สยามฟิชชิ่ง
หน้าแรก|กระดาน|รีวิว|ประมูล|ตลาด|เปิดท้าย
login | สมัครสมาชิก | วิธีสมัครสมาชิก | ลืมชื่อ/รหัส | login ไม่ได้? | 25 เม.ย. 67
ชัยชนะหรือความพ่ายแพ้ : Fishing Article
 ห้องบทความ/เทคนิค > บทความตกปลา
ความเห็น: 11 - [24 ส.ค. 54, 10:09] ดู: 2,399 - [25 เม.ย. 67, 19:17] โหวต: 8
ชัยชนะหรือความพ่ายแพ้
นวล (20 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้) offline
24 ต.ค. 45, 10:29
1
ชัยชนะหรือความพ่ายแพ้
โดย นวล
บนยอดคลื่นที่ยกตัวเองขึ้นสูง อาจจะสูงกว่าครั้งใดในการออกแสวงหาบทเรียนจากผืนน้ำสีครามเท่าที่ผ่านมา ข้าพเจ้าเฝ้ามองยอดคลื่นลูกแล้วลูกเล่าที่หัวเรือ เหมือนมีเสียงกระซิบจากแม่ย่านางเรือแผ่วเบาปนเสียงลมหวีดหวิวที่พัดกระชากธงสีแดงที่หัวเรือ ให้ขาดรุ่ยมากขึ้นไปอีก
“เจ้าต้องการอะไรอีกกับชีวิตที่เหลืออยู่?”
ข้าพเจ้ามิได้คิดอื่นใดนอกจากสำนึกเพียง ชีวิตน้อยๆบนผืนท้องทะเลนั้น สิ่งใดมิอาจมีค่าเพียงพอกับการอยู่รอด แม้ว่ามิอาจเลือก “ชัยชนะหรือความความพ่ายแพ้”จากความเป็นจริงออกจากกันและให้อยู่ห่างกันได้ ข้าพเจ้าคงเลือกที่จะอยู่รอดเท่านั้น แม้จะต้องพ่ายแพ้อยู่ร่ำไปหรือมีแค่เพียงความหวังว่าจะชนะบ้าง
เสียงเครื่องเรือลำเก่าของไต๋เรืออายุค่อนคนที่ข้าพเจ้าคุ้นเคย เบาลง และดับเงียบสนิท สายลมอ่อนตัวลงไปบ้างและท้องฟ้ายามเย็นใกล้ค่ำเหนือ ร่องเหลือม วันนี้ไม่เหมือนเมื่ออดีต
“สงสัยว่าฝนมันเอาแน่ คืนนี้”
ข้าพเจ้าเงียบไม่ตอบ ...
ไต๋หยิบแกลลอนน้ำมันเครื่องจับปลายสายเอ็นเส้นนั้นเกี่ยวเหยื่อก้นถังเน่าเปื่อย หย่อนลงน้ำเพียงเพื่อดับกิเลสบางส่วนให้มอดไหม้เพียงชั่ววูบ สติสตางค์ของข้าพเจ้ายังอยู่ครบ ลุกเดินดูรอบเรือด้วยท่าทีที่อิดโรยเต็มที แล้วก็มานั่งที่ฝาโผ้กลางลำเรือ
ไต๋เก่าของข้าพเจ้า เหลือบมองหน้าข้าพเจ้าและรับรู้ได้ด้วยสัมผัสของชีวิตที่ผ่านโลกมากว่า
“ไม่ต้องคิดอะไรมาก ล้มแล้วก็ลุก ไม่มีคนช่วยก็พยุงดันตัวเองค่อยๆลุกขึ้นได้ อาจจะช้าหรือซวนเซบ้าง อย่างน้อยลูกเมียก็ยังอยู่กับเราเหมือนเดิมไม่ว่าเราจะเหลือเพียงตัวหรือไร้วิญญาณก็ตามที ตั้งหลักดีๆสติจะนำพาไปเอง ชนะหรือแพ้ ไม่ใช่สาระที่ต้องไปยึดติด อยู่ให้มีค่ากับตนเองและครอบครัว แค่นั้นก็พอ”
ไม่มีคำตอบจากข้าพเจ้า ได้แต่นั่งมองแกนั่งผูกเบ็ดโง้ง แบบดั่งเดิม ที่ครั้งหนึ่งข้าพเจ้าก็ได้เรียนรู้และซ่อนลึกไว้ในความทรงจำตลอดมาถึงวิธีการและรายละเอียด  มือและเท้าหยาบกร้าน แตกร้าวตามอายุ แต่คล่องแคล่วว่องไวทะมัดทะแมง ไม่นานตาเบ็ด ชักโง้ง 30 ตาก็สำเร็จ
