร่ววมตกปลากับเขา โดยร่วกันตั้งกฏเกณฑ์กับเขาว่า พวกเราจะไปตกกันเฉพาะวันหยุด หรือ งั้นพ่อจะซื้อลงทุนซื้ออุปกรณ์มาตกด้วยกัน พ่อตกไม่เป็นคอยสอนพ่อด้วยน่ะ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ควรจะทราบด้วยว่า การตกปลา ตกแล้วควรจะได้อะไร ผมไม่ได้หมายถึงปลาที่ตกได้อย่างเดียว ผมหมายถึงความรู้ สปิริต น้ำใจ หรืออะไรก็แล้วแต่.  แนะนำเขาให้ดีครับ. ยิ่งห้ามก็คือเหมือนยุ ไม่อย่างนั้น จะมีคำว่าเด็กดื้อหรือครับ?

ผู้ปกครองสำคัญที่สุดครับ ต้องมีข้อแลกเปลี่ยน เช่นการกำหนดวันตกปลา ไปโรงเรียนเสร็จทำการบ้านเสร็จแล้วค่อยให้ไปตก ผลการเรียนแย่ทำโทษโดยการงดตกปลากี่วันก็ว่าไป ซื้ออุปกรณ์ตกปลาให้ถ้าเกรดออกมาดี อะไรทำนองนี้แหละครับน่าจะควบคุมได้ แต่ต้องอย่าใช้อารมณ์ในการแก้ปัญหานะครับ ดูว่าชอบไปตกที่บ่อไหนวันหยุดว่างๆผู้ปกครองก็พาไป แต่อย่างว่านะครับเด็กๆผมก็เป็น

จากการที่ได้พูดคุยกับครูประจำชั้น ครูเขาบอกว่า พ่อ แม่ จะให้ลูกอยู่กับพี่เลี้ยงเป็น  ส่วนใหญ่ จะไม่ค่อยมีเวลาดูแลลูก
ผมเห็นด้วยกับทุกความคิดเห็น เพราะตัวผมเองก็เคยเป็นอย่างเด็กคนนี้ เคยหนีโรงเรียนไปตกปลาคนเดียว ( ทะเล ) กลับถึงบ้านน้าตีเกือบตาย น้าเป็นชาวประมง  น้าเขาบอกให้เรียนหนังสือ วันหยุดแล้วเขาจะพาไปตกปลาเอง  ผมจะลองพูดคุยกับผู้ปกครองตามที่น้า ๆแนะนำ ถ้าเด็กย้ายกลับมาผมจะให้เขาอ่านความคิดเห็นจากทุกคน ในบอร์ดสยามฟิชชิ่งเพื่อเขาจะได้รับรู้ว่าทุกคนมีความคิดเห็นอย่างไร

เด็ก ป.5โรงเรียนไหนครับ เฟี้ยวจัง อิอิ

คงต้องค่อยๆ บอกเค้าละครับ ว่า...
การตกปลา มันต้องมีการพัฒนา ต้องมีการเรียนรู้ การเรียนจะต้องควบคู่ไปกับการเล่น ( ตกปลา ) หากเราเรียนดี ตั้งใจ เราก็ จะได้คะแนนที่ดี เหมือนกับการตกปลา หากเราตั้งใจ ก็ จะได้ ปลาบ่อยๆ และ แยะๆ เช่น กัน ต้องค่อยๆ สอนให้ เค้าแบ่งเวลา กำหนดเวลา ผู้ปกครองมีส่วนสำคัญมาก คงไม่เพียงแค่ คุณครู เพียงอย่างเดียวละครับ...
    บางที การ บังคับ อาจจะต้องใช้ เป็นกรณี สุดท้ายครับ อย่าลืม ว่า พวกเรา ก็ เคยเจอ เคยโดน แบบนี้มาแล้วเช่นกันครับ..
    ดี จัง พี่ติ่ง เป็นฮีโร่ ในใจ น้องคนนี้...
        หากว่า พี่ติ่ง เป็นฮีโร่ ของเค้า..
        เมื่อได้มีการพูดคุย อาจจะทำให้ แนวคิดของ น้องคนนี้ เปลี่ยนไปก็ได้ครับ ผม เชื่อว่า หากต้องการ จริงๆ พี่ติ่ง น่าจะให้ ความร่วมมือครับ..
     

เห็นด้วยกับคห20 ของพี่ป้อมบินไทยนะครับ ผมว่าบางครั้งปัญหาของเด็กไม่ได้เกิดจากตัวเด็กเอง ผู้ปกครองเองก็มีส่วนมาก จากที่น้าพิรนพงษ์บอกว่า มีการติดสินบนให้ไปเรียนด้วยคันเบ็ดกับส่วนมากเด็กอยู่กับพี่เลี้ยงนี่ ผมว่าเป็นปัญหาที่พ่อแม่หลายๆท่านประสบอยู่ด้วยปัญหาเศรษฐกิจในสมัยนี้ด้วยน่ะครับ ส่วนการบังคับหรือย้ายโรงเรียนผมว่าน่าจะเป็นวิธีหลังๆเลยน่ะครับ เพราะการย้ายเด็กไปเรื่อยๆนอกจากสังคมเค้าจะต้องเปลี่ยนบ่อยๆ การแยกห่างเพื่อนในวัยเด็กอาจทำให้เค้ายิ่งไม่อยากไปโรงเรียนมากขึ้นก็ได้ ผมยังเคยเป็นเลยตอนเด็กๆพอเพื่อนสนิทๆไม่มาก็เบื่อ เรื่องนี้อาจต้องใช้เวลาน่ะครับ การคุยกันน่าจะเป็นวิธีที่ดีที่สุด แต่มันอาจจะต้อง "ใช้เวลานานและความอดทนกับความเข้าใจ" มากๆครับ  ยังไงก็เอาใจช่วยครับ ส่วนตัวก็รู้สึกยินดีที่เด็กๆรุ่นหลังรักการตกปลา แต่ยังไงการเรียนกับอนาคตมันก็ต้องมาก่อน

เห็นใจคนเป็นครูนะครับ ยิ่งสมัยนี้ผู้ปกครองก็ต้องดิ้นรนหาเลี้ยงครอบครัวเวลาที่ให้กับลุกหลานมันก็น้อยลง ครูเองก็ต้องมีภาระในการดูแลลูกศิษย์มากขึ้น ผมเองก็เรียนอยู่สายการศึกษาพอจะเข้าใจ สู้ๆครับ เพื่ออนาคตของชาติ