ความเห็น: 37 - [16 ต.ค. 46, 11:10] ดู: 6,043 - [21 ธ.ค. 67, 21:25]
อยากได้อะไรจากนิตยสารตกปลากันบ้างครับ ช่วยกันหน่อยครับ
กระทู้: 10
ความเห็น: 235
ล่าสุด: 27-01-2566
ตั้งแต่: 27-07-2546
ใจเย็น ๆ ครับคุณเบื่อเหมือนกัน ผมอยากทราบสิ่งที่คุณเบื่อต้องการน่ะครับ ซึ่งก็พอสรุปได้หลายประเด็นครับ อย่างไรเสียถ้ามีคนโพสมากๆ (หลายท่านไม่ลงทะเบียนครับ) ไม่เป็นไรครับ ไม่ต้องลงก็ได้ครับ เอาสิ่งที่คนอ่านอยากได้ครับ คนทำหนังสือให้ได้ไม่หมดไม่เป็นไรอีกครับ แต่ถ้าทำได้บ้างก็ยังดีนะครับ อย่างน้อยคนซื้อหนังสือมากขึ้นแน่ๆ ครับ ผมอาสารวบรวมข้อมูลส่งให้นิตยสารตกปลาเองครับ แต่ว่าก่อนอื่นข้อมุลต้องมีน้ำหนักมากพอครับ อย่างน้อยเราอาจจะได้นิตยสารที่ถูกใจหลายท่านมากขึ้นครับ ท่านที่เลิกอุดหนุน อาจหันมาสนใจใหม่ก็ได้ครับ ถ้าผมชวนให้ซื้อเฉย ๆ คงไม่สนคำผมกันแน่ครับ อยากให้เป็นแบบไหน มีอะไร ไม่มีอะไรเราต้องช่วยกันออกความเห็นครับ เรื่องช่วยกันซื้อก็คงต้องช่วยกันอยู่แล้วครับ ไม่งั้นคนทำหนังสือก็อยู่ไม่ได้ครับ แต่ให้ช่วยอย่างเดียว ไม่รับฟังผุ้บริโภคบ้างเลยผมว่าไม่ยุติธรรมครับ ช่วยกันโพส ครับช่วยกันนะ อ้อนวอนแล้วนะเนี่ย.....
คุณอับดุล11 ถ้าเข้ามาอ่านอีก เมลล์แจ้งเบอร์โทรให้ผมนิดนะครับ ปีใหม่ผมจะโทรไปหาครับ ถ้าหนังสือยังอยู่จะไปขอซื้อต่อครับ ไม่ก็จะหาของไปแลกครับ botoya@hotmail.com
กระทู้: 121
ความเห็น: 1,557
ล่าสุด: 29-04-2567
ตั้งแต่: 19-03-2544
...........(แปลว่า อ่านแล้วจะนำไปพิจารณา).........
