สยามฟิชชิ่ง
หน้าแรก|กระดาน|รีวิว|ประมูล|ตลาด|เปิดท้าย
login | สมัครสมาชิก | วิธีสมัครสมาชิก | ลืมชื่อ/รหัส | login ไม่ได้? | 25 เม.ย. 67
แม่น้ำแม่กลองตอนบน-จากอดีตถึงปัจจุบัน : Fishing Article
 ห้องบทความ/เทคนิค > บทความตกปลา
ความเห็น: 10 - [27 ก.ย. 45, 10:52] ดู: 4,656 - [24 เม.ย. 67, 18:13] โหวต: 4
แม่น้ำแม่กลองตอนบน-จากอดีตถึงปัจจุบัน
tawan (11 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้) offline
21 ก.ค. 45, 14:29
1
ด้วยความสำนึกรักในบ้านเกิดและธรรมชาติของคนธรรมดาคนหนึ่งที่เห็นความเปลี่ยนแปลงและความเป็นไป..วันนี้จึงมีเรื่องราวมาเล่าสู่กันฟัง
          ประมาณ ปี 2518 เด็กน้อยน่ารักคนหนึ่งกำลังนั่งงัวเงียด้วยอาการง่วงนอนอยู่บนเรือหาปลาขนาดเล็กพร้อมกับพ่อของเขาที่ปลุกขึ้นมาช่วยกู้เบ็ดราวที่ขึงพาดกลางแม่น้ำแม่กลอง ขณะผู้เป็นพ่อสาวสายเบ็ดราวผ่านตัวเบ็ดได้ไม่ถึง10 ตัว เกิดเสียงน้ำกระจายดังตูมเหมือนมีใครกระโดดลงน้ำ เด็กน้อยหายง่วงนอนฉับพลันเมื่อเห็นปลาขนาดใหญ่ที่ติดเบ็ดราวดิ้นฟาดหางอยู่ในสวิงของพ่อ "ไอ้แค่" (ปลาตระกูลแคชฟิช) พ่อตะโกน ถึง 30 โลแน่. หลังจากนั้นพ่อสาวเบ็ดต่อ วันนั้นนอกจากปลาแค่แล้วยังได้ปลาแดง (ปลาเนื้ออ่อน) ขนาด 3-4 กิโล อีก สามสี่ตัว ปลาทั้งหมดที่ขาย ได้เงินมามากกว่าเงินเดือนของพ่อที่เป็นลูกจ้างโรงงานน้ำตาลเสียอีก.
          ปรมาณ ปี 2545 เด็กน้อยน่ารักคนนั้นเติบใหญ่เข้ามาใช้ชีวิตในเมืองกรุงฟันฝ่าคลื่นสังคม คลื่นวัฒนธรรม และคลื่นชีวิตของตัวเอง หาใช่คลื่นลมตามธรรมชาติที่คุ้นเคยในวัยเด็กไม่. วันหยุดได้มีโอกาสกลับบ้านจึงชวนผู้เป็นพ่อไปตกปลา..พ่อในวันนี้ต่างกับพ่อเมื่อวันวานมากด้วยความชราลงและโรคอัมพฤกขาเสียไปหนึ่งข้างแต่ยังสามารถเดินได้และชอบหาปลาเหมือนเดิมเพียงแต่เปลี่ยนรูปแบบไป พ่อชอบทำเหยือหมักสำหรับตกปลากดเหลืองแล้วออกตระเวนหาที่ตกตอนกลางคืนโดยการให้เพื่อนหรือลูกชายคนกลางขับมอเตอร์ไซด์แล้วพ่อก็นั่งซ้อนท้ายหาที่ตกปลากันไป คันไดว่ากับรอกบีจีคู่ชีพ คืนหนึ่งก็ขายได้หลายบาท...แม่น้ำแม่กลองในวันนี้ต่างกับเมื่อวันที่พ่อได้ไอ้แค่ 30 โล มาก น้ำแห้งขอด ถึงแม้จะใสแต่ก็มองเห็นตะกอนที่เกิดจากโรงงานไหลปนอยู่ในน้ำจำนวนมาก สองคนพ่อลูกดินไปตามเกาะเพื่อหาที่เหมาะนั่งตกปลาให้หายอยาก....