สยามฟิชชิ่ง
หน้าแรก|กระดาน|รีวิว|ประมูล|ตลาด|เปิดท้าย
login | สมัครสมาชิก | วิธีสมัครสมาชิก | ลืมชื่อ/รหัส | login ไม่ได้? | 24 เม.ย. 67
หาผู้รู้ช่วยตอบเรื่องปลาเกล็ดแทนผมทีครับน้องๆฝากถาม: SiamFishing : Thailand Fishing Community
หน้าที่: 1 | 2 | 3 >
 กระดาน > สปิ๋ว/ชิงหลิว
ความเห็น: 61 - [26 ธ.ค. 49, 18:02] ดู: 10,409 - [24 เม.ย. 67, 13:39]  ติดตาม: 1
หาผู้รู้ช่วยตอบเรื่องปลาเกล็ดแทนผมทีครับน้องๆฝากถาม
กระทู้: 131
ความเห็น: 5,323
ล่าสุด: 27-01-2566
ตั้งแต่: 20-11-2549
ตั้งกระทู้: 20 ธ.ค. 49, 20:30
มีน้องๆที่ยังเข้าเวปสยามไม่ได้เช่น ยังไม่ได้ล๊อคอินหรือไม่กล้าสมัครเข้า ฝากถามมาว่าจะเริ่มตกปลาเกล็ดแบบใหนตามบ่อต่างๆนะครับเช่น การตกปลายี่สกควรตกหน้าดินหรือไม่อย่างไร อันนี้ไม่ค่อยชำนาญต้องรบกวนเพื่อนตอบให้ทีครับ น้องๆเขารออ่านอยู่แต่เข้ามาคุยไม่ได้ เขาอยากได้วิชาตกปลาเกล็ดจากพี่ๆในเวปครับ ช่วยแล๊คเช่อร์กันหน่อยนะครับแต่จะไม่ได้เจอผู้ถามนะครับ ช่วยตอบเป็นวิทยาทานกันหน่อยครับ ขอบคุณทุกคนมากๆครับที่เอาความรู้มาแลกเปลี่ยนกันครับ ขอบคุณครับ 
แอดมินแก้ไข เพื่อทำการย้ายกลุ่มย่อย 1 ก.พ. 50, 15:01
กระทู้: 4
ความเห็น: 24
ล่าสุด: 27-01-2566
ตั้งแต่: 11-10-2549
ความเห็นที่ 1: 20 ธ.ค. 49, 22:12
ตกปลาเกล็ดแบบไหนละครับ ใช้ทุ่น ชิงหลิวหลือป่าวครับ พี่ๆใน web จะได้ตอบถูกครับ
กระทู้: 45
ความเห็น: 2,251
ล่าสุด: 27-01-2566
ตั้งแต่: 06-11-2544
GAHO(358 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
ความเห็นที่ 2: 20 ธ.ค. 49, 23:12
หามุมเงียบๆ มีที่ร่มนั่งสบายๆ  ดูที่ผิวน้ำเรียบๆ  ใช้รำละเอียดผสมน้ำนวดให้เหลวๆกะให้ลงน้ำแล้วละลายทันทีโยนลงไปสักประมาณลูกมะพร้าว ห่างฝั่งสัก 5 เมตร  นั่งประกอบเบ็ดให้เรียบร้อยแล้วลงมือได้เลยครับ

ที่เหลือให้ท่านอื่นมาช่วยตอบนะครับ 
กระทู้: 56
ความเห็น: 2,323
ล่าสุด: 27-01-2566
ตั้งแต่: 30-07-2549
ความเห็นที่ 3: 21 ธ.ค. 49, 08:51
การตกปลาเกล็ดนั้นตกได้ทั้งตระกร้อหน้าดิน+หรือทุ่นลอย
แต่ถ้าจะให้สนุกต้องตกด้วย  สปิ๋ว  เลยครับมันแน่
การตกปลาเกล็ดแบบสปิ๋ว  (โดยเฉพาะปลายี่สก)
แต่ที่ผมจะบอกนั้นเป็นวิธีการตกปลาเกล็ดแบบสปิ๋วซึ่งการตกแบบสปิ๋วนั้นมีการตั้งทุ่นหลักๆอยู่2วิธีคือ ไม้ตาย+บาล๊าน
ซึ่งนักตกปลาส่วนมากที่ตกปลายี่สกจะใชวิธีการตกแบบไม้ตาย
ผมจะอธิบายวิธีการตั้งทุ่นทั้ง2อย่าง

ขอโทษครับพอดีมีงานด่วนเดี๋ยวมาต่อ
กระทู้: 14
ความเห็น: 806
ล่าสุด: 27-01-2566
ตั้งแต่: 02-03-2548
ความเห็นที่ 4: 21 ธ.ค. 49, 09:16
มาหาฟามรู้คร้าบบบบบบบบ
กระทู้: 0
ความเห็น: 20
ล่าสุด: 27-01-2566
ตั้งแต่: 12-10-2549
ความเห็นที่ 5: 21 ธ.ค. 49, 09:18
อยากเจอน้าเอกทีมขนุนจังเลยเทพตกปลาเกล็ดแน่เลย
กระทู้: 29
ความเห็น: 314
ล่าสุด: 27-09-2566
ตั้งแต่: 24-09-2546
sea(17 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
ความเห็นที่ 6: 21 ธ.ค. 49, 09:26
อยากรู้เหมือนกัน
กระทู้: 72
ความเห็น: 6,092
ล่าสุด: 27-01-2566
ตั้งแต่: 04-06-2549
คิด(1734 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
ความเห็นที่ 7: 21 ธ.ค. 49, 12:38
กระทู้: 17
ความเห็น: 6,977
ล่าสุด: 27-01-2566
ตั้งแต่: 05-03-2545
jedi(100 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
ความเห็นที่ 8: 21 ธ.ค. 49, 16:49
ช่วยดันกระทู้ครับ ??
ช่วยดันกระทู้ครับ ??
กระทู้: 38
ความเห็น: 1,067
ล่าสุด: 22-04-2567
ตั้งแต่: 27-10-2548
นารา(132 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
ความเห็นที่ 9: 21 ธ.ค. 49, 17:22
มี address mail ไหมครับหรือหลังไมล์กับผมก็ได้
    Coppy มาจากทุก กระดาน ที่พอหาเทคนิคได้
    โทรถามจาก สาระพัดเทพ อาทิ เทพเอก เทพแห้ว พิมพ์ผิด เทพป้อมตะหาก
    ส่งแมวแอดเด็ด มาเด๋วส่งเทคนิค Coppyล้วนๆให้ มีตรึม
                chaichana@marujun.co.th
กระทู้: 38
ความเห็น: 1,067
ล่าสุด: 22-04-2567
ตั้งแต่: 27-10-2548
นารา(132 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
ความเห็นที่ 10: 21 ธ.ค. 49, 17:24
น้าป๋าต่อ
          มี Globe 500 อยู่นี่นา หาทุ่นได้ยัง
            ที่หน้าตลาด ของน้า น้องบัว มีของดีราคาถูกอยู่อ่ะ
กระทู้: 47
ความเห็น: 800
ล่าสุด: 05-09-2566
ตั้งแต่: 25-01-2548
ความเห็นที่ 11: 21 ธ.ค. 49, 17:46
เอาวิธีผมไปอ่านเล่นก่อนนะครับ จะไม่ขอพูดถึงเรื่องทุ่นชิงหลัว เพราะเห็นหลายๆทานอธิบายมาเยอะแล้ว+ผมใช้ไม่ค่อยเป็นครับ

