หน้าแรก|กระดาน|รีวิว|ประมูล|ตลาด|เปิดท้าย

หางกิ่วแปดริ้ว

ยังมีความคลาดเคลื่อนอยู่มาก ปลาม้าปลา หางกิ่ว ปละปลาอังตู ว่าเป็นปลาชนิดเดียวกันคะ

ปลาทั้ง 3 ชนิดมีลักษณะที่แตกต่างกันเพียงสีที่ตัวเท่านั้น คือ ปลาม้าแท้ๆ จะมีตัวสีขาวเกล็ดขาว แต่ถ้าเป็นปลาหางกิ่วจะมีเหลืองแซมตามตัวและครีบ ส่วนปลาอังตู จะมีสีแดงแซมตามตัวและปลายครีบเช่นกันคะ

สงสัยมันจะร้อนคะ

การตกปลาชายฝั่ง ทางย่านบางปะกงมีแหล่งหมายดีๆอยู่หลายแห่งคะ แต่ปัญหาในเรื่องผักตบชวา น้ำแรงไหลเชี่ยว

การออกเรือเพื่อพาเข้าหาแหล่งหมายจึงเป็นทางเลือกที่ดีคะ

การให้บริการเรือพานักตกปลาออกตกตามแหล่งหมายในย่านนี้ จะมีน้าเยี่ยม น้าชา น้านพ และน้าบำรุง ส่วนทางด้านบางขนากก็จะเรือของครอบครัวลุงยิ้มคะ

ส่วนเหยื่อก็จะใช้กุ้งต๊อก และกุ้งเป็นชนิดอื่นคะ ทางเรือจะบริการขายให้คะ

การตกปลาม้านิยมกันตอนช่วงชนปีคะ คือราวเดือน ธ.ค.-ม.ค. เรียกว่าฤดูน้ำขาว หรือน้ำชน เพราะเป็นช่วงปลาม้าผสมพันธ์ และวางไข่ไว้รอน้ำเค็มที่จะหนุนเข้าราวเดือน ก.พ.ของทุกปีคะ

ส่วนปลาหางกิ่วนั้นตกได้ทั้งปีคะ

สุดท้ายของหางกิ่ว..ฮิฮิ

ต้องขอขอบคุณน้าเยี่ยมบางปะกงที่ให้ข้อมูลคะ

ถ้าน้าๆยังไม่มีแหล่งหมายที่ใด ลองมาตกปลาหางกิ่วบางปะกงดูสิค่ะ สวัสดีคะ

คนแรกที่ก่อนมาโพสต์ ต้องจองพื้นที่ด้วย ...โถ แม่คู้นนนนนนนนนน

...น้าตึกครับป้าค้างเค้ากัวน้าเยสมาแซกนาดิ....

ไหนว่ากลับไปอยู่โคราชแล้วอ่ะ    อ๋อ !!! สงสัยมารถสายโคราช - ชลบุรี แล้วแวะลงที่แปดริ้ว  อิ อิ  ....

น้าหลามคะ หนูกลับมาทำงานที่เดิมแล้วคะ

มีปัญหานิดหน่อยคะ ได้เล่าให้น้ายุทธฟังในห้องสนทนาแล้วคะ

ป้าเค้างไปตกปลามาด้วย.... ดีจัง
    ม่ะเห้งโชว์สีมือมั่งเรยยยยยยยย ค๊าบบบบบบ......

ป้าน้ำค้าทานหมดใหมนั่นน่ะตั้งหลายตัว
แถวดอยบ้านผมมะมีหางกิ่วง่ะครับ
มีแต่ แค-หร่อะ