cybernop
ไม่เห็นมีใครพูดถึง 'ความถูกต้องของภาษา' เลย
ผมอยากเห็นคนเขียนหนังสือ ใช้ภาษาอย่างถูกต้อง สะกดคำอย่างถูกต้องครับ ถ้าไม่มั่นใจคำไหนกรุณาเปิดพจนานุกรม
เอาแค่คำง่ายๆ เช่น ปลาเกล็ด(ไม่ใช่เกร็ด) การตกปลาแบบฟลาย (ไม่ใช่ ฟราย เพราะมาจากภาษาอังกฤษว่า fly) หรือศัพท์ภาษาอังกฤษ ถ้าไม่มั่นใจกรุณาเปิด dictionary ครับ
ผมเชื่อว่าหนังสือตกปลามีเด็กอ่านอยู่จำนวนมาก ในเมื่อเด็กๆรักการอ่านแล้ว ก็อย่าให้พวกเขาจำอะไรผิดๆไปใช้เลยครับ
กระทู้: 10
ความเห็น: 11
ล่าสุด: 27-01-2566
ตั้งแต่: 18-09-2546
เหมือนกันนะ ผมชอบอ่านเทคนิคต่างๆ สูตรเหยื่อ ผ่ารอก พวกนี้มากกว่่าพวกออกทริป
โฆษณาขายของเหมือนกันมีเยอะจริงๆ มีน้อยๆลงก็ได้นะ
ขอหนูหน่อย
จริง ๆ เมืองไทยคนใช้ Internet ยังน้อยมากนะครับ การที่มีหนังสือให้อ่าน หลาย ๆ แบบก็ดี อย่าง ชอบตกปลาทะเลต้องเล่มนี้ ชอบตกหมายธรรมชาติต้องเล่มนั้น อะไรทำนองนี้ โดยส่วนตัวผมชอบที่จะซื้อหนังสืออ่านอยู่แล้วไม่ว่าจะ การ์ตูน ตกปลา นิยาย, ฯลฯ อยากอ่านเมื่อไหร่ก็หยิบขึ้นมาอ่าน บางทีซื้อมายังไม่ได้อ่านก็มี เพราะผมทำงานหน้าเครื่องคอมอยู่แล้วเวลาพักผ่อนก็ไม่อยากจับคอมอีก ผมว่าโฆษณาบางครั้งก็มีประโยชน์นะครับ จะได้รู้ว่ามีอุปกรณ์อะไรใหม่ ๆ เกิดขึ้นบ้าง แต่น่าจะบอกคุณสมบัติ รายละเอียด ให้มากกว่านี้ หนังสือตกปลาเมืองไทย 1 เล่มราคาประมาณเท่ากับเบียร์ 1 ขวด คนไทยกินเบียร์กันทุกวัน ๆ ละ กี่ขวดไม่รู้ แต่คนไทยซื้อหนังสืออ่านน้อยมาก (ผมเคยบอกคนที่บ้านว่า จะให้ผมซื้อหนังสืออ่านหรือจะให้ผมเอาเงินไปซื้อเบียร์กินล่ะ)
สรุป ว่าอยากให้กลุ่มผู้ผลิตหนังสือหยุดคิดสักนิดว่าคุณกำลังชี้นำวงการตกปลาไปทางไหน
ถ้าหนังสือ มี 100 หน้า คุณจะให้มีเรื่องเหล่านี้กี่หน้า
- โฆษณา ให้รู้ว่าโลกตกปลาก้าวหน้าไปถึงขั้นไหนกันแล้ว
- รายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงนั้น ๆ ไม่ใช่หนังสือเดือน 10 เอาเหตุการณ์เดือน 2 มาตีพิมพ์
- ข้อมูลความรู้ต่าง ๆ รวบรวมเป็นเรื่อง ๆ ให้จบภายใน 1 3 เล่ม เช่น สายเอ็น, คันเบ็ด, รอก หรือระบบเบรค มีกี่ประเภท ทำจากวัสดุอะไรบ้าง ใช้งานด้านไหน ฯลฯ
- บันเทิงเริงรมย์ให้มีความสนุกสนานบ้าง ตลกขบขัน การ์ตูน เพื่อสอดแทรกแนวความคิดต่าง ๆ
