ซักพักปลาเริ่มเปลี่ยนสี ลำตัวเริ่มมีสีสรร พี่ติ่งพี่ไปสบตา บอกกับพวกเราว่า ตาขยับได้แล้ว หางเริ่มโบกที่ละเล็กน้อย ขยับเป็นจังหวะ ตามแรงเรือที่เคลื่อนตัว
น้าไม่รู้ เอื้อมเอามืออีกข้างลูบไปบริเวณหัว ตบเบา ๆ ด้วยความประทับใจ ได้ ทุกคนดีใจ ปลาตัวนี้ฟื้นตัวแล้วหลังอ็อกซิเจนผ่านช่องเหงือกทำให้ปลาแข็งแรงขึ้น ทันทีที่พี่ไม่รู้ปล่อยงวง พร้อมตะโกนลั่น แบบไม่เคยหรี่วอลุ่ม "ไว้เจอกันตอนห้าร้อยโลไอ้หนู" กระโทงแทงหนุ่ม สลัดหางพาตัวเองกลับลงสู่น้ำลึกอีกครั้ง
ผมขอคาระวะปลาที่เป็นอาจารย์ของพวกเราในทริพนี้ สมกับชื่อ......ราชันย์แห่งท้องทะเล ทีมงานล่าฝัน ถ่ายรูปเป็นที่ระลึก กับหัวเจ๊ตตัวเก่ง
ปล. ปลาตัวนี้ ใช้เวลาสู้ 1ช.ม. 15 นาที ลากเรือจากจุดสไตล์มาถึงจุดปล่อยถึง 3 ไมล์ทะเล ที่ความลึก 200 เมตรครับ น้ำหนักประมาณ 130 กิโลครับ น้ำหนักอย่างเป็นทางการไม่มี เพราะ เหตุผลสามประการ
1. พวกเรากลัวว่าเอาขึ้นเรือถ่ายรูปชั่งน้ำหนัก แล้วปลาจะตาย
2. ในเรือไม่มีตาชั่ง ขนาดที่จะชั่งปลาตัวนี้ได้
3. หากนำปลาขึ้นฝั่ง มันจะขัดแย้งกับข้อหนึ่ง
สาร์นจากน้าไม่รู้เพิ่มเติ่มครับ
ขอขอบคุณ ไต๋แป๊ะ พี่หมูโอเชี่ยน ที่ได้นำพาไปหาสิ่งที่ทุกคนใฝ่ฝัน กับทริพดี ๆ ที่อันดามัน
ขอบคุณพี่หมู สำหรับคำแนะนำ การใช้เหยื่อหัวเจ็ต
ขอบุคณพี่ติ่งแสมสาร ที่ชายที่จะยืนข้างผมเสมอ ยามผมได้โทรฟี่ประทับใจ พร้อมความช่วยเหลืออีกหลายอย่าง บรรยายไม่ไหว
ขอบคุณ พี่เล็กพัทยา น้องลิ้ม น้องเอิธ ที่ช่วยให้การต่อสู้ครั้งนี้ จบลงด้วยดี ไม่มีการสูญเสีย
ขอบคุณ ไมค์ ที่คอยช่วยดึงฮาร์เนต ไว้ป้องกันอุบัติเหตุ
ขอบคุณ พี่บิ๊ก พี่ตั้ม สำหรับภาพวีดีโอ
ขอบคุณพี่ชาญ และทุกท่าน บนเรือ ที่ช่วยให้แรงใจ และช่วยเหลือทุกอย่าง
พิเศษ สำหรับคำขอบคุณผู้ที่ไม่ได้อยู่ร่วมทริพ แต่เกี่ยวข้องกับปลาตัวนี้
พี่แมค สำหรับชุดลีดเดอร์
อาจาร์ย xx1สำหรับความเอื้ออาทร รอก Alutechnos Abacore 30
ผมจะพามันไปตามล่าหาฝันต่อ ไป
mairoo