ระบำดอกฝนที่ระนอง <บัญชร ชวาลศิลป์>
3 ต.ค. 46, 15:42
1
ภาพที่ 1
|
ชื่อหนังสือ ระบำดอกฝนที่ระนอง
ผู้เขียน/ผู้แต่ง บัญชร ชวาลศิลป์
สำนักพิมพ์ /ราคา / หน้า พิมพ์ครั้งที่ 1 สำนักพิมพ์ มติชน ราคา 115 บาท 159 หน้า ปกอ่อน
ประเภท บทความเป็นตอน กึ่งสารคดี/บันเทิงคดีการตกปลา เคยตีพิมพ์ในเนชั่นสุดสัปดาห์มาก่อนรวมเล่ม
บันทึก แต่ละตอนต่อเนื่องกันไป ตั้งแต่ออกเดินทางจากกรุงเทพฯ สู่ระนอง ออกเรือตกปลา เพื่อล่าปลาสาก อินทรีน้ำลึก ปลาเก๋า ในทะเลอันดามัน เสน่ห์ของงานเขียนของบัญชรอยู่ที่การสอดแทรกเกร็ดความรู้เกี่ยวกับธรรมชาติ เป็นนักเขียนอีกคนที่คุณน่าจะชอบ ถ้าหากคุณชอบงานเขียนของ เสกสรรค์ ประเสริฐกุล ในช่วงจังหวะการล่าสาก และอินทรี เป็นบทบรรยายกึ่งแอ็คชั่น มันระเบิดเถิดเทิง แบบงานเขียนของแร้งเฒ่า / สอดแทรกการทรอลลิ่ง สาก อินทรี การใช่เหยื่อราพาล่า และการตกปลาเก๋า
|
บัญชร ชวาลศิลป์ หลายๆคนบอกว่า ทำไมไม่ยักกะคุ้นชื่อในนิตยสารตกปลาบ้านเราเลย แต่ถ้าใครที่เคยอ่าน ชีวิตกลางแจ้งมาก่อน จะทราบว่า บัญชรเป็นคนรุ่นนั้น มีระยะหนึ่งที่ผมเป็นสมาชิกหนังสือ เนชั่นสุดสัปดาห์ ผมก็เริ่มได้อ่านบทความของบัญชรจากหนังสือเล่มนั้นน่ะครับ ตอนนั้นยังไม่ออกตกปลาด้วย แต่ผมก็ชอบอ่านหนังสือของบัญชร มันสนุก แล้วก็ได้อะไรจากการอ่านดี
เสน่ห์ของหนังสือของบัญชรอยู่ที่ เขาเป็นคนละเอียด เขียนได้อ่านสนุก และค่อนข้างจะเป็นศิลปิน ในหนังสือเล่มนี้ มีภาพที่วาดโดยบัญชรด้วย ส่วนภาพถ่ายประกอบเป็นงานของ ธีรภาพ โลหิตกุล ที่คุ้นชื่อกันดีในวงการถ่ายภาพ
เช่นเดียวกับงานของเสกสรรค์ เร่ร่อนหาปลา งานของบัญชรที่เกี่ยวกับการตกปลาก็เป็นงานเขียนเชิงร้อยแก้ว ที่ให้ทั้งสาระและบันเทิง คนตกปลาอ่านได้ คนไม่ตกปลา อ่านแล้วก็ได้ความงดงามของธรรมชาติที่นักตกปลาได้สัมผัส อย่างจะมีภาพและบทบรรยายช่วงยามเย็น กระทั่งความชุ่มฉ่ำ สวยงามและเศร้าโศกเมื่อยามมองดูสายฝน ในขณะเดียวกันก็ได้อรรถรสเวลาเขาบรรยายการอัดปลาขึ้นมา
วรรคทองของหนังสือเล่มนี้
"บางคนเคยถามผมว่า ตกปลานั้นสนุกตรงไหน
หากเอากันแค่สนุกก็คงอธิบายได้ถึงความท้าทายของการได้เย่อเอาแพ้เอาชนะกันระหว่างเรากับปลา บางทีความสนุกส่วนนี้คงสนองสัญชาติญาณการต่อสู้ของมนุษย์ แต่ลึกลงไปกว่านั้น ไม่ว่าจะตกปลาเป็นกีฬาหรือตกปลาเป็นอาหาร ผมคิดว่าการได้กินอาหารที่เราเสาะหามาได้ด้วยตัวเองนี่แหละคือมนต์เสน่ห์สูงสุดของการตกปลา
ยิ่งชีวิตที่ใช้เงินเป็นสื่อกลางแทนการออกแรงด้วยตัวเองเช่นนี้ ผมคิดว่านี้คือสิ่งทดแทนสัญชาตญาณอะไรบางอย่างที่หายไปของมนุษย์-โดยเฉพาะผู้ชาย
ยุคนี้เราใช้เงินจับจ่ายซื้อสิ่งของจากตลาด หอบหิ้วกลับบ้านแล้วก็วางไว้บนโต๊ะอาหาร รอการจัดการ เราไม่เคยมีความรู้สึกพิเศษอะไรเลยกับสิ่งของเหล่านี้ แต่กับปลาที่ตกได้ด้วยฝีมือซึ่งบางครั้งสุดแสนยากลำบากแล้วนำกลับบ้าน วินาทีที่มือของคนรักเอื้อมมารับ คุณจะรู้สึกได้ทันทีถึงความรู้สึกล้ำลึกอะไรบางอย่างที่มีสัดส่วนแห่งความภาคภูมิใจแฝงอยู่เป็นหลัก
เหมือนเมื่อหลายพันปีมาแล้ว ผู้ชายเดินทางกลับบ้านที่พักยามพลบค่ำพร้อมอาหารสดที่เสี่ยงชีวิตล่ามาได้หนักอึ้งอยู่บนบ่าทั้งสองข้าง ความรู้สึกที่เห็นแววตาภาคภูมิใจของผู้คนในรับผิดชอบคืออะไรบางอย่างที่จะสะสมอยู่ในเบื้องลึกแห่งจิตสำนึก ชั่วอายุแล้วอายุเล่า กระทั่งฝังแน่นเข้าไปในจิตวิญญาณแล้วสืบทอดกันมาจนกลายเป็นสัญชาตญาณอีกประการหนึ่งของลูกผู้ชาย
ตกปลาจึงไม่ใช่เป็นเพียงเรื่องหนึ่งของความสนุก แต่เป็นอะไรบางอย่างที่ลึกล้ำไปสู่ก้นบึ้งแห่งสัญชาตญาณลูกผู้ชาย"