ภาพที่ 1
ไปตลาดแล้วเลือกปูทะเลเนื้อ (จะมีปูไข่อีกครับ แต่วันนี้จะผัดปูเนื้อเพราะปูไข่ขายหมดไปแล้ว) ได้มา 2 ตัว ราคา 400 บาท
ตัวกำลังน่าผัด 2 ตัว 7 ขีด เลือกปูที่แน่น คือกดที่หน้าอกตรงช่องขา ถ้ากดไม่ลงก็แสดงว่าปูแน่น และไม่ตาย น้ำหนักตึง ๆ มือ
ผมให้คนขายจัดการแทงอกให้ก่อน เพราะอยากกินแต่ไม่อยากทำปูเป็น ได้มาแล้วก็ทำความสะอาด
ภาพที่ 2
ผ่าปูนออกเป็น 2 ส่วน ผ่าไปทั้งกระดอง ใช้มีดใหญ่และคม ประทานโทษผมเอาสากตอกสันมีดอีกที
ภาพที่ 3
ผ่าเสร็จแกะเอากระดองออกจากส่วนขา ห้ามทิ้งกระดองนะครับ เพราะส่วนที่อร่อยที่สุดอยู่ที่กระดอง ในกระดองจะมีมันปูที่เห็นสีเหลือง ๆ
ภาพที่ 4
จัดการเอามีดผ่าให้ได้ชิ้นดังภาพ ครึ่งตัวจะได้ 2 ชิ้นแบบนี้ ส่วนเล็บที่แหลม ๆ ก็ตัดทิ้งไป เพราะกินไม่ได้
ภาพที่ 5
ส่วนก้ามให้ตัดเป็น 2 ชิ้น ทำความสะอาดด้วยแปรง แล้วก็จัดการทุบด้วยสากให้แตก เพื่อจะกินได้ง่าย ถ้าใช้ฟันแทะ ฟันหักแน่
เพราะแข็งและหนามาก อีกอย่างหนึ่งเพื่อให้ผัดสุกเร็วขึ้น
ภาพที่ 6
นี่ครับมันปูที่อยู่ในกระดอง เราก็จัดการใช้ช้อนขูดลงในถ้วยต่างหาก
ภาพที่ 7
แล้วใส่ไข่ไก่เข้าไปด้วย 1 ฟอง จะคนหรือไม่คนก็ได้เพราะตอนใส่ลงกระทะต้องคนอยู่ดี
ภาพที่ 8
เครื่องมีทั้งหมดพร้อมผัดแล้วครับ มีกระเทียม ผักคึ่งช่าย นมชนิดหวาน (ไม่ต้องใส่น้ำตาลเลย) และผงกะหรี่ตราปืนไขว้ ต้องใช้ยี่ห้อนี้นะครับถึงจะอร่อย เพราะเป็นผงกะหรี่ชั้นดีหาซื้อได้ตามห้างสรรพสินค้าทั่วไป ในตลาดสดหาซื้อไม่ค่อยได้ เพราะราคาจะแพงกว่าที่ชาวบ้านใช้กัน
ภาพที่ 9
ลงมือผัดกันเลย ใส่น้ำมันและใส่กระเทียมลงไปให้เหลือง แล้วใส่ก้ามปูลงไปก่อน เพราะส่วนนี้จะสุกยาก เมื่อเหลืองได้ที่แล้วก็ให้ใส่ส่วนที่เป็นเนื้อลงไป
ภาพที่ 10
ไปต้องแรงครับ เร่งสุดได้เลย พอปูสุกก็ใส่ผงกะหรี่ลงไปพอสมควร ใส่มากเดี๋ยวกลิ่นแรงแล้วคนให้ทั่วเพื่อจะผงกะหรี่จะซึมเข้าเนื้อ
พอเห็นว่ากระทะแห้ง ๆ ก็ใส่นมสดชนิดหวานลงไป และไม่ต้องใส่น้ำตาลแล้วนะครับ ใส่พอสมควรไม่ให้แฉะแล้วคน
ภาพที่ 11
ใส่ซีอิ้วขาว หรือน้ำปลาก็ได้ ไม่ต้องใส่มากเพราะผงกะหรี่มีรสเค็มอยู่แล้ว ใส่มากเดี๋ยวเค็มไป ใส่น้อย ๆ แล้วใส่ผักลงไปคลุกอีกนิดเดียว ก็ตักใส่จานได้เลย ถ้าเห็นว่าแห้งไปก็เติมน้ำได้นิดหน่อย กะว่าให้ขลุกขลิกแค่นั้นก็พอ จะได้ปูทะเลผัดผงกะหรี่ที่สุดแสนอร่อย เพราะใช้ปูสด ๆ และใช้มันปูในการเพิ่มรสชาด เสร็จแล้วครับ ลองทำดูรับรองว่าไม่ยากอย่างที่คิด