สำหรับผมให้ โฆษณา 30 (เนื่องจากเป็นความชอบส่วนตัว) รายงานเหตุการณ์ 20 ความรู้ 30 ที่เหลือบันเทิงล้วน ๆ
ผมอยากได้มากไปไหมครับ
กระทู้: 32
ความเห็น: 1,046
ล่าสุด: 27-01-2566
ตั้งแต่: 13-06-2545
ในฐานะนักตกปลาคนหนึ่งที่อยู่ในวงการนี้มายี่สิบกว่าปี อ่านหนังสือแนวตกปลามาก็หลายฉบับจนเป็นกองสูงท่วมหัว จากนักตกปลาไม่กี่คนในอดีตจนนับไม่ไหวในปัจจุบัน ทุกคนออกตกปลาล้วนต้องการปลาขนาดใหญ่ และได้จำนวนมากเท่าที่จะตกได้ เพื่อความสะใจ และโอ้อวดความกล้าเก่งของตัวเองพวกพ้อง ซึ่งก็ไม่ใช่สิ่งผิด น้อยคนที่จะคิดตกปลาเชิงอนุรักษ์ จนทุกวันนี้เกิดวิกฤตในธรรมชาติ แม่น้ำ ทะเล จำนวนปลาลดน้อยลงอย่างมาก
แทนที่หนังสือจะเป็นผู้นำทางด้านความคิดช่วยกัน กำหนดกรอบ กติกา มารยาท ที่ดีให้แก่วงการตกปลา กลับส่งเสริมการล่าใครตกปลาได้มามากถือว่าเก่ง ลงโฆษณาเชิงบทความ เพื่อให้เกิดการทำตามอย่างกันต่อ ๆ มา จากชายฝั่งสู่กลางอ่าว ทำธุรกิจหนังสือจนลืมสร้างคุณค่าที่ดีให้กับวงการตกปลา ชักนำสิ่งที่ควรทำ สืบต่อไปถึงอนุชนคนรุ่นหลัง
เมื่อการทำหนังสือเป็นธุรกิจ เจ้าของก็ต้องคิดถึงความอยู่รอดจนต้องมีสปอตโฆษณา จะหวังพึ่งพายอดขายอย่างเดียวก็กลัวจะอยู่ไม่รอด คนอ่านก็มีน้อย เป็นหนังสือเฉพาะกลุ่มไม่กว้างนัก และยังไม่อยากจะซื้ออ่านกันอีก ไหนจะต้องแข่งขันกันเองอีกหลายฉบับ ที่อยู่ได้ทุกวันนี้ก็บุญแล้ว
หันมามองทางด้านนักเขียนก็ตัวใครตัวมันไม่มีการรวมตัวแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเพื่อกำหนดทิศทางให้กับวงการ ใครตกปลาได้เขียนหนังสือพอเป็นก็ได้ลงบทความ เก่งหน่อยก็แปลงานต่างประเทศ แถมยังกีดกันพวกใครพวกมัน หรือกลัวว่าปลามันจะไม่สูญพันธ์ กว่าจะพบแนวทางสร้างสรรค์ร่วมกัน
ที่ได้อ่านกันอยู่ทุกวันนี้ก็ต้องขอขอบคุณนักคิดนักเขียนเป็นอย่างมากแล้วครับ ที่เสียสละเวลา ทั้งออกตกปลา และกลับมานั่งเขียน ค้นคว้า หาข้อมูลมานำเสนอ โดยไม่มีเงินสนับสนุนหรือผลตอบแทนได ๆ ที่เห็นพอได้ก็น้อยเต็มที แต่นักเขียนที่ดีก็ควรต้องชี้นำสังคมไปสู่สิ่งที่ดีกว่า หรืออย่าให้ตกต่ำไปกว่าเดิม เราตั้งความหวังกันมากไปหรือเปล่าครับ ? กับหนังสือตกปลาบ้านเรา..!
tom
เห็นด้วยกับ พี่ป.ประจิณ เป็นอย่างยิ่งครับ
มะโหกบวม
อย่าลืมแปรงฟันก่อนนอนนะ อิอิอิ
เดี๋ยวฟันผุ!!!