  ตกแบบตระก้อนะครับ

    อันดับแรกเลยครับ 1. รำลึกอยู่เสมอเลยครับว่า ปลาชนิดนนั้น อยู่กินอย่างไรครับ ปลายี่สก เป็นปลาที่กินหน้าดินครับ

2. ถ้าตกบ่อ ดูสภาพบ่อครับว่าเป็นอย่างไร หลอกถามเจ้าของบ่อจะดีมาก ถ้า น้ำเขียวมาก หรือน้ำออกเน่าๆ ปลาเยอะเกิน คนตกเยอะ อ่อยเยอะ....  ไม่ต้องอ่อยเหยื่อหรอกครับ เสียดาย ยกเว้นเหยื่อเราจะดีกว่า ทำให้ปลาอยากมากินเหยื่อของเรา ซึ่งผมคิดว่า ปลาคงจะอิ่มจะแย่อยู่แล้วล่ะ  ผมอ่อยเป็นถังสี ไม่เห็นมาซักตัว...   และดูสภาพพื้นบ่อครับ คนส่วนใหญ่ชอบใช้ตะกั่ว แต่บ่อบางบ่อ พื้นมันเป็นตมอ่ะครับ ตะกั่วมันหนัก ทำเหยื่อจมตมหมดครับ และไอตมนั่นน่ะ  เหม็นซะด้วยสิ  ชัวสุด ใช้ตระกร้อโฟมครับ ถ้าอยากเฟี้ยงไกลๆ ก็ผูตะกั่วให้ห่างจากตระกร้อมากๆหน่อย

3. การปั้นเหยื่อ อย่าให้แข็งเด็ดขาดครับ ข้างในเอาแน่นนิดนึง ข้างนอด เอาแต่รำหรือ เหมย หรือ ขอบหนมปังป่น เอาขนาด ลงน้ำดัง"โป๊ะ" เหยื่อด้านนอกแตกหมด เหลือแต่ด้านใน..  ทีนี้ เหยื่อด้านนอกจะฟุ้งเรียกปลาที่อยู่ใกล้ เข้ามาตอดเหยื่อด้านในครับ

4. ชิ่งและตระกร้อครับ สายหน้า ควรอยู่ตระกร้อให้มาก เพราะปลาเกร็ดชอบตอด  มันจะมาตอดหยื่อแถวๆตระกร้อครับ อย่าให้ตัวเบ็ดห่างตระกร้อมากนัก เอาแค่นิ้วเดียวก็พอ  และต้องเป็นตระกร้อวิ่งนะครับ ปลาเกร็ดขี้ระแวง ถ้ามันตอดๆเจอหนักๆ มันก็จะบอกว่า "ไปละเด๋อ"

5. เหยื่อเกี่ยวเบ็ด เอาหนมปังนุ่มๆ พันเป็นกระโปรงชิ้นเล็กๆก็พอครับเท่าปลายนิ้วก้อนเนี่ยแหละ

    ตระกร้อแบบไข่มดเอ๊กก็ได้ผลดีครับ  แต่ผมไม่ชอบใช้ เพราะเบ็ดมันเยอะเกิน แต่ก่อนเคยใช้ ได้ปลากี่ที นอกจากเบ็ดที่ปากแล้ว ผมต้องคอยนั่งแกะเบ็ดที่ครีบ ที่ท้องอีกครับ..เซ็ง หลังๆ ใช้ตัวเดียวพอ

.....วิธีผมนะครับ ฟังมาจากเซียนบ่อท่านนึงและดัดแปลงเอาครับ
กระทู้: 47
ความเห็น: 800
ล่าสุด: 05-09-2566
ตั้งแต่: 25-01-2548
ความเห็นที่ 12: 21 ธ.ค. 49, 17:56
โทษทีครับ ลืม..

ข้อดีของวีธีนี้นะครับ เหมาะสำหรับคนสมาธิสั้นที่ไม่ต้องการการบำบัด(เช่นผม)   หรือคนขี้เบื่อ หรือคนที่อยากผ่อนคลายครับ  เพราะ  พอเหวี่ยงเสร็จปั๊บ เราสามารถเดินมานั่งดูดแป๊ะซี่ หรือน้ำเจที่ซุ้มรอ คุยกะเพื่อน จีบลูกเจ้าของบ่อ อ่านการ์ตูน ฯลฯ 15นาที ดูเหยื่อทีนึงครับ ปลากินถี่เกินน่าเบื่อครับ   

  ถ้าอยากได้ตัวไวๆ(คนในบ่อต้องน้อยๆนะ) เจอปลาจิบน้ำที่ไหน กำเยื่ออ่อยผสมน้ำบ่อ เฟี้ยงไปแถวๆนั้นเลยครับ กำ 2 กำ เดินมาปั้นเหยื่อ เฟี้ยงซ้ำแถวๆจุดเดิม อย่าโดนที่เดิมนะ เดี๋ยวโดนหัวปลา เสร็จป๊าบบ วางเบ็ด เช็คเบรก เดินมาดูดแป๊ะซี่ทีนึง ถอนหายใจนิดหน่อย แล้วเดินไปที่เบ็ด ซึ่งพอมือกำลังจะแตะคันปึ๊บ รอกจะร้องขอความช่วยเหลือพอดีครับ ...โม๊....โม้...  แต่ผมเจอแบบนี้บ่อยครับ
กระทู้: 56
ความเห็น: 2,323
ล่าสุด: 27-01-2566
ตั้งแต่: 30-07-2549
ความเห็นที่ 13: 21 ธ.ค. 49, 18:12
น้านารารบกวนเอามาลงในกะทู้นี้ทีซิจักเป็นพระคุณ