    อันนี้เพิ่มเติมให้ป้าน้ำค้างนะครับ ปลาม้าเป็นปลาล่าเหยื่อ รูปร่างของเค้าจะแบนยาว เกล็ดขาวละเอียดมันวาว มีครีบหลังยาวตั้งกะช่วงเหงือกจรดปลายหาง มีแผงฟันละเอียด นิสัยการกินอาหารจะหากินใกล้ตลิ่งในตอนกลางคืน  และลงลึกในตอนกลางวัน  ซึ่งจะมีอยู่ด้วยกันสองประเภท  ในรูปตัวบนเป็นปลาม้าส่วนตัวล่างเป็นหางกิ่วครับ  ความแตกต่างของทั้งสองตัวคือ  ปลาม้าจะมีเกล็ดสีขาวละเอียด  ช่วงตัวเรียวยาวกว่า ส่วนหัวจะเรียวงอนเล็กน้อย  ส่วนหางกิ่วนั้นส่วนมาแล้วตัวจะออกสีเหลืองแต่ก็มีเหมือนกันที่ขาวจั๊วะจนทำให้เข้าใจผิดว่ามันเป็นปลาม้า เกล็ดจะแข็งและหยาบ  ตัวป้อมสั้น  อีกเรื่องที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง  คือ  รสชาดของเนื้อ  ซึ่งหลายท่านคงได้มีโอกาสได้ลองลิ้มชิมรสกันบ้างแล้ว  ปลาม้าขาวนั้นรสชาดดีกว่าหางกิ่วมาก  ราคาค่างวดตอนนี้ก็เกือบๆ 300 บาทต่อกิโลในกรุงเทพ หรือภัตราคาร  แต่หาซื้อกินยากครับ  ในส่วนของการตกปลานั้น  ในปีนึงจะมีช่วงที่ตกปลาม้าได้เพียงไม่กี่เดือน เนื่องจากเมื่อน้ำเค็มหนุนขึ้นมาปลาม้าจะอพยพหนีไปที่อื่น  ไม่มึนเหมือนอีตาหางกิ่วที่ทนทุกสภาวะการณ์  จืดก็พอไหว … เค็มก็โอเช
ปลาม้าขาวนั้นผมยกให้เป็นปลาเชิงสูงตัวนึงในพจนานุกรมตกปลาของผมเลย เนื่องจากเป็นปลาที่กินเหยื่อระแวง  ต้องเรียนรู้การจับจังหวะตวัดคันให้ดี  ไม่งั้นได้ตัวยากมากครับ นอกจากเจ้าตัวนั้นนอนกินกลืนลงคอไปแล้ว …

 

  .... ตอนนี้ฝนเริ่มลงแล้วครับ ผมว่าให้ลงหนักๆอีกซัก 3 - 4 ครั้งหางกิ่วคงเริ่มชุมแล้วที่บางขนาก แต่ถ้าจะรอปลาม้าขาวคงต้องให้น้ำเอ่อจนล้นตลิ่งเต็มที่ก่อนครับ คิดว่าคงเป็นประมาณเดือนสิงหา - กันยาเหมือนปีที่แล้ว แต่น้ำเดี๋ยวนี้เอาแน่ไม่ได้คับ บางทีคลาดกันเป็นเดือนก็มี ... อิอิ ... ตอนนี้ป๋มได้แต่ รอ .. ร้อออ .... รอคับ

ปลาคับปลา....

5555555555  ไม่ต้องอายพี่เล็กครับ  พี่เล็กอ่ะเพิ่งรู้ความแตกต่างของ ปลาม้า กับ ปลาหางกิ่ว ก็กระทูนี้แหละครับ ใน ความเห็นของ น้า ติ๊ก ซาหระบูรี ไง อิอิ เพิ่งรู้จริง ๆ นะเนี่ยะ 

...ได้ ความรู้อีกแล้วเรา....  

ป้าน้ำค้าง เลิกไปขายส้มตำที่โคราช กลับมาอยู่ กุงเทบ... เหมือนเดิมแล้ว ...  ฮ่าๆๆๆๆ 

ฮิ ฮิ  บอกแว้วววว !!! เวบนี้มีมนต์ขลัง  ตัดใจลำบาก 

  .... น้าหลามหวานทุกกระทู้ ... มิน่างาน Frienly  Match น้าเต้ยถึงจ้องจะแทงอย่างเดียว ... อิอิ

ขอบคุณคร้าบบบ ความรู้จริง ๆ นะครับนี่ ผมก้อเพิ่งรู้เหมือนกันครับ