..คิดไรมากกกกกกกกก....หนังสือ กอไก่ หปมอ่านมาตั้งเป็นปีๆยังไม่เบื่ออออ
กระทู้: 107
ความเห็น: 59,725
ล่าสุด: 09-12-2567
ตั้งแต่: 16-08-2544
ชฎิล ประสพฤกษ์
....ก่อนอื่น ผมขอกราบขอบคุณผู้ที่ตั้งกระทู้นี้ด้วยใจจริงครับ
....ผมไม่ได้เป็นเจ้าของหนังสือหรอกครับ แต่บังเอิญว่าในอนาคต ผมกำลังจะทำโฮมเพท ซึ่งคิดว่าในประเด็นที่พี่ยกขึ้นมาเสนอนี้ มันมีประโยชน์ในการทำเวบมากครับ เนื่องจากหนังสือและเวบไซท มันค่อนข้างคล้ายกัน
....อีกประการหนึ่งคือ ผมได้ยึดเอางานเขียนในคอลั่มตกปลาต่างๆเป็นอาชีพมาตั้งแต่ปี 36 ราวๆนั้น มาโดยตลอด เรื่องที่พี่ตั้งกระทู้และเรื่องที่พี่ๆอีกหลายคนคุยกันจึงมีประโยชน์สำหรับผม 2 แง่
คือ
1.ในแง่ของการดำเนินงานที่กำลังจะมาถึง(เปิดเวบ)
2. ในแง่ของคนทำงาน ที่อยากทำงานให้มันคุ้มค่า ทั้งทางตรง(ค่าเรื่อง) และทางอ้อม(ถูกใจผู้อ่าน)
....แต่ด้วยหลายๆกรณี ในการทำหนังสือแต่ละฉบับนั้นมีการดำเนินงานค่อนข้างซับซ้อน อีกทั้งยังเป็นเรื่องที่ว่า การตัดต่อ เติมคำใหม่มันมักจะทำให้ความหมายในรูปประโยคผิดเพี้ยนไป เนื่องมาจากอุปนิสัยหรือบุคลิกของคนเขียนกับคนจัดรูปเล่มไม่เหมือนกัน และด้วยเวลา ต้นทุน ต่างๆนั้นมันรัดตัว
...ผมเชื่อว่าผู้ที่เป็นเจ้าของหนังสือ ก้อยากทำหนังสือให้มันออกมาดูดี แต่บางทีมันก็จนใจครับ จึงกลายเป็นว่า งานที่ทำออกมาทั้งหมด แม้ว่าอยากทำให้ดีได้แค่ไหน มันก็เป็นแค่เพียงความพยายามที่อยากจะทำ ของคนทำงานแต่ละคนแต่ละฝ่ายครับ
....สรุปคือ ก็คงต้องแก้ไขข้อบกพร่องกันต่อไป อาศัยรับฟังจากกระบอกเสียงของทุกฝ่าย เพื่อนำไปเป็นคติเตือนใจในการทำงานทุกครั้ง
กราบขอบคุณสำหรับผู้ที่ตั้งกระทู้นี้ด้วยใจจริงอีกครั้ง
ตุ้ย มาร์ลิน
cybernop
"2. ในแง่ของคนทำงาน ที่อยากทำงานให้มันคุ้มค่า ทั้งทางตรง(ค่าเรื่อง) และทางอ้อม(ถูกใจผู้อ่าน)"
ถ้าเริ่มต้นคิดแบบนี้รับรองไม่ได้งานที่ดีแน่ครับ ถ้าจะให้ได้งานที่ดีต้องคิดกลับกันครับคือ
ทางตรง(ผู้อ่าน) และทางอ้อม(ค่าเรื่อง)
เมื่อเราทำงานโดยคิดถึงลูกค้าเป็นหลัก และรัก ชอบ ในงานที่ทำ เราจะผลิตผลงานที่ดีออกมา ส่งผลให้มีผู้คนชื่นชอบกับงานของคุณ แล้วค่าเรื่องที่เพิ่มขึ้นก็จะตามมา
คงคล้ายๆการตีเหยื่อปลอม ที่ต้องเลือกคันดีๆ เบาๆ รอกดีๆ ลื่นๆ สายเอ็นยืดตัวน้อย เหยื่อหลากหลายร้อยแบบ เทคนิคอีกนับพันวิธี เพื่อจะตกปลาขึ้นมาสักตัวครับ
Botoya
Good afternoon I am Botoya...
Thank you to Everbody for your posted.
I have some word for Today.....
``Cat like fish but hate water.``
And I think about some topic some problem.
Just...!!! not
``Water under the bridge.``
Thank you
Botoya