นานเท่าอดีต ภาพเก่าๆกลับมาแบบแจ่มชัดอีกครั้ง กับฝูงปลาแดง สีกุน ข้างเหลืองและอาหารมื้อค่ำเป็นๆเดินทางลงหลัวข้างเก๋งใบเก่า ด้วยสายมือชักโง้งนั้น แสงสุดท้ายของวันจมน้ำหายไปแล้วที่ปลายฟ้าด้านหลังไผ่ แสงไฟหลอดไส้ไม่กี่แรงเทียนถูกเปิดแบบอนาถาด้วยแบตเตอรี่หมดอายุสองลูก เพียงพอแล้วกับการหาหมึกสิบยี่สิบตัวเพื่อตกปลาวันนี้
“อย่าทะลึ่งโดดน้ำตายล่ะ ไปนอนก่อน”
บทเรียนเก่าๆที่เคยเรียนรู้คือ เฝ้าเบ็ดท้ายเรือกับจินตนาการสติแตกของคนตกปลากลางคืน หลายบทเรียนย้อนกลับมาปลุกให้ข้าพเจ้านั่งอยู่กับตัวเองได้ยันฟ้าสาง กับคันเบ็ดเก่าๆสองคันบนสายเบ็ด 30 ปอนด์ ข้าพเจ้าได้อ้ายสากเหลืองสามตัวก่อนรุ่งเช้า และได้นั่งคุยกับมันเป็นเพื่อนยันสว่าง เสียงตอบและพูดคุยของมัน แยกไม่ออกกับอาการดิ้นรนที่พื้นท้องเรือ
คัน 50 ปอนด์ที่นอนนิ่งสงบที่หัวเรือ ลุกขึ้นบิดขี้เกียจ ปานว่าได้เวลาทำงานแล้วหรือ? ข้าพเจ้าเปลี่ยนมันมายืนแทนพรรคพวกที่ทำหน้าที่แล้วที่ท้ายเรือ ปลาแดงขนาดฝ่ามือตัวนั้น ถูกแยกจากเพื่อนๆของมัน ด้วยเนื้อตัวที่ใหญ่อวบกว่าใคร มันจึงถูกนำมาประกอบการแสดงรอบเช้าแทนเพื่อนๆที่ว่ายน้ำปราดเปรียวตัวอื่นๆในท้องเรือ
สายเบ็ดขนาดไม้จิ้มฟันถูกระชากรุนแรงและร้อนฉ่าถึงไหม้พองหากเผลอไปสัมผัสกับหลอดสายเบ็ดที่หมุนจี๋ รอกและคันเบ็ดตกปลาคู่นั้นนานหลายปีที่มันไม่เคยแม้ได้ออกมานอกบ้าน วันนี้มันคงดีใจที่ได้แสดงให้ข้าพเจ้าได้เห็นถึงความสามารถของมันในรอบหลายปี เสียงแหกปากของรอกประกอบกับอาการดิ้นรนของเท้าซ้ายและขวาของข้าพเจ้า ปลุกให้ไต๋ของข้าพเจ้าพรวดพลาดออกมาจากเก๋งอันอบอุ่น
“ไง อ้ายแครง ล่อเข้าให้แล้ว”
เสียงเหน่อและห้าวดุแบบคนพื้นบ้านย่านชลบุรี บ่งบอกความเป็นห่วงในความรู้สึกเกรี้ยวกราดของเกม
มันพึ่งเริ่มสำหรับข้าพเจ้ากับเกมบทใหม่ แพ้หรือชนะ ข้าพเจ้าไม่ยี่หระ ขอเพียงแค่ได้สู้เช่นเดียวกับอ้ายแครงที่ปลายสายตัวนั้น ลีลาการกระโจนเหนือน้ำของมัน บ่งบอกให้รู้ว่า อาหารเช้าของมันวันนี้ดูท่าทีจะกินไม่อร่อยสะแล้ว
“ตายล่ะหว่า 5-6 สิบได้มั่ง  แกลลอนก็มีใบเดียวด้วย เสือกใส่น้ำมันสำรองมาอีก เอาไงล่ะทีนี่”
“เดี๋ยวลองยื้อมันดูก่อน เผื่อว่ามันจะยอมคนขี้แพ้อย่างผม”