ขอบคุณครับ.........เอก    ทีมขนุน

โทษทีน้าๆผมติดงานอยู่หัวหิน
กระทู้: 131
ความเห็น: 5,323
ล่าสุด: 27-01-2566
ตั้งแต่: 20-11-2549
ความเห็นที่ 14: 21 ธ.ค. 49, 18:30
GLOBE 500 อยู่ในตู้ของสะสมแล้วครับ จะไม่เอาออกมาเล่นแล้วครับ แล้วอีกอย่างผมตกสะปิ๋วไม่เป็นคร้าบบบบบ อายง่ะ
กระทู้: 12
ความเห็น: 154
ล่าสุด: 27-01-2566
ตั้งแต่: 02-08-2549
ความเห็นที่ 15: 21 ธ.ค. 49, 20:34
น้า น้า ช่วงเย็นที่บึงฯ ปลากินกระจายเลยสวายนะแถมบึกอีก1ตัว(ติดหาง 555) ตกปลาเกล็ดนั้นเหรอต้องใจเย็นมาก ๆ ข้อนี้สำคัญที่สุด
กระทู้: 131
ความเห็น: 5,323
ล่าสุด: 27-01-2566
ตั้งแต่: 20-11-2549
ความเห็นที่ 16: 21 ธ.ค. 49, 21:00
ปลาตุ๊ดแหงๆที่กินเบ็ดเอ็งง่ะ ก็ช่วยไม่ได้คนตกมันหล่อนี่นา กลับมากี่โมงล่ะจ๊ะ ใจเย็นแบบวันนี้ไม่เอาเด้อ เอ๊กซ์โพสเบอร์โทรไว้ให้หน่อย เผื่อจะโทรตามให้ไปตกปลาด้วยจ้า
กระทู้: 16
ความเห็น: 110
ล่าสุด: 27-01-2566
ตั้งแต่: 14-07-2549
ความเห็นที่ 17: 21 ธ.ค. 49, 22:27
เมื่อวานผมได้อ่านข้อความของน้าป๋าต่อในหนังสือพิมพ์ข่าวสดด้วยอยากไปตกที่บึงมั่งจัง
กระทู้: 32
ความเห็น: 628
ล่าสุด: 27-01-2566
ตั้งแต่: 08-09-2549
ความเห็นที่ 18: 22 ธ.ค. 49, 00:15
มีความรู้ดีๆอีกแล้วต้องแอบดูเอาไปศึกษาซะหน่อย  เอิ๊กๆๆ
แนะนำกันเยอะ ๆ หน่อยคับชอบ ๆ
มีความรู้ดีๆอีกแล้วต้องแอบดูเอาไปศึกษาซะหน่อย  เอิ๊กๆๆ
แนะนำกันเยอะ ๆ หน่อยคับชอบ ๆ
กระทู้: 17
ความเห็น: 6,977
ล่าสุด: 27-01-2566
ตั้งแต่: 05-03-2545
jedi(100 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
ความเห็นที่ 19: 22 ธ.ค. 49, 06:18
รับทราบครับ
กระทู้: 131
ความเห็น: 5,323
ล่าสุด: 27-01-2566
ตั้งแต่: 20-11-2549
ความเห็นที่ 20: 22 ธ.ค. 49, 07:03
น้านาราอยู่ยุดยาหรือครับ ผมเป็นคนไผ่ลิง ลูกหลานกำนันทรงนะครับ ขอเบอร์โทรหน่อยครับ เวลากลับบ้านจะได้หาคนไปตกปลาด้วยกัน ผมเรียนที่ อยว ถึงป6แล้วมาต่อที่กทมครับครู ตอนนี้บ้านเราหนาวใหมครับ พอดีช่วงปีใหม่จะพาครอบครัวไปไหว้พระ ลูกเมียไหว้เสร็จ  พ่อจาไปตกปลาง่ะ!!!!!!
กระทู้: 38
ความเห็น: 1,067
ล่าสุด: 22-04-2567
ตั้งแต่: 27-10-2548
นารา(132 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
ความเห็นที่ 21: 22 ธ.ค. 49, 08:20
หนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมาสุดๆครับลมโกรก
          งั้นเด๋วเทคนิค Coppy ล้วนๆ จากท่านปรมาจารย์ ทั้งหลาย กะลังจามาลง ณ บัดนี้
กระทู้: 38
ความเห็น: 1,067
ล่าสุด: 22-04-2567
ตั้งแต่: 27-10-2548
นารา(132 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
ความเห็นที่ 22: 22 ธ.ค. 49, 08:24
ขออนุญาติ ท่านเทพทั้งหลายนะครับ

มรรยาทการตกปลา
การตกปลาเกล็ดแบบ สะปิ๋วนี้ อาจจะต้องใช้มรรยาทมากหน่อยนะ เพราะนักตกปลาเกล็ดจะชอบความเงียบ สงบ ฉะนั้นเมื่อท่านเข้าไปตกปลาเกล็ด ต้องคำนึงว่าจะไปรบกวน นักตกปลาท่านอื่นหรือไม่ ดังนี้
1. ไม่เข้าไปนั่งใกล้นักตกปลาท่านอื่นที่ตกอยู่ก่อนแล้ว เกินไป ควรอยู่ห่างกันพอสมควร โดยประมาณ 3-5 เมตร เป็นอย่างน้อย
2. ไม่ส่งเสียงดัง เช่น ใช้ค้อนตอกคันร่ม ในขณะที่มีนักตกปลาท่านอื่นกำลังตกปลาอยู่ใกล้ๆ
3. ไม่กระทำการใด ๆ กับพื้นน้ำในบริเวณใกล้เคียง เช่น โยนกระชังใส่ปลาลงน้ำ หรือเทน้ำลงไปแบบแรงๆ หรือ เช็คสาย โดยจุ่มปลายคันลงน้ำแล้วตวัดเพื่อให้สายจมน้ำ