ทันใดนั้นเสียงดังตูมสนั่น เด็กน้อยรีบหันไปมอง...หาใช่เสียงปลาไม่ หากแต่เป็นพ่อเองที่ลื่นล้มเพราะเมือกที่เกิดจากโรงงานเกาะอยู่ที่พื้นเต็มไปหมดเดินไปทางไหนก็มี.. ฝนเริ่มตกเบาๆสองพ่อลูกรีบเก็บเบ็ด ทันใดนั้น สายน้ำไหลเย็นที่เป็นที่พักพิงยามเหน็ดเหนื่อยได้กลับกลายเป็นสายน้ำมันสีดำทมึนไหลเอื่อยเยาะเย้ยสองพ่อลูกเหมือนจะบอกว่านี่แม่น้ำของฉันนะ พ่อบอกว่าเวลาฝนตกจะมีน้ำมันไหลออกมาจากบริเวณท่อน้ำของโรงงาน ไม่ใช่โรงงานเดียวแต่มาจากหลายโรง
              วันนี้กับวันวานต่างกันเหลือเกิน เสียงปลากับกลายเป็นเสียงพ่อลื่นล้มเพราะเมือกเหนียวที่เกิดจากโรงงาน สายน้ำไหลเย็นที่เต็มไปด้วยกองทัพปลาหลากหลายพันธ์ กลับกลายเป็นสายน้ำมัน  และของเสียที่เกิดจากโรงงาน ต้นไม้สองข้างทางถูกตัดทิ้งปลูกสิ่งก่อสร้างทดแทน สภาพสังคมไม่เปลี่ยนอย่างเดียวแต่ยังเปลี่ยนสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติด้วย.ตามธรรมชาติของปลามักจะหาที่วางไข่ตามกอพงหรือแนวรอบเกาะกลางแม่น้ำ เมื่อน้ำเสียและมีเมือกเคมีติดบริเวณดังกล่าวปลาไม่สามารถวางไข่ได้ถึงแม้วางได้ไข่ก็เสีย พอจะว่ายทวนน้ำขึ้นข้างบนก็ติดเขื่อนน้ำก็น้อย จะว่ายลงล่างก็เจอน้ำเค็ม
              ทุกวันนี้มีปลาหลายชนิดที่หายไปจากบริเวณแม่น้ำแม่กลองตอนบนอาธิเช่นปลากินหอย รูปร่างเหมือนปลาสวายแต่ตัวเล็ก สมัยก่อนหอยทรายเยอะมากปลากินหอยก็เยอะตามเพราะเป็นบ่วงโซ่ชีวิต พ่อน้ำเสียหอยตายหมดปลาก็อพยพหายไปด้วย สมัยก่อนปลาเค้า-ปลาแดง-ปลายี่สกไทยชุมมาก พ่อพายช้อน (เครืองมือจับปลา) แป๊บเดียวได้ปลาเป็นพวง ขนาดเชือกหลุดปลาหลุดหมดพ่อยังไม่เสียดายบอกว่าเดียวก็ได้อีกปลามีเยอะ
              มาถึงวันนี้อย่าว่าแต่ปลาเป็นพวงเลยครับ ชาวบ้านที่ยังคงหาปลาเป็นอาชีพอยู่ต้องรอน้ำใหม่ที่มาจากเขื่อนทีนึงถึงจะจับปลาได้เนื่องจากปลาที่อาศัยในพื้นที่มันไม่หลงเหลือแล้ว นอกจากปลาและธรรมชาติแล้วสิ่งที่เด็กน้อยอยากให้หลงเหลือมากที่สุดคือสำนึกของคนที่เป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ สำนึกของคนในท้องที่ สำนึกของผู้ประกอบการโรงงาน และสำนึกของ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการดูแลสิ่งแวดล้อม......"สิ่งที่สวยงามที่สุดในโลกก็คือโลกนั่นเองครับ"
กรุณา ลงทะเบียน และ login ก่อนส่งความเห็นครับ
siamfishing.com © 2024