อาการเจ็บแสบที่แนวสะดือ เริ่มแสบร้อนเป็นทวีคูณจากน้ำหนักที่รั้งดื้อดึงออกไปของไอ้แครงตัวนั้น ชีวิตมันในวันนี้คงต้องเหนื่อยกว่าหลายปีหรือหลายวันที่มันเฝ้ากินปลาเหยื่อมากมายในย่านนี้ แต่ อย่างไรก็ตามศักดิ์ศรีของมัน ใช่ว่าจะถูกลบหลู่ได้ง่ายๆจากนักตกปลาอย่างข้าพเจ้าในเช้าวันนี้
อะไรบางอย่างเริ่มส่อแววให้เห็นว่าเกมส์การต่อสู้เริ่มที่จะเชื่องช้าตามลงไป หรือไม่ก็อาจจะยุติในเวลาอันใกล้ แต่ข้าพเจ้าไม่เชื่อเช่นนั้น อาการและอารมณ์เช่นนี้มักเป็นแค่การเริ่มต้นของไอ้แครงทั้งหลายเท่าที่เคยเจอะเจอมา ไต๋ยัดน้ำมันดีเซลสำรองลงถังของเรือเรียบร้อย หันมาถามข้าพเจ้าว่าเอาไง ข้าพเจ้าเหลือบมองดูสายเบ็ดที่เหลือน้อยลงทุกที แม้ว่าจะเก็บกลับคืนมาได้บ้าง แต่เมื่อเวลาที่มันถูกดึงกลับคืนนั้นมากกว่าหลายสิบเท่า
“ลองตามดูก็ได้”
สิ้นเสียงของข้าพเจ้า สายสมอเส้นนั้นเป็นอิสระจากเรือ เรือเก่าลำนั้นเวลานี้ติดเครื่องง่ายดายราวสั่งได้ ไม่เหมือนเมื่อยามที่จะออกจากท่าเมื่อเย็นวาน ทั้งปล้ำทั้งปลอบกว่าแม่ย่านางจะให้ออกพ้นหน้าเกาะได้ ล่อไปชั่วโมงกว่า
อาการกระโจนทะยานไปเบื้องหน้าเป็นวิสัยของปลากระโทงแทงหรือไอ้ครองแครงที่ข้าพเจ้าคุ้นชื่อแต่เมื่อเริ่มตกปลาในย่านนี้ตามคำเรียกพื้นเมือง มันกระโจนพุ่งทะยานเสมือนจะลากเรือเราออกไปทะเลนอกให้จงได้ จากที่จอดเรืองเราวิ่งเรือตามมันออกมาใกล้แนวกลางร่อง  และที่นั่น มันหยุดกึก มีเพียงแรงดึงเวียนไปมาช้าๆ แต่ถึงอย่างนั้นก็มิอาจคืนสายเบ็ดจากระยะที่เสียไปได้เลยแม่แต่น้อย รอก 6/0 ตัวนั้นแสดงอาการไม่ดี เริ่มมีอาการสะดุดเนื่องจากอาการร้อนฉ่าของผ้าเบรกที่เสียดสีไม่รู้จักจบสิ้นหรือด้วยอายุที่แก่มากของมันก็ไม่รู้
“ชัยชนะอยู่ไม่ไกล”
“เฮ้ย................ โน้น ญาติมันมาช่วยอีกตัว”
ปลากระโทงแทงอีกตัวกระโจนไปมา คลอเคลียอยู่ใกล้ๆ คาดเดาได้ว่ามันคงจะมาไถ่ถามหรือไม่ก็พูดคุยกันอยู่กับไอ้แครงตัวที่ติดเบ็ดข้าพเจ้าตัวนั้น นั้นคือภาพที่ปรากฏเบื้องหน้าของข้าพเจ้าและไต๋คู่ใจ ปลากระโทงแทงสองตัวในขนาดไร่เรี่ย เริ่มออกระโจนไปพร้อมๆกัน อีกครั้งที่ความเจ็บแสบเกิดขึ้นและทวีคูณมากยิ่งขึ้นจนชาไปทั่วแนวเข็ดขัด มีเพียงหมวกกันแดดมอมๆเท่านั้นที่ช่วยรองรับและประคับประคองมิให้เนื้อส่วนนั้นของข้าพเจ้าต้องแตกไหม้ในเวลานี้
ภาพอันระทึกเกิดขึ้นอีกครั้งเมื่อคราวนี้มันทั้งคู่ว่ายพุ่งตรงกลับย้อนมาที่เรือของเรา เหมือนเข้ามาหาคำตอบที่ข้าพเจ้าดื้อดึงรั้งมันไว้เพื่ออะไร?