เทคนิคการอ่อยเหยื่อ
การตกปลาเกล็ด การอ่อยเหยื่อถือว่ามีความสำคัญมาก แต่การอ่อยเหยื่อนั้นมีเทคนิคเหมือนกันนะ ไม่ใช่ว่า พอถึงบ่อไม่ดูตาม้าตาเรือ ผสมอ่อยอย่างเดียวนะ การอ่อยเหยื่ออย่างผิดวิธีจะทำให้ปลาไม่กินเหยื่อ กล่าวคือ อิ่มไปเลย ไม่สนใจเหยื่อที่เราตกเลย หรือ ไม่ก็ใช้เหยื่อที่อ่อยผิดประเภทของปลา ปลาทั้งหลายเลย หนีหน้า หายไปหมดเลย การผสม เหยื่อที่จะอ่อยนั้นมีอยู่หลายอย่าง ขึ้นกับ หมายหรือประเภทปลาที่จะตกปลานั้นๆ
1. ใช้ รำ หรือ อาหาร ผสมน้ำให้แฉะแล้วอ่อย ใช้ได้กับน้ำนิ่ง ครั้งแรกควรอ่อยให้มาก แล้วทะยอยอ่อยใหม่เมื่อปลาเริ่มไม่ ตอดเหยื่อ (แสดงว่าปลาออกไปแล้ว)
2. ใช้รำ หรือ อาหาร อ่อยแบบผง คือ ไม่ต้องผสมน้ำอ่อย ใช้ได้กับน้ำนิ่ง และปลาเล็กเยอะมาก เพื่อให้ปลาเล็กลอยตัวขึ้น กินเหยื่อที่อ่อย ทำให้ปลาเล็กไม่เข้าไป ตอดเหยื่อของเรา โอกาสที่ปลาใหญ่จะเข้ามาตอดเหยื่อมีมากกว่า
3. ใช้รำ หรือ อาหาร ผสมน้ำแล้วปั้นเป็นก้อน โตๆ ขนาด ลูกฟุตบอลขนาดเด็กเล่น ใช้ได้กับหมายที่มีลมค่อนข้างแรง และ กว้างพอสมควร แต่วิธีนี้ส่วนใหญ่จะต้องอ่อยไว้ล่วงหน้า หรือ อ่อยตอนเช้า ๆ เพราะถ้าหมายกว้าง ปลาจะเข้าช้ามาก
กระทู้: 38
ความเห็น: 1,067
ล่าสุด: 22-04-2567
ตั้งแต่: 27-10-2548
นารา(132 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
ความเห็นที่ 23: 22 ธ.ค. 49, 08:25
4. ใช้รำ หรืออาหาร ผสมน้ำให้เป็นผง เปียก ใช้ได้ทั่วไป อ่อยเรื่อย ทีละน้อย แต่บ่อยครั้ง จนปลาเข้า ในการอ่อยเหยื่อนี้ อาจใช้เทคนิคต่างๆ ผสมผสานเข้าด้วยกันได้ และให้สังเกตุว่าอ่อยแบบไหน ปลาเข้าเร็ว ก็ให้ใช้วิธีนั้น กับ หมายนั้นๆ
หมายเหตุ ถ้าใช้เหยื่อที่จะอ่อยเป็นชนิดเดียวกับ เหยื่อที่จะใช้ตกปลา จะเป็นการดีที่สุด เช่น ตกปลานิล ปลาไน ยี่สก นวลจันทร์ ก็ใช้ เหยื่อตกปลานิล สูตร เบิ้มฟิชชิ่ง สันป่าตอง ทั้งตก และอ่อย หรือหากหาซื้อไม่ได้ (เพราะทำเองไม่ได้ส่งร้านไหน) ก็ใช้ อาหารปลากินพืชผสมอาหารปลาดุก ทั้งตกทั้งอ่อย ส่วนการตกปลาตะเพียน ใช้รำผสมกับปลากินพืช หรือใช้เหยื่อสำเร็จ ทั้งตกทั้งอ่อยจะได้ผลดีกว่า เช่น เหมยเขียว คอมพิวเตอร์แดง เกล็ดแก้ว เกล็ดเงิน ฮุป ไพลิน ฯลฯ แล้วอย่าลืมว่าการผสม เหยื่อตกปลานั้น อย่าให้แข็งเป็นก้อนหินเป็นอันขาดเหยื่อตกปลาที่ดี ต้องนิ่ม เมื่อปลาตอดแล้วกินได้เลย หรือสามารถ ตวัดติดตัวปลาได้ง่ายเพราะเหยื่อจะหลุดจากตัวเบ็ดทันทีที่เราตวัดคันเบ็ด เทคนิค การตั้งทุ่น

เทคนิคการตั้งทุ่น
ซึ่งจะเป็นการตกหน้าดินเท่านั้น มีอยู่เพียงแค่ 2 อย่างเท่านั้น ง่ายๆ คือ
- การตั้ง สตอป-ลายนฌให้พอดีกับ ระดับน้ำ วิธีนี้ เมื่อเหยื่อตกถึงหน้าดิน ทุ่นของเราจะตั้งตรงพอดี แต่ถ้าเหยื่อตกถึงหน้าดินแล้วทุ่นนอน ก็ให้ขยับสตอป-ลายน์ ลงไปทางสายรีดเดอร์หรือลูกหมุน แต่ถ้า เหยื่อตกถึงหน้าดิน แล้‡ทุ่น ม ก็ให้ขยับ สตอป-ลายน์ ลงไปทางตัวรอก
- การตั้ง สตอป-ลานย์ ให้สูงกว่าระดับน้ำนิดหน่อย เมื่อเหยื่อตกถึงหน้าดินทุ่นจะล้มอยู่ (ทุ่นนอน) แล้วให้เราหมุนรอกเข้า มา แล้วทุ่นก็จะตั้งพอดีสังเกตุว่า สตอป-ลายน์ สูงกว่าระดับน้ำนิดเดียว คือเมื่อหมุนรอก เข้า นิดหน่อยทุ่นก็ตั้งแล้ว แต่ถ้า ต้องหมุนรอกเข้ามามาก ทุ่นถึงจะตั้งแสดงว่าสตอป-ลายน์ สูงกว่าระดับน้ำมาก ก็ขยับสตอป-ลานย์ไปทางตัวเบ็ดอีก เทคนิคนี้ใช้สำหรับการตกแบบหน้าดินเท่านั้น แต่ถ้าท่านต้องการตกแบบทุ่นลอย ก็ต้องเปลี่ยนทุ่นให้ใหญ่ขึ้น พอที่ จะรับน้ำหนักเหยื่อได้พอดี

เทคนิคการอ่านสัญญานทุ่น
เทคนิคการอ่านสัญญานทุ่นนี้ นับว่าสำคัญมากในการตกปลาแบบนี้ เพราะถ้าท่านอ่านสัญญานทุ่น ไม่เป็น หรือผิดพลาดโอกาสได้ปลาก็จะน้อยลงตามไปด้วย ซึ่ง ผู้เขียนเองได้เคยพบบ่อยมาก เมื่อเข้าไปตกปลาตามบ่อตกปลาต่างๆ บางคนได้ปลาเป็นสิบๆ ตัว แต่บางคนยังไม่ได้ปลาเลย ทั้งทั้งที่ ใช้เหยื่อแบบเดียวกัน เมื่อพูดคุยกับคนที่ไม่ได้ปลาก็สรุปได้ว่า เพราะเค้ารอให้ทุ่นจมก่อน ถึงจะตวัดเบ็ด ก็เลยไม่ได้ปลาในวันนั้น ซึ่งนักตกปลาที่ดีนั้นต้องรู้จักสังเกตุ และปรับเปลี่ยนเทคนิค ต่างๆ ด้วย จึงจะเก่งและชำนาญ ลักษณะของสัญญานทุ่นมีดังนี้
1. ทุ่นจม ลักษณะนี้ จะพบยากมาก ในบ่อตกปลาเกล็ดที่เปิดมานาน เพราะส่วนใหญ่ปลาในบ่อจะพบกับการตกปลามาบ่อยมาก เคยโดนเบ็ดมาแล้วเป็นส่วนใหญ่ เค้าเรียกกันว่า "ปลาเซียน" คือ มีความระแวงมาก การกินเหยื่อแต่ละทีจะค่อย ๆ ตอด จนเห‚ื่อ หลุดจากตัวเบ็ด เลยหมดโอกาสในการตวัดปลา แต่ถ้าสัญญานทุ่นจม แสดงว่า ปลาตัวที่กินเบ็ด นั้น หิวมากและไม่มีความ ระแวงเลย และจะมีปลานิลบางตัว เมื่อเข้ามาตอดเหยื่อแล้วจะไม่ยอมกินทันที จะใช้วิธี เล็มและใช้หาง หรือตัว สะบัดไปที่เหยื่อ ซึ่งจะทำให้ทุ่นจมได้ แต่ทุ่นที่ใช้ต้องเป็นทุ่น ขนาดเล็ก(ใบไม้ไหว)เท่านั้น
2. ทุ่นยกขั้น ลักษณะนี้เรียกกันว่า กินหนุน คือเมื่อปลาเข้ามากินเหยื่อแล้วจะคาบขึ้นสู่ผิวน้ำ จะทำให้ตัวทุ่นเป็นอิสระ ทุ่นจะยกขึ้น หรือถ้ายกนานมากจน เป็นลักษณะทุ่นนอนได้
3. ทุ่น เดิน ลักษณะนี้ ปลาจะคาบเหยื่อแล้วลากไป แต่ไม่เร็วนัก จึงจะเห็นทุ่น ค่อย ไหลไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่ง
4. ทุ่นขยับขึ้นลงเป็นจังหวะสม่ำเสมอ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นลักษณะการกินเหยื่อของปลา ยี่สก หรือนวลจันทร์ แต่ปลายี่สกจะกินเหยื่อแบบนี้ชัดเจนกว่า คือเมื่อปลามาตอดเหยื่อแล้ว รถชาติถูกใจ ปลายี่สกจะเคี้ยวเหยื่อทำให้ทุ่นขยับขึ้นลง เป็นจังหวะ สม่ำเสมอ
5. ทุ่นขยับขึ้นหรือลงนิดเดียว ลักษณะนี้ พบมากในบ่อตกปลาเกล็ดที่เปิดมานาน การตวัดทันทีที่ทุ่นขยับ จะใช้กับบ่อตกปลาที่ปลาระแวงมากๆ และให้ใช้ตัวเบ็ดที่ใหญ่ขึ้น เช่น # 7-9 จะทำให้เกี่ยวกับตัวปลาได้ง่าย วิธีนี้เซียนปลาเกล็ดชอบใช้กันมาก เมื่อปลาเข้ามาใกล้เหยื่อ(ตัวเบ็ด) เซียนปลาเกล็ดจะรีบตวัดเหยื่อทันที ซึ่งตัวเบ็ดก็จะเกี่ยวบริเวณลำตัวของปลา เช่น สีข้าง หาง หรือคาง เป็นต้น เทคนิคนี้ต้องอาศัยความชำนาญเป็นอย่างมาก

ลักษณะของสัญญานทุ่นเหล่านี้ ท่านต้องรีบตวัดเบ็ด โอกาสที่ได้ตัวปลาจะมีมาก ไม่ต้องรอให้ ทุ่นจมอย่างเดียว เพราะปลาแต่ละชนิดกินเหยื่อไม่เหมือนกัน หรือแม้แต่ปลาชนิดเดียวกัน ลักษณะการกินเหยื่อ ยังไม่เหมือนกันเลย ซึ่งหากท่านได้หัดฝึกฝนและเรียนรู้แล้ว จะสามารถบอกได้เลยว่าปลาที่เข้ามาตอดเหยื่อคือปลาอะไร ซึ่งมีเปอร์เซนต์ถูกถึง 80 % เลยหละ ถ้ามีประสบการณ์มากๆ

เทคนิคการตกปลาเกล็ดแบบสะปิ๋ว
ควรตกปลาให้ห่างฝั่ง ไม่เกิน 3 เมตร จะดีที่สุด แต่บางแห่งบางสถานที่อาจจะตกไกลกว่านี้ก็ได้ แต่ก็ขอย้ำอีกที การตกปลาเกล็ดแบบสะปิ๋ว นั้นต้องมีความอดทน และหมั่นหาประสบการณ์ ช่างสังเกตุ เช่นเมื่อท่านเข้าไปตกปลาตามบ่อ ตกปลยต่างๆ หรือหมายธรรมชาติ ต้องสังเกตุว่า นักตกปลาที่เขาได้ปลานั่งมุมไหน แล้วใช้เหยื่ออะไร ไม่ใช่ เข้าไปก็เดินดุ่ยๆ หาหมายเอง โดยไม่ดูอะไรเลย เอาสะดวกเข้าว่า ถ้าแบบนี้ละก้อ อด !!! เพราะตามหมายต่างๆ นั้น ลักษณะความลึก ตื้น ของน้ำ หรือแม้กระทั่ง ผิวดินใต้น้ำจะไม่เหมือนกัน บางแห่งปลาไม่ชอบอยู่อาศัย หรือหากินบางแห่งจะเป็นแหล่งหาอาหารและที่อยู่ เลยหละ อ้อแล้วอย่าลืมนะ ! การตกปลาแบบนี้จะต้องอาศัยความเงียบและสมาธิมากพอสมควร นักตกปลาควรมีมรรยาทใน การตกปลาไม่ไปรบกวนนักตกปลาท่านอื่นทั้งบนบก และในน้ำ อย่าบ่นเมื่อไม่ได้ปลา ขอให้ใจเย็น และอดทน
กระทู้: 38
ความเห็น: 1,067
ล่าสุด: 22-04-2567
ตั้งแต่: 27-10-2548
นารา(132 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
ความเห็นที่ 24: 22 ธ.ค. 49, 08:26
การตกสะปิ๋วแบ่งเป็น 2 ลักษณะ คือ
1) การตกแบบหน้าดิน
2) การตกแบบลอยผิวดินถึงผิวน้ำ

1) การตกแบบหน้าดิน

จะเป็นการตกครอบคลุมปลาหลากหลายชนิด และ สามารถใช้ได้กับทุกสภาพพื้นที่ คือ ทั้ง หมายธรรมชาติ และบ่อตกปลา เป็นที่นิยมของผู้เริ่มตกปลาแบบสะปิ๋ว เพราะ อ่านทุ่นง่าย ตั้งทุ่นง่าย ไม่ยุ่งยาก ใช้เหยื่อได้ทั้ง เหยื่อหุ้ม(พวกรำ ปังป่น)
และเหยื่อเป็น(กุ้ง ใส้เดือน ใข่มด )


>> การประกอบปลายสาย
- ร้อยใลน์สตอปเปอร์ ที่มีขายสำเร็จ หรือจะใช้สายเอ็นมัดเป็นเงื่อนเอาก็ได้ แต่ไม่ควรใช้หนังยาง เพราะ
อาจรูดจนเสียระดับที่ตั้งความลึกใว้
- ใส่ทุ่นชิงหลิว เลือกใช้ขนาดเล็ก ถึงกลาง หรือตามสภาพแหล่งน้ำ แต่ส่วนตัวผม ชอบทุ่นเล็กๆ มีบางท่านนำไม้ยมมาทำ เพื่อให้ใวเมื่อจมลง หรือถอนตัวใวขึ้น ถ้าน้ำลึกควรใช้แบบ
ทุ่นรูดที่มีลูกหมุน แต่ถ้าน้ำตื้น เลือกใช้แบบทุ่นเสียบ ก็ได้ครับ
- ร้อย ใลน์สตอปเปอร์ เข้าไปอีกอันนึง เพื่อ กันทุ่นไม่ให้ใหลลงมากองที่ตะกั่ว และยังทำให้ตั้งทุ่นได้ใวขึ้น
- ใส่ตะกั่วฟิวส์ เข้าไป โดยที่ขนาดของตะกั่ว จะต้องทำให้ทุ่นจมลงได้ และ เมื่อปลามาอมเหยื่อยกตัวขึ้น
ไม่ทำให้ปลาเกิดกระดากปากจนคายเหยื่อ คือไม่ใหญ่นั่นเอง สามารถทำให้เห็นการขยับของเหยื่อผ่านทางทุ่นได้อย่างดี ก็คือขนาดของตะกั่วที่ดี
- นำลูกหมุนขนาดเล็ก แบบสองทางหรือทางเดียวมาผูก ส่วนตัวผม จะชอบลูกหมุนทางเดียวธรรมดา แล้วนำสายหลีดที่มัดขอเบ็ดตัวเล็กๆ ที่เลือกใว้ มาผูกให้มีความยาวจากขอเบ็ดถึงลูกหมุนซัก 2.3 นิ้ว โดยการผูกสายหลีดที่ลูกหมุน แล้วเหลือปลายสายยาวๆ อีกด้านหนึ่ง เพื่อมัดขอเบ็ดเพิ่มอีกหนึ่งขอ ที่ความยาว ซัก 2.5 นิ้ว จะทำให้ได้ขอเบ็ดที่มัดเป็นรูปตัว U ที่มีข้อดีคือ สายหลีดไม่พันกัน วัดปลาติดดี และสายไม่ค่อยบิดตัวจนงอหงิก

>> การตั้งทุ่น
- รูดใลน์สตอปเปอร์ กะความสูงว่าต่ำกว่าระดับน้ำที่เราจะตก อาจจะใช้ซัก สองศอกก่อน แล้วนำดินข้างๆมาหุ้ม อย่าพึ่งหุ้มด้วยเหยื่อหุ้มนะครับ เด๋วมีผิดคิว
- โยนลงไปที่ตำแหน่งที่เราจะตกจริง ดูว่าทุ่นจมหรือไม่ เมื่อทุ่นจม ให้นำขึ้นมา รูดใลน์สตอปเปอร์ให้สูงขึ้นอีก แล้วโยนลงไปใหม่ ทำจนกว่า ทุ่นจะตั้งตรง แล้วให้ปรับใลน์ ให้หางทุ่นโผล่มาซักสองข้อ ก็แล้วแต่ชนิดทุ่นที่ใช้ครับ ส่วนตัวผมสองข้อ จะอ่านได้ดีกว่าครับเพราะผมใช้ทุ่นอันเล็กๆ
- หลังจากนั้น ทำการผสมเหยื่ออ่อย โดยอาจจะใช้หัวอาหารปลาดุกกับหัวอาหารปลากินพืช ผสมกัน แล้วเติมน้ำลงไปให้แฉะๆ สาดลงไปยังตำแหน่งที่จะตก อย่าอ่อยมากจนน่าเกลียด หรือทำให้คนข้างๆเขาว่าเอาครับ อ่อยน้อยๆ แต่บ่อยๆ สาดข้างหน้าที่นั่งอยู่ แล้วรอซักพัก ช่วงนี้ก็สังเกตุรอบๆข้างว่าเป็นอย่างใร แต่พยายามอย่าเคลื่อนใหวมากนัก เพราะปลาเกล็ดมักจะระแวงเมื่อเห็นเงาวูบวาบ อาจไม่ยอมเข้าก็ได้ ทำตัวเงียบๆ และคอยสังเกตุจะดีที่สุด

>> การอ่านทุ่น
1. ถ้าหากใช้เหยื่อหุ้ม เมื่อมีปลาเข้ามากินโดยการ ดูด พ่น ที่ก้อนเหยื่อ ทุ่นจะขยับตัวขึ้นๆลงๆ ถ้าหากทุ่นจมอย่างแรง เพราะปลาคาบเหยื่อแล้วว่ายไป ให้วัดได้เลย ถ้าหากปลาดูด พ่นเหยื่อ แล้วคาบเหยื่อยกตัวขึ้นมา ทุ่นก็จะถอนตัวขึ้น จนนอนราบ ก็วัดได้เลยเช่นกัน ให้นั่งมองทุ่นให้ดีครับ พยายามมีสมาธิกับการสังเกตุทุ่น ไม่งั้นอาจวัดไม่ทันก็ได้ เพราะปลาบางตัวเมื่อคาบเหยื่อ หรือดูดเข้าปากจนทุ่นจมแรงๆ อาจคายทิ้งทันทีได้เช่นกัน ทำให้อดได้ตัวถ้าวัดไม่ทัน
2. กรณีใช้เหยื่อเป็น ส่วนมากปลาจะเข้ามางาบแล้วรีบว่ายหนี เพราะไม่งั้นตัวอื่นๆจะเข้ามาแย่ง จึงทำให้ทุ่นจมซะส่วนมาก ก็วัดได้เลย
กระทู้: 38
ความเห็น: 1,067
ล่าสุด: 22-04-2567
ตั้งแต่: 27-10-2548
นารา(132 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
ความเห็นที่ 25: 22 ธ.ค. 49, 08:27
2) การตกแบบผิวดินถึงผิวน้ำ
จะเป็นการตกแบบทุ่นลอย เพียงแต่เราให้เหยื่อลอยระดับหน้าดินจนถึงผิวน้ำ เพื่อให้เหยื่ออยู่เหนือขี้โคลน อย่างเช่นในบ่อตกปลาที่ขี้โคลนมาก หรือสำหรับปลาที่กินเหยื่อยากส์ หรือปลาที่หากินระดับกลางน้ำถึงผิวน้ำ

>> การประกอบปลายสาย
- ประกอบใลน์ และทุ่นชิงหลิว โดยตั้งใลน์ซัก หนึ่งศอกใว้ก่อน และทุ่นให้ใช้ทุ่นที่มีหางทุ่นยาวซักหน่อย อาจจะซัก 3.5 นิ้วเป็นอย่างน้อย สำหรับทุ่นเล็ก ก็ให้เลือกใช้กันเอาเองครับ แต่เน้นที่หางทุ่นยาวกว่าแบบการตกแบบหน้าดินซักหน่อย แล้วประกอบใลน์ตัวล่างเข้าไปอีกหนึ่งอัน
- หาลูกหมุนมาอันหนึ่ง ทำการวัดการตั้งทุ่น โดยการใช้ลูกหมุนตัวขนาดเล็กก่อน ผูกเข้าไป แล้วโยนลงน้ำ ดูว่า ทุ่นจมหรือไม่ คือว่าเราต้องให้ทุ่นจมระดับตัวทุ่น แต่ให้หางโผล่ทั้งหมด ถ้าหากลูกหมุนเล็กเกินจนไม่ทำให้ทุ่นจม ก็เอาขึ้นมาเปลี่ยนลูกหมุนที่มีขนาดใหญ่ขึ้นมาหน่อย แล้วทำการโยนลงไปเพื่อดูการจมของทุ่นใหม่ ทำแบบนี้จนกว่าจะได้ขนาดของลูกหมุนที่ทำให้ทุ่นจมเฉพาะตัวทุ่น
- นำตะกั่วฟิวส์มาพันเข้าไป แล้วทำการโยนลงไปเพื่อตั้งระดับหางทุ่น โดย หางทุ่นควรจะโผล่ขึ้นมาซัก สี่ข้อ โดยส่วนตัวของผมใช้ขนาดนี้ ท่านจะปรับเปลี่ยนได้เลยครับแต่ให้คำนึงถึงขนาดเหยื่อที่ใส่เข้าไปว่าจะทำให้ทุ่นจมลงมิดไม่เห็นหางทุ่นหรือไม่นะครับถ้าใช้ระดับหางทุ่นต่ำๆ ถ้าหากระดับหางทุ่นไม่ได้ตามนี้ ก็ให้เอาขึ้นมา แล้วตัดตะกั่วฟิวส์ที่พันออกทีละน้อย แล้วทำเช่นนี้จนได้ระดับหางทุ่นที่ต้องการ
- นำขอเบ็ดที่มัดสายเอ็นหลีดยาวอย่างต่ำ 4 นิ้วผูกลูกหมุน
- ลองนำดินข้างๆ มาหุ้ม แล้วโยนลงไป กะให้เห็นหางทุ่นซักสองข้อ โดยปรับขนาดก้อนดิน และถ้าตกจริงก็ให้ขนาดเหยื่อหุ้มเท่าๆกับดินที่เราหุ้มลองนี้ครับ แต่ถ้าเหยื่อเป็นจะจมลงไม่มากเท่าใหร่ ก็ถือว่าได้ครับ ดีด้วย
- ถ้าหากต้องการให้เหยื่อลงไปจนถึงผิวดิน ก็ให้ปรับ ใลน์ขึ้นไป แล้วทำการวัดระดับ จนได้ตามต้องการ
- แล้วก็ทำการอ่อย แต่ว่า โดยมากแล้ว เราจะวางเหยื่อตรงที่เราเห็นตัวปลามันขึ้นน้ำ และมักจะวางเหยื่อใกลฝั่ง การอ่อยจึงมักไม่ค่อยเห็นผลเท่าใหร่ ในกรณีที่เราตั้งใลน์กลางน้ำถึงผิวน้ำนะครับ แต่ถ้าเป็นใกล้ๆฝั่ง จะได้ผลดีครับ วัดติดง่ายกว่าด้วย โดยใช้ระดับผิวดินเป็นหลัก

>> การอ่านทุ่น
- กรณีที่ใช้เหยื่อหุ้ม ปลาเข้ามากินเหยื่อ โดยดูด พ่น ตอด ทุ่นก็จะขยับวนๆ ขึ้นๆลงๆ ถ้ามันคาบเหยื่อแล้วว่ายลง
ทุ่นก็จะจม ให้วัดเลย ถ้าปลาคาบเหยื่อ ดุนๆเหยื่อ ไปข้างหน้าคาบแล้วว่ายไป ทุ่นมักจะเคลื่อนออกไป ที่เรียกว่าทุ่นเดิน วัดได้เลยครับ แต่ถ้าคาบแล้วยกตัวขึ้นจนทุ่นถอนขึ้นมาก็วัดได้เช่นกัน แต่โดยมาก การตกแบบทุ่นลอยนี้ มักใช้เหยื่อเป็นมากกว่าครับ เพราะเหยื่อหุ้ม ถ้าไม่ใช่จำพวก หัวอาหารแล้ว ถ้าเป็นรำ จะละลายหลุดจากขอเบ็ดเร็ว จึงไม่ค่อยดีเท่าใหร่ แต่ก็เห็นใช้กันนะครับ แล้วแต่ครับ เลือกใช้เอาเถอะ
- เหยื่อเป็น ปลามันมักจะเข้ามาคาบ มางับ แล้วว่ายหนีลงไป ทุ่นจึงมักจมอย่างเดียว วัดได้เลยครับ แต่ก็มีนะครับประเภททุ่นถอนขึ้นมาก่อน แล้วจมพรวดลงไปวัดได้เลยครับ


อืม ใช้เหยื่อใหญ่เกินไปมั้งครับผม
ถ้าหากเล่นลอย จะนิยมใช้ทุ่นอันเดียวไม่ต้องใส่ตะกั่วถ่วง และใช้ลูกหมุนตัวเล็กๆ ผูกขอเบ็ดอันเดียว เวลาเล่น ก็เอาเหยื่อมาหุ้มขอแล้วลองโยนลงน้ำดูก่อนว่าทุ่นจมใหม ถ้าจม เอาขึ้นมาแล้วบีบเหยื่อทิ้งไปให้เหยื่อเล็กลง แล้วลองโยนลงไปใหม่ทำจนกว่าหางทุ่นจะโผล่ ก็ให้จำขนาดของก้อนเหยื่อใว้
โดยมากแล้วการเล่นลอยจะนิยมพวกเหยื่อเป็น เช่นกุ้ง สำหรับปลานิลจอมตะกระที่มักรวมตัวกันเป็นฝูง เหยื่อเบาๆ จะเล่นง่ายกว่าเหยื่อนวด เพราะ เหยื่อนวดจะอ่านจังหวะตวัดคันเบ็ดยาก เวลาปลามาเล็มเหยื่อ เหยื่อจะกะตุกขึ้นๆลงๆ และเดินออกไปตามทิศทางที่ปลาเข้ามา กะตวัดตอนทุ่นจมได้เท่า่นั้น ถ้าทุ่นเดินๆ หรือถอนขึ้นจะตวัดไม่ค่อยติด ถ้าใช้เหยื่อเป็นรับรองว่าได้วัดเพราะทุ่นจมตลอด สนุกดีครับ
ป.ล.ผมก็ยังมือใหม่ ก็พอแนะนำได้เท่าที่สังเกตุพี่ๆเขามาอะครับผม คงต้องรอพี่ๆที่เชี่ยวชาญด้านนี้มาแนะนำเพิ่มเติมอีกทีนะครับ .... พี่เบิ้ม สันป่าตอง คราบบบบบบ.........
- ทุ่นถอนหรือจม วัดไม่ติดปาก เพราะ ใช้ตัวเบ็ดใหญ่เกิน ,ปลาว่ายชนสาย,เป่าเหยื่อหรือพ่นเหยื่อ ,ปลาเล็กกวนโดยเฉพาะปลาขาวปลาซิวปลาสร้อยทั้งหลาย ใช้อุปกรณ์พวกทุ่นหรือปลายสายไม่เหมาะสม ทำให้วัดไม่ทัน และ ประสบการณ์ สำคัญ

- มัดเบ็ดสองตัว ใช้ลูกหมุนทางเดียวก็ได้ ดีด้วย ทางเหนือเรียกการตกสะปิ๋วว่าตกสองขอเพราะใช้เบ็ดสองตัว ถ้าใช้ตัวเดียว มักจะตกวิธีหลีดศอก คือมัดเบ็ดตัวเดียวใช้สายหน้ายาวซักหนึ่งศอก เพื่อตกแบบเหยื่อเม็ดเดียว หรือตกลอยหรือตกบาลานอะไรนั่น เป็นเทคนิคอีกแบบ นอกเหนือจากเหยื่อนอน (ใช้ตะกั่วฟิวส์)หรือเหยื่อตั้ง (ไม่ใส่ตะกั่ว) แบบสองขอหลีดสั้น และหลีดศอกเม็ดเดียวกับเหยื่อลอยเลียดๆทุ่นขนาดกลาง
- ทุ่นจมหาย ตอนลงเหยื่อ เป็นเรื่องปรกติ ขึ้นกับการเซทปลายสาย ถูกต้องหรือเปล่า ทุ่นจมก่อนแล้วค่อยๆโผล่ หรือเปล่า หลักพื้นๆของการตกสะปิ๋วต้องรู้จักเลือกขนาดของปลายสาย และวิธีตั้งทุ่นที่ถูกต้อง ปัญหาหลายอย่างจึงจะไม่มี เพราะหัวใจการตกทุ่นคือการตั้งทุ่นให้เป็นก่อนนั่นแหละ
          Coppy แม้กาทั่งบทสนทนา
หน้าที่: 1 | 2 | 3 >
siamfishing.com © 2024