หลังจากที่ "สุรพล บุญช่วย" อดีตข้าราชการครูวัย 53 ปี ได้ทุ่มเทเวลาช่วงว่างจากงานราชการนานแรมปี เพื่อพัฒนาสายพันธุ์ปลาให้ออกมาเป็นปลาเศรษฐกิจตัวใหม่ กระทั่งปี 2546 ก็สามารถนำ "ปลาเทโพ" มาผสมพันธุ์กับ "ปลาเผาะ" ได้สำเร็จ จนพันธุ์ปลาใหม่ "เขียวมรกต" ปัจจุบันกำลังเป็นปลาเศรษฐกิจตัวใหม่ที่กำลังได้รับความนิยม เพราะเป็นปลาที่เลี้ยงง่าย โตเร็ว ให้น้ำหนักสูง เนื้ออร่อย ในท้องตลาดซื้อขายถึงราคา กก.ละ 150 บาท หลังประสบผลสำเร็จ สุรพล ได้ตัดสินใจเข้าร่วมโครงการเกษียณอายุราชการก่อนกำหนด ในตำแหน่งอาจารย์ 2 ระดับ 7 เมื่อปี 2546 เพื่อมาพัฒนาพันธุ์ปลาใหม่ๆ อย่างจริงจัง
สุรพล เริ่มเลี้ยงปลาเป็นงานอดิเรกตั้งแต่ปี 2529 ตั้งชื่อฟาร์มว่า "ธนพลฟาร์ม" ตั้งอยู่ที่บ้านหนองช้าง ต.หนองขอน อ.เมือง จ.อุบลราชธานี เพื่อหารายได้เสริม ปรากฏว่าประสบความสำเร็จอย่างงดงาม มีรายได้จากการเลี้ยงปลาเป็นกอบเป็นกำ กระทั่งปี 2543 หน่วยงานภาครัฐเห็นว่า สุรพล เป็นคนที่มีความตั้งใจจริงในการทำเกษตรกรรม จึงคัดเลือกให้เป็นเกษตรกรดีเด่นอันดับ 2 ของประเทศ ซึ่งหลังจากที่ สุรพล ลาออกจากราชการ ก็ได้ทุ่มเทให้กับการเลี้ยงปลาอย่างเต็มที่
ปัจจุบันที่ฟาร์มของสุรพล มีการเลี้ยงปลาหลายชนิด อาทิ ปลาดุกพันธุ์บิ๊กอุย ปลานิล ปลาไน ปลาตะเพียน ปลาสวาย ปลาเผาะ และปลาเทโพ แต่จะเน้นการจำหน่ายพันธุ์ปลาและส่งขายตามตลาดนัดเป็นหลัก แต่หลังจากที่ได้ร่วมโครงการจากกันด้วยดีหรือเกษียณอายุราชการก่อนกำหนด ก็ได้หันมาเริ่มต้นเพาะพันธุ์ปลาสวยงามข้ามสายพันธุ์ ค้นหาพันธุ์ปลาชนิดใหม่ เพื่อให้ได้ปลาที่มีคุณสมบัติเฉพาะตัวดีมากยิ่งขึ้นและเป็นที่ต้องการของตลาด
"ผมตั้งใจจะพัฒนาและพลักดันปลาเขียวมรกตให้เป็นปลาเศรษฐกิจตัวใหม่ เพราะเป็นปลาที่มีเนื้ออร่อย ส่วนปลาเทโพและปลาเผาะต่างก็เป็นปลาเนื้ออ่อนชั้นดี แต่จะต่างกันตรงที่ ปลาเทโพตัวใหญ่ก็จริง แต่จะโตช้า ส่วนปลาเผาะตัวเล็ก แต่โตเร็วและมีความคล่องแคล่วในการหากิน ซึ่งเมื่อทำการผสมพันธุ์โดยการเอาน้ำเชื้อของปลาเทโพมาผสมกับไข่ของปลาเผาะแล้ว ลูกออกมาก็จะกลายเป็นปลาเขียวมรกต" สุรพล กล่าว
สุรพล บอกถึงลักษณะของปลาเขียวมรกตว่า มีลักษณะคล้ายกับปลาสวาย แต่หัวจะโตคล้ายปลาบึก มีรูปร่างใหญ่กว่าปลาเทโพและปลาเผาะ ลำตัวด้านบนสีเขียวปนน้ำเงินคล้ายสีเขียวมรกต การเคลื่อนไหวรวดเร็วคล้ายปลาฉลาม อัตราการเจริญเติบโตสูงกว่าปลาเทโพและปลาเผาะ ซึ่งหากเลี้ยงไปเรื่อยๆ น้ำหนักอาจสูงสุดได้ที่ 50 กก. ส่วนรสชาติของเนื้อปลาพันธุ์ใหม่นี้ มีรสหวาน ไม่คาว ซึ่งเป็นคุณสมบัติเด่นของทั้งปลาเผาะและปลาเทโพ
"ปลาเขียวมรกตที่ผมเพาะพันธุ์ใหม่อยู่นี้ มีคุณสมบัติเด่นคือ มีความอดทนสูง คาดว่าน่าจะกลายเป็นสัตว์เศรษฐกิจตัวใหม่ที่ทำกำไรอย่างงดงาม อีกทั้งในปัจจุบันนอกจากฟาร์มของผมที่เลี้ยงเองกว่า 3,000 ตัวแล้ว ยังมีผู้ที่ทราบข่าวสนใจติดต่อมาว่าอยากได้ไปเลี้ยงอีกเป็นจำนวนมาก สำหรับราคาขายนั้น ขนาดความยาว 5 นิ้ว ขายราคาตัวละ 4 บาท และรับประกันว่ารอดตาย 100% ส่วนเวลาที่ใช้เลี้ยงเพียง 4- 5 เดือน ก็สามารถจับขายได้ โดยปัจจุบันราคารับซื้อในท้องตลาดอยู่ที่ กก.ละ 150 บาท และผมยังสามารถประกันราคาให้ได้ถึง กก.ละ 60 บาทเป็นอย่างต่ำอีกด้วย" สุรพล กล่าว
สุรพล บอกอีกว่า ปลาเขียวมรกตนับเป็นผลงานชิ้นเอกของตนที่เพาะพันธุ์มากับมือและเป็นคนแรกของประเทศไทย โดยตั้งความหวังว่า อนาคตปลาชนิดนี้จะสามารถทำเงินได้เป็นอย่างดี ซึ่งอาจจะสร้างมูลค่านับล้านบาทในเวลาอันใกล้นี้ ดังนั้นตนจึงเร่งเพาะพันธุ์ต่อไป เพราะเป็นปลาที่มีรูปร่างและสัดส่วนสวยงาม ซึ่งนอกจากจะเลี้ยงเพื่อส่งขายตามตลาดนัดแล้ว ยังสามารถเลี้ยงเป็นปลาสวยงามได้อีกด้วย
หากสนใจข้อมูลของ "ปลาเขียวมรกต" เพิ่มเติม ลองแวะไปชมได้ที่ "ธนพลฟาร์ม" หรือสอบถามจาก "นายสุรพล บุญช่วย" ที่หมายเลขโทร.0-1877-7039
http://news.cedis.or.th/detail.php?id=756&lang=en&group_id=1
อ่านเจอครับ . . . อนาคต น่าจะเป็น GameFish นะครับ