แต่แล้วมันก็ว่ายอ้อมกลับไปในทิศทางเดิม ร่างกายสีเทาดำยาววากว่าของมัน อัดแน่นไปด้วยกล้ามเนื้อและขุมพลังที่ไม่เกรงกลัวนักล่าแห่งท้องทะเลทั้งหลายว่ายกลับไปและกระโจนสะบัดเบ็ดรุนแรงอีกครั้งห่างไปราว 50 เมตร ก่อนที่จะทิ้งตัวลงฟาดแผ่นน้ำกระจายอีกครั้ง  และดำดิ่งว่ายรั้งดึงข้าพเจ้าให้ตามมันไปแบบไม่โต้แย้งใดๆ และนั้นน่าจะเป็นห้วงเวลาแห่งความทรงจำของมันและของข้าพเจ้า ที่อย่างน้อยก็ได้มาเห็นหน้าคู่ต่อสู้ของกันและกันอย่างถนัดตาก่อนที่จะจากกันไป
ความเบาหวิวที่เกิดขึ้นกับปลายคันเบ็ดในมือของข้าพเจ้ามิได้เข้ามาเกาะติดแทนที่ความหนักแน่นเร้าร้อนในมือของข้าพเจ้าเลยแม้แต่น้อย แต่มันกลับย้อนทางเข้าไปเกาะติดในความรู้สึก
เรื่องราวของการตกปลาของนักตกปลาแต่ละคนนั้น  มันก็แค่เพียงตำนานเล็กๆส่วนตัวของใครของมันที่ดูเหมือนเลื่อนลอยเมื่อวันเวลาเดินทางผ่านพ้นไป ความทรงจำของแต่ละคนต่างหากที่เป็นแก่นแท้แห่งชีวิตและประสบการณ์ของเขาทั้งหลาย ข้าพเจ้ามักนึกถึงมันเสมอในวงสนทนากับเพื่อนที่เป็นนักตกปลาด้วยกันเท่านั้น แต่มันมิใช่เป็นเรื่องของการตกปลาใหญ่ แต่กลับเป็นความรู้สึกร่วมที่เกิดจากการตกปลาของข้าพเจ้า ชัยชนะและ ความพ่ายแพ้ ที่มักเกิดขึ้นพร้อมๆกัน
เมื่อข้าพเจ้าออกตกปลา  มักจะเคารพตนเองและฝูงปลาเสมอ การได้ปลาแม้เพียงปลาเล็กซักตัว ถือว่าเป็นเกียรติแก่ปลาเหล่านั้นและเป็นชัยชนะที่ยิ่งใหญ่แก่ตนเองและจิตใจ หรือแม้แต่ความว่างเปล่าที่พอหยิบฉวยมาได้เบื้องหลังการออกตกปลา อาจจะกล่าวได้ว่าเป็นความพ่ายแพ้ ก็มิได้หมายถึงความปราชัยแห่งเกมและรอการแก้แค้นในคราวต่อไป แต่มันให้ความรู้สึกถึง........
อิสรภาพ.
นวล
23/10/45
กรุณา ลงทะเบียน และ login ก่อนส่งความเห็นครับ
siamfishing.